ที่โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณและครอบครัว แถลงว่า ไม่ได้เป็นโฆษกส่วนตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ มีหน้าที่เป็นเพียงที่ปรึกษาด้านกฎหมายเท่านั้น ทำงานไปตามวิชาชีพ ส่วนกระแสข่าวที่ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับมาในสิ้นปีนี้นั้น ถือเป็นกระบวนการปล่อยข่าวที่เป็นระบบ ที่บอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะลักลอบเข้ามาตามแนวชายแดน หรือขับรถเข้ามานั้น ขอปฏิเสธโดยสิ้นเชิง เพราะไม่มีมูลความจริง ส่วนตัวได้คุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณแล้ว พบว่าการกลับมาจะต้องคำนึงถึงสถานการณ์ และการกลับมาจะต้องเป็นไปอย่างสง่าผ่าเผย ถูกต้องสมศักดิ์ศรี นั่งเครื่องบินมาลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณผลักดันจนมีการสร้างจนสำเร็จ ทั้งนี้ขอขอบคุณ พล.อ.ชวลิตที่ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับการกลับมาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าคนไทยมีสิทธิที่จะกลับมาตามหลักสิทธิมนุษยชน
จะกลับมาปลายปีนี้ไม่เป็นความจริง
นายนพดลกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.ทักษิณยืนยันว่า การกลับมาจะต้องดูสถานการณ์ภายในประเทศ ดูความเหมาะสม และต้องหลีกเลี่ยงการปะทะระหว่างกลุ่มสนับสนุนและกลุ่มต่อต้าน การกลับมาไม่ต้องการให้เป็นความกังวลใจของ คมช.และรัฐบาล จึงอยากขอร้องให้ยุติการปล่อยข่าวได้แล้ว ที่ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับมาปลายปีนี้นั้น ยืนยันว่าไม่เป็นจริง เท่าที่ได้คุยกับ พ.ต.ท. ทักษิณก็ไม่มีทีท่าไปในทำนองนั้น มีแต่อยากจะให้ สถานการณ์คลี่คลายก่อน ซึ่งตัวบ่งชี้อันหนึ่งก็คือการยกเลิกกฎอัยการศึก แต่ไม่ใช่ว่าเมื่อยกเลิกวันนี้แล้วพรุ่งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับมาทันที ยังไม่มีกำหนดว่าจะกลับเมื่อไหร่ เพราะถ้ากำหนดก็จะมีการลงข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณกดดัน คมช.หรือรัฐบาล เดี๋ยวจะเกิดปัญหาอีก โดยกรอบในการกลับนั้นเป็นกรอบของเงื่อนไขความสงบเรียบร้อย สถานการณ์ต่างๆให้กลับสู่สภาวะปกติพอสมควร
ยังอยู่จีนไม่มีกำหนดกลับเมืองไทย
นายนพดลกล่าวว่า ตอนนี้ พ.ต.ท.ทักษิณยังอยู่ที่ประเทศจีน ส่วนจะไปที่ไหนอย่างไรนั้นตนไม่มีข้อมูล แต่ก็คงจะอยู่ที่จีนอีกไม่นาน เพราะไม่ได้มีงานที่ต่อเนื่องอะไรมาก เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้ฝากบอกถึงสมาชิกพรรคให้หยุดการเคลื่อนไหวต่างๆ นายนพดลตอบว่า พ.ต.ท.ทักษิณบอกว่าระบอบประชาธิปไตยมีความเห็นแตกต่างกันได้ แต่ต้องไม่เคลื่อนไหวในลักษณะกดดัน หรือเป็นการใช้กำลัง หรือเป็นเงื่อนไขที่ก่อให้เกิดความไม่สงบ เมื่อถามถึงอนาคตทางการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเป็นอย่างไรต่อไป นายนพดลตอบว่า ถ้าสถานการณ์เป็นอย่างนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ คงจะยุติการทำงานทางการเมือง ซึ่งครอบครัวก็อยากจะให้ยุติ อยากจะมีเวลาสำหรับครอบครัวมากกว่า ส่วนอนาคตอีก 10 ปี 20 ปี ตนก็ไม่ทราบว่าจะเป็นอย่างไร ถ้าสถานการณ์ไม่ปกติหรือยังเป็นแบบนี้ก็คงยุติบทบาท
?โอ๊ค-เอม?ปรึกษาสรรพากรแล้ว
นายนพดลกล่าวถึงการเสียภาษีจากการซื้อขายหุ้นชินคอร์ป ของนายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร บุตรของ พ.ต.ท.ทักษิณว่า ได้รับหมายเรียกจากกรมสรรพากรแล้ว ซึ่งทั้ง 2 คนมีความยินดีที่จะไปชี้แจงในวันที่ 27 พ.ย.นี้ ที่ผ่านมาก่อนที่จะมีการโอนหุ้นจากแอมเพิล ริช มาให้นายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทา ก็ได้มีการทำเรื่องปรึกษาเป็นลายลักษณ์อักษรกับกรมสรรพากรแล้วว่า จะสามารถซื้อขายหุ้นในราคา 1 บาท โดยไม่ต้องเสียภาษีได้หรือไม่ ก็ได้รับคำตอบว่าสามารถทำได้ ยืนยันว่าทุกอย่างทำไปด้วยความสุจริต ระมัดระวังเป็นอย่างดี แต่ถ้าหลังจากนี้หากจะมีการพิจารณาเรื่องนี้ในศาล และตัดสินว่าจะต้องชดใช้ภาษีก็ยินดีที่จะทำตาม เรื่องนี้ขอให้ทุกคนยึดมั่นในกระบวนการยุติธรรม เราพร้อมทำตามทุกอย่างอยู่แล้ว
ให้ศาลฎีกาตัดสินแล้วค่อยมาว่ากัน
?ทำไมเราไม่ปล่อยโอกาสให้ศาลได้ทำงาน อย่าให้อารมณ์มาตัดสินประเด็นนี้ โดยบางครั้งรู้หรือไม่รู้ข้อเท็จจริงบ้าง ปล่อยให้กระบวนการยุติธรรมได้ทำงานอย่างตรงไปตรงมาดีกว่า ส่วนที่ต้องการไปให้ถึงศาลฎีกาไม่ใช่เจตนาดื้อดึง แต่ต้องการใช้กระบวนการยุติธรรมให้ครบถ้วน ส่วนขณะนี้ที่กรมสรรพากรมีความเห็นว่าจะประเมินภาษีนั้น ก็มีอำนาจที่จะประเมิน และเราก็เคารพยอมรับ แต่ต้องไม่ลืมว่ากรมสรรพากรมีสิทธิ์ประเมิน แต่ผู้ที่ชี้ขาดคือศาลฎีกา? ทนายความประจำตัว พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว
เมื่อถามว่า หากศาลพิจารณาให้ต้องมีการจ่ายภาษีแสดงว่าคำปรึกษาของกรมสรรพากรไม่ชอบหรือไม่ นายนพดลตอบว่า อยากให้รอให้มีการตัดสินของศาลฎีกาก่อนค่อยมาว่ากัน
ให้รอดูท่าทีหลังการเมืองพลิกโฉม
ต่อข้อถามว่า หากมีการอ้างหนังสือที่ให้คำปรึกษาไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานได้ นายนพดลตอบว่า เอกสารนี้เป็นการแสดงความสุจริตของบุคคลที่เกี่ยวข้องว่าได้ดำเนินการอย่างถูกต้องรอบคอบ ได้หารือกับหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ต้องการจะทำตามกฎหมาย ไม่ได้มีเจตนาจะเลี่ยงภาษี การซื้อขายครั้งนี้เป็นเงินสูงไม่ใช่ซื้อขายของสี่สิบห้าสิบ ดังนั้น การเสียภาษีต้องมีความชัดเจนจึงได้มีการหารือไป เมื่อกรมสรรพากรวินิจฉัยเช่นนี้ ในฐานะประชาชนก็ต้องปฏิบัติตาม แต่เมื่อการเมืองเปลี่ยนแปลงไป กรมสรรพากรจะดำเนินการอย่างไรก็ต้องรอดู เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่านายพานทองแท้จะเดินทางไปประเทศจีน นายนพดลตอบว่ายังไม่มีในตอนนี้ ตนไม่มีข้อมูล เมื่อถามว่าคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ได้รับหมายเรียกจากทาง คตส.หรือยัง นายนพดลตอบว่ายังไม่ได้รับ นายนาม ยิ้มแย้ม ก็พูดชัดเจนว่ากรณีซื้อที่ดินรัชดาฯยังไม่มีการเรียกบุคคลใดมาชี้แจง ยังเป็นการสอบสวนของอนุกรรมการอยู่
อดีต ส.ส.ทรท.ถามหาเหตุผลปฏิวัติ
นายเฉลิมชัย อุฬารกุล อดีต ส.ส.สกลนคร พรรคไทยรักไทย กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ชวลิตพูดถึงการกลับประเทศไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณว่า พล.อ.ชวลิตมีความเป็นนักประชาธิปไตย มองว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นคนไทยคนหนึ่งที่จะสามารถกลับประเทศได้ ส่วนจะกลับมาอย่างไรเมื่อไหร่ เป็นเรื่องในอนาคตที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะตัดสินใจ พล.อ.ชวลิตคงเชื่อว่าการกลับมาของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะไม่มีผลกระทบหรือเป็นชนวนก่อเหตุความแตกแยกในสังคม อย่างที่ คมช.และรัฐบาลระแวง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สิ่งที่ประชาชนกำลังจับตาดูอยู่ คือเหตุผล 4 ข้อที่ใช้ในการยึดอำนาจว่าคืบหน้าไปถึงไหน เพราะมาวันนี้ก็เข้าเดือนที่ 2 แล้ว แต่ยังไม่มีการดำเนินการอะไรที่เป็นรูปเป็นร่าง ถ้ายังปล่อยให้เนิ่นนานออกไป จะยิ่งผูกมัดกดดัน คมช.และรัฐบาลมากขึ้น ดังนั้น จำเป็นต้องมีคำอธิบายที่ชัดเจนให้ประชาชนฟัง ส่วนกรณีที่มีการแต่งตั้งทหารเข้าไปเป็นกรรมการบอร์ดรัฐวิสาหกิจต่างๆนั้น พล.อ.ชวลิตก็บอกว่ารัฐบาลและ คมช.ควรระวังในเรื่องนี้ เพราะทหารไม่ได้ทำอะไรเป็นหมดทุกเรื่อง
?ทักษิณ? อาจกลับมาใน 2 เดือนนี้
เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับมาในช่วงปลายปี นายเฉลิมชัยตอบว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีสิทธิจะกลับ แต่จะมาช่วงไหนเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะมีวิจารณญาณพอ เชื่อว่าการกลับมาจะไม่ทำให้เกิดปัญหา แตกแยกในสังคม ส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณคนเดียว ขึ้นอยู่กับ คมช.และทางรัฐบาลด้วย โดยหากภายใน 2 เดือนนี้ คมช.และรัฐบาลไม่สามารถทำเหตุผล 4 ข้อให้กระจ่างได้ ก็เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับมาอย่างแน่นอน เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่าประชาชน จะรวมตัวในพื้นที่ ให้กำลังใจพรรคไทยรักไทยต่อกรณีที่จะมีการพิจารณายุบพรรคในวันที่ 14 พ.ย.นี้ นายเฉลิมชัยตอบว่า เชื่อว่าจะไม่มีสมาชิกพรรคหรือประชาชนกลุ่มใดออกมาเคลื่อนไหวรุนแรง แต่ถ้าจะเป็นการเคลื่อนไหวอย่างสงบ ก็นับเป็นสิทธิตามระบอบประชาธิปไตย
ยุบพรรคต้องมีเหตุผลแจงสมาชิก
?ยอมรับว่าเท่าที่ได้คุยกับประชาชนในพื้นที่อีสาน ต่างก็ยังคิดถึง พ.ต.ท.ทักษิณ และเห็นว่าการที่คณะตุลาการรัฐธรรมนูญจะตัดสินยุบพรรคไทยรักไทย จำเป็นจะต้องมีเหตุผลชัดเจน โดยเฉพาะสมาชิกพรรค 14 ล้านคน? นายเฉลิมชัยกล่าว
เมื่อถามว่ามองหรือไม่ว่าการตัดสินอาจมีธงจากการเมือง นายเฉลิมชัยตอบว่า ไม่อยากคิดอย่างนั้น แต่การที่มีประกาศ คปค.ฉบับที่ 27 ที่ระบุว่า กรรมการบริหารพรรคจะถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี หากพรรค การเมืองใดถูกคำสั่งยุบพรรค ตรงนี้ก็น่าจะมองได้เหมือนกันว่าเป็นธงที่จะยุบพรรค จึงอยากเรียกร้องให้การตัดสินเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม มีเหตุผลชัดเจน จะได้ไม่เกิดผลกระทบในวันข้างหน้า
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์