ขณะที่ผู้คนจากทั่วประเทศยังหลั่งไหลไปเที่ยวชมมหกรรมพืชสวนโลกที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจัดขึ้นบนเนื้อที่ 470 ไร่ โดยจุดสนใจสำคัญคือ ความงดงามอลังการของหอคำหลวงนั้น
นายพินิจ กอศรีพร รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 10 พ.ย. ว่า สถานเอกอัครราชทูตภูฏานประจำประเทศไทย ได้ตอบรับอย่างเป็นทางการมายังรัฐบาลไทยว่า ในวันที่ 24 พ.ย.นี้ มกุฎราชกุมาร จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏาน จะเสด็จฯทอดพระเนตรงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติ ราชพฤกษ์ 2549 ที่จังหวัดเชียงใหม่ นอกจากจะเสด็จฯชมสวนของประเทศภูฏาน ที่เข้ามาร่วมจัดสวนเฉลิมพระเกียรตินานาชาติแล้ว ยังจะเสด็จฯชมพื้นที่รอบบริเวณงานด้วย โดยจะเสด็จฯมาถึงประเทศไทยในวันที่ 23 พ.ย.นี้ สำหรับการถวายการต้อนรับ กระทรวงการต่างประเทศจะทำหน้าที่เป็นแม่งานครั้งนี้ พร้อมทั้งดูแลระบบรักษาความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด แต่ภายในงานจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมงานตามปกติ
นายพินิจกล่าวด้วยว่า งานมหกรรมพืชสวนโลกฯ ได้เริ่มเปิดให้เข้าชมงานอย่างเป็นทางการมาตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. และจะจัดไปจนถึงวันที่ 31 ม.ค. 2550 รวมระยะเวลา การจัดงานทั้งสิ้น 92 วัน ยอดผู้เข้าชมจนถึงวันที่ 10 พ.ย. มีทั้งสิ้น 320,000 คน ทั้งนี้ จากการประเมินความพึงพอใจของผู้เข้าชมงานโดยการสำรวจจากเจ้าหน้าที่ของ สศก. ระหว่างวันที่ 1-5 พ.ย. พบว่าผู้เข้าชมงานส่วนใหญ่เป็นคนในท้องถิ่นถึง 65% อีก 35% เป็นผู้ที่มาจากถิ่นอื่น ผู้เข้าชมงานระบุว่า อุปสรรคในการชมงานมากที่สุดคือ ปัญหาแดดร้อน ไม่มีร่มให้นั่งพักอย่างเพียงพอ รวมถึงห้องน้ำที่ผู้เข้าชมมีความพึงพอใจน้อย และที่ควรปรับปรุงคือ รถรางที่พาเข้าชมงานมีไม่เพียงพอ อาหารมีราคาแพง อย่างไรก็ตาม กว่า 70% มีความพึงพอใจกับการจัดงานโดยรวม โดยที่ประชาชนชื่นชอบมากคือ หอคำหลวงสวนเฉลิมพระเกียรติ และสวนนานาชาติ ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯจะนำข้อคิดเห็นของประชาชนมาดำเนินการปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้การจัดงานมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์