เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 12 พ.ย. นายบุญเลิศ ขวัญเมือง อายุ 54 ปี บ้านเลขที่ 387 ถนนแม่น้ำแคว ต.ท่ามะขาม อ.เมืองกาญจนบุรี เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ท.ยุทธนา สร้อยระย้า ร้อยเวร สภ.ต.ลาดหญ้า อ.เมืองกาญจนบุรี ให้ดำเนินคดีกับ จ.ส.อ.ผดุง เหมาไม้เมือง สังกัดร้อย ร.29 พัน 1 กองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ จ.กาญจนบุรี กล่าวหาว่าลงโทษ พลทหารกวี ขวัญเมือง อายุ 19 ปี สังกัดร้อย ร.29 พัน 1 กองพลทหารราบที่ 9 ซึ่งเป็นลูกชายนายบุญเลิศ ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส ขณะนี้นอนพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ค่ายสุรสีห์
พร้อมกันนี้ นายบุญเลิศให้รายละเอียดว่า พลทหารกวีไปสมัครเป็นทหารเมื่อปี 2548 เพื่อหวังรับใช้ชาติ โดยถูกส่งตัวไปปฏิบัติหน้าที่สังกัดชุด ฉก.12 อ.บันนังสตา จ.ยะลา นานกว่า 1 ปี เพิ่งจะได้รับอนุญาตจากผู้บังคับบัญชาให้เดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านเมื่อเดือน ต.ค.2549 ที่ผ่านมา และจะต้องกลับไปรายงานตัวในวันที่ 3 พ.ย. ปรากฏว่า พลทหารกวีกับเพื่อนทหารสังกัดเดียวกันอีก 4 นาย ประกอบด้วยพลทหารปัญญา กองทอง อายุ 22 ปี พลทหารสุพรรณ อุ่นวงษ์ อายุ 21 ปี พลทหารอัครพล พุกถัน อายุ 25 ปี และพลทหารนิรุตน์ แดงสุวรรณ อายุ 22 ปี ไปรายงานตัวในวันที่ 8 พ.ย. ช้ากว่ากำหนด 5 วัน ถูก จ.ส.อ.ผดุงเรียกไปลงโทษใช้ลำไม้ไผ่ขนาดเท่ากระบอกข้าวหลาม ยาวประมาณ 2 เมตร ทุบตีอาการสาหัส เห็นว่าเป็นการลงโทษที่กระทำเกินกว่าเหตุ จึงเข้าแจ้งความ และยืนยันจะดำเนินคดีจนถึงที่สุด ?รู้สึกเสียใจ ลูกชายอยากเป็นทหารมาก ไปสมัครเพื่อต้องการรับใช้ชาติ ขณะถูกส่งไปประจำที่ จ.ยะลา ผ่านเหตุการณ์รุนแรงมาหลายครั้ง ไม่คิดว่าจะต้องมาทำรุนแรงกันอย่างนี้ อาการบาดเจ็บแพทย์ยังไม่ยืนยันว่า หลังหายแล้วร่างกายจะกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมหรือไม่ เนื่องจากเอ็นขาด? นายบุญเลิศกล่าวด้วยความคับแค้นใจ
ระหว่างตำรวจสอบปากคำนายบุญเลิศอยู่นั้น มีญาติของพลทหารปัญญา พลทหารสุพรรณ พลทหารอัครพล และพลทหารนิรุตน์ ซึ่งถูก จ.ส.อ.ผดุงลงโทษได้รับบาดเจ็บเช่นกัน แห่ขึ้นโรงพักเตรียมแจ้งความเพิ่ม ต่อมา ร.อ.ปิยะรเณศ ภัทรศาศวัตวงษ์ นายทหารยุทธการและการฝึกร้อย ร.29 พัน 1 นำตัวพลทหารปัญญา พลทหารสุพรรณ พลทหารอัครพล และพลทหารนิรุตน์ เข้าพบตำรวจและญาติที่โรงพัก เพื่อให้ชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยพลทหารทั้ง 4 นาย ชี้แจงตรงกันว่า วันเกิดเหตุหลังเดินทางกลับถึงกองร้อย ถูก จ.ส.อ.ผดุงเรียกไปลงโทษ โดยให้ไปหาไม้ไผ่มาคนละลำ ขนาดเท่ากระบอกข้าวหลาม จากนั้นให้ทั้งหมดยืนเข้าแถวเรียงหน้ากระดาน แล้วเรียกออกไปทำโทษ ใช้ไม้ไผ่ทุบตีทีละคนจนไม้ไผ่แตกหัก จึงหยุดลงโทษ กระทั่งมาถึงคิวของพลทหารกวี ถูกเรียกไปลงโทษเป็นคนที่ 4 จ.ส.อ.ผดุงใช้ไม้ไผ่กระหน่ำตีอย่างแรงเข้ากลางหลังและน่องหลายครั้งจนไม้ไผ่แตก เลือดกระฉูดล้มลง ด้วยความตกใจนำเสื้อมาปิดซับบาดแผลห้ามเลือด แล้วนำส่ง รพ. แพทย์ยืนยันเส้นเลือดใหญ่ขาด เส้นเอ็นขาด หลังเกิดเหตุ จ.ส.อ.ผดุงทำหนังสือมาให้เซ็นว่ายินยอมให้ถูกลงโทษ แต่พวกตนไม่ยอม
ในขณะที่ ร.อ.ปิยะรเณศ ภัทรศาศวัตวงษ์ นายทหารยุทธการและการฝึกประจำร้อย ร.29 พัน 1 กล่าวว่า หลังเกิดเรื่อง ทางผู้บังคับบัญชาระดับสูงไม่ได้นิ่งนอนใจ สั่งตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเร่งด่วนแล้ว ในเบื้องต้นพบว่า จ.ส.อ.ผดุงลงโทษพลทหารทั้ง 5 นาย ด้วยการใช้ไม้ไผ่ทุบตี จึงมีคำสั่งกักบริเวณในกองร้อย ร.29 พัน 1 และกำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนทางวินัยและอาญาอย่างเป็นธรรมตรงไปตรงมา ไม่มีเข้าข้างใคร ขอยืนยันว่าพลทหารก็เป็นกำลังหลักเช่นกัน ไม่เคยแบ่งแยก เรื่องที่เกิดขึ้นถือเป็นความผิดส่วนตัวในการลงโทษที่รุนแรง หากผลสรุปออกมาว่าทำเกินกว่าเหตุจะต้องนำไปขังที่ จทบ.กาญจนบุรีต่อไป
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์