การปฏิบัติต่อประชาชนอย่างไม่เท่าเทียมกัน ในการเรียกเก็บภาษีของกรมสรรพากร เป็นที่เปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 10 พ.ย. โดยมีผู้ร้องเรียนมายังหนังสือพิมพ์ไทยรัฐว่า มีผู้ถูกกรมสรรพากรอายัดบัญชีเงินฝากธนาคาร หักเงินในบัญชีเป็นค่าภาษีที่ค้างชำระ ทั้งที่เจ้าของบัญชีเป็นผู้ทุพพลภาพ ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ โดยขณะนี้ผู้ที่ถูกอายัดบัญชีนอนป่วยอยู่ที่ตึกศัลยกรรมชาย โรงพยาบาลเลิดสิน
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปดู พบว่าผู้ถูกหักบัญชีเงินฝากชื่อนายสมเกียรติ แสงศรี อายุ 52 ปี มีที่อยู่ตามหลักฐานที่ปรากฏในบัตรประชาชน อยู่บ้านเลขที่ 867/225 สุขุมวิท 101 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม. โดยนายสมเกียรติซึ่งประสบอุบัติเหตุตกจากนั่งร้านเมื่อเดือนม.ค. 2549 อยู่ในสภาพกะโหลกศีรษะด้านขวายุบบุ๋มลงไป มีรอยบาดแผลผ่าตัดสมองหลายแผล อวัยวะซีกซ้ายไม่ทำงาน เพราะสมองได้รับความกระทบกระเทือนรุนแรง มีนางพรทิพย์ พูลทวี อดีตภรรยา มาคอยช่วยเหลือดูแลอยู่ที่ข้างเตียง
นางพรทิพย์เล่าเรื่องราวให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ย. ได้รับหนังสือจากกรมสรรพากรพื้นที่ กทม. 8 ลงวันที่ 25 ต.ค. 2549 แจ้งอายัดทรัพย์สินของนายสมเกียรติ และระบุว่านายสมเกียรติค้างชำระภาษีตามใบแจ้งการประเมินภาษีธุรกิจเฉพาะ เมื่อวันที่ 22 ก.ย. 2541 จำนวนเงิน 115,315 บาท และได้อายัดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขากล้วยน้ำไท โดยห้ามจำหน่ายจ่ายโอนสิทธิเรียกร้องดังกล่าวให้แก่บุคคลอื่นใด พร้อมกับหักเงินในบัญชีที่มีอยู่จำนวน 631.96 บาทไปชำระค่าภาษีอากรที่ค้างอยู่ พร้อมกันนี้กรมสรรพากรได้ส่งใบเสร็จรับเงินค่าภาษีมาให้ด้วย
นางพรทิพย์กล่าวว่า นายสมเกียรติกับตน ซึ่งไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ได้แยกทางกันตั้งแต่ปี 2537 นายสมเกียรติมีอาชีพรับจ้างก่อสร้าง ต่อเติม มีรายได้รายวันเพียงวันละ 350 บาท ไม่มีลูกน้อง ไม่มีบริษัทเป็นของตัวเอง ไม่มีบ้านหรือทรัพย์สินอื่นใด อาศัยอยู่กับญาติ หลังเลิกกันทราบว่านายสมเกียรติก็ยังรับจ้างก่อสร้างและไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่ทราบว่าเหตุใดกรมสรรพากร จึงประเมินและเรียกเก็บเงินภาษีมากขนาดนี้ได้อย่างไร จึงรู้สึกกลัวเมื่อได้รับจดหมายจากกรมสรรพากร เพราะนายสมเกียรติไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ส่วนตนก็มีอาชีพรับจ้างก่อสร้าง มีรายได้วันละ 200 บาท ขณะนี้ก็ยังต้องดูแลนายสมเกียรติที่ป่วย และต้องดูแลลูก 2 คน หากมีการฟ้องร้องก็ไม่รู้จะนำเงินที่ไหนไปจ่ายให้ และไม่กล้าเล่าเรื่องให้นายสมเกียรติฟัง เพราะกลัวเครียด และจะกระทบกระเทือนอาการป่วย ซึ่งจดหมายของกรมสรรพากรได้ส่งไปที่อยู่บ้านเก่าของญาติที่นายสมเกียรติไปอาศัยอยู่ และบ้านดังกล่าวได้ขายไปนานแล้ว ขณะนี้จนปัญญาไม่รู้จะขอความเป็นธรรมได้อย่างไร
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์