<dd>?สิงโตน้ำเงินคราม? เชลซี ยังคงเดินหน้ากดดันจ่าฝูง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่อไปหลังเปิดบ้านถล่ม ?เดอะ ลาติกส์? วีแกน 4-0 แฟร้งค์ แลมพาร์ด ซัดฟรีคิกให้ทีมขึ้นนำตั้งแต่ครึ่งแรก จากนั้น อาร์เยน ร็อบเบน กับ ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา ช่วยกันยิงคนละลูก ก่อนที่ คริส เคิร์กแลนด์ ผู้รักษาประตูทีมเยือนจะทำพลาดเข้าประตูตัวเอง จบเกม เชลซี เก็บ 3 คะแนนเต็มหายใจรดต้นคอผีแดงต่อ ไป </dd>
<b><dd>ฟุตบอลพรีเมียร์ชิพ อังกฤษ </dd></b>
<b><dd>เชลซี 4 - 0 วีแกน </dd></b>
<dd> ?สิงโตน้ำเงินคราม? เชลซี เปิดรัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ ต้อนรับการมาเยือนของ ?เดอะ ลาติกส์? วีแกน แอธเลติก งานนี้เจ้าถิ่นเป็นต่อเพียบ โดย โชเซ่ มูรินโญ่ เลือก เอ็นริเก้ ฮิลาริโอ เฝ้าเสาทำให้ คาร์โล คูดิชินี่ ต้องนั่งสำรองอีก ส่วนกลางแน่นปั้กโดย มิชาเอล เอสเซียง ต้องถอยลงไปเล่นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ขณะที่ตัวเข้าทำมี ดีดิเยร์ ดร็อกบา, ซาโลมง กาลู และ อาร์เยน ร็อบเบน โดยไร้เงาของ อังเดร เชฟเชนโก้ กองหน้าทีมชาติยูเครนที่บาดเจ็บต้นขา </dd>
<dd>ฝั่งทีมเยือน พอล จีเวลล์ ส่ง ลี แม็คคัลล็อช กับ เอมิล เฮสกี้ เป็นตัวล่าตาข่าย โดยมี คริสโตเฟอร์ เฮสตัด ลงเป็นแดนกลางด้วย ขณะที่แดนหลัง เดวิด อันส์เวิร์ธ รับบทเซน เตอร์ฮาล์ฟ </dd>
<dd>ช่วงต้นเกม เชลซี ยังเล่นกันไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ ขณะที่ วีแกน บี้กดันเจ้าถิ่นได้ดีทำให้เวลาผ่านไป 10 นาทีลูกน้องเฮียเครียดไม่มีจังหวะลุ้นทำประตูเลย แต่เมื่อเกมถึง น.13 เจ้าถิ่น กลับได้ประตูไม่น่าเชื่อ เมื่อได้ฟรีคิกทางซ้ายกว่า 35 หลา แฟร้งค์ แลมพาร์ด รับหน้าที่กึ่งยิงกึ่งผ่านเข้าไปบอลข้ามผู้เล่นทั้ง 2 ผ่านก่อนตกลงพื้นแล้วโค้งเสียบเสาสองอย่างเหนือความคาด หมายโดย คริส เคิร์กแลนด์ ทำอะไรไม่ได้เลย เชลซี นำ 1-0 </dd>
<dd>เกมเป็นของ เชลซี มากขึ้นแต่ก็ยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่ วีแกน งัดลูกหนักมาอัดเจ้าบ้านจนถึง น.24 ลี แม็คคัลล็อช ต้องรับใบเหลืองเป็นคนแรกเมื่อไปสอย ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ น่าเกลียด </dd>
<dd>จากนั้นไม่นาน เดวิด ค็อตเตอริลล์ ก็ต้องรับใบเหลืองไปอีกรายเมื่อสอย เวย์น บริดจ์ ทางซ้ายซะคว่ำ ตรงนั้น เชลซี ได้ฟรีคิก เอสเซียง จ่ายให้ แลมพาร์ด ยิง 18 หลาเต็มๆ เคิร์แลนด์ ต้องทุบออกหลังไป </dd>
<dd>เกมออกเนือยๆ วีแกน ไม่ได้เป็นรองอะไรมากมาย แต่เกมรุกของพวกเขาขาดๆเกินๆจึงทำอะไร เชลซี ไม่ได้เลย หมดครึ่งแรก เชลซี นำ 1-0 </dd>
<dd>ครึ่งหลังทั้งสองทีมไม่มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่น ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา ที่ดูเหมือนจะเจ็บตั้งแต่ครึ่งแรกยังคงได้เล่นต่อ โดยรูปเกมช่วง 10 นาทีหลังออกสตาร์ตใหม่ยังเหมือนเดิม เชลซี ไม่ได้เป็นต่ออะไรมากนัก เนื่องจากเจอลูกบี้ของ วีแกน เล่นงานจนทำอะไรไม่ถนัด </dd>
<dd>เกมที่เหมือนไม่มีอะไรแต่เจ้าถิ่นกลับมาได้ประตูที่ 2 น.63 เมื่อ ค็อตเตอริลล์ จ่ายบอลแบบไม่ดูตาม้าตาเรือโดน ร็อบเบน ฉกกระชากไปหลบ เคิร์กแลนด์ แล้วยิงง่ายๆตุงตาข่าย เชลซี นำ 2-0 </dd>
<dd>จากนั้นอีก 6 นาทีประตูที่ 3 ก็มาเมื่อ ร็อบเบน ตะลุยทางซ้ายได้สุดยอดก่อนจะพาเกือบถึงเส้นหลังกะผ่านเข้ากลาง แต่ คริส เคิร์กแลนด์ ที่ล้มตัวเซฟดันโดนบอลเปลี่ยนทางเข้าประตูตัวเอง เชลซี นำ 3-0 </dd>
<dd>พอล จีเวลล์ เห็นว่าสู้ไม่ได้แล้วจึงถอดเอา เอมิล เฮสกี้ กองหน้าตัวเก่งออก แล้วส่ง อันเดรียส โยฮันส์สัน ลงไปแทน ช่วงทดเวลาบาดเจ็บผ่านไป 3 นาที เชลซี ได้ประตูปิดกล่องจากชอตที่ จอห์น มิเกล โยนให้ ดร็อกบา โหม่งตุงตาข่าย เชลซี ชนะสบาย 4-0 เก็บ 3 คะแนนเต็มยังคงตามหลัง แมนฯยูไนเต็ด 6 คะแนนเช่นเคย </dd>
<dd><b>รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม</b> </dd>
<dd><b>เชลซี</b></dd> : เอ็นริเก้ ฮิลาริโอ, เปาโล เฟอร์ไรร่า, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่, มิชาเอล เอสเซียง, เวย์น บริดจ์, มิชาเอล บัลลัค, โคล้ด มาเกเลเล่, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา, ซาโลมง กา ลู, อาร์เยน ร็อบเบน
<dd><b>วีแกน</b></dd> : คริส เคิร์กแลนด์, เอ็มเมอร์สัน บอยซ์, ฟิตซ์ ฮอลล์, เดวิด อันส์เวิร์ธ, เลห์ตัน เบรนส์, เดวิด ค็อตเตอร์ริลล์, โจซิป สโกโก้, คริสโตเฟอร์ เฮสตัด, เควิน คิลบาน, เอมิล เฮสกี้, ลี แม็คคัลล็อช
<b>สรุปผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ</b> วันเสาร์ที่ 13 มกราคม 2550
<dd>? แบล็คเบิร์น แพ้ อาร์เซน่อล 0-2
<dd>? วัตฟอร์ต แพ้ ลิเวอร์พูล 0-3
<dd>? แมนฯยูไนเต็ด ชนะ แอสตัน วิลล่า 3-1
<dd>? โบลตัน เสมอ แมนฯ ซิตี้ 0-0 </dd>
<dd>? ชาร์ลตัน แพ้ มิดเดิ้ลสโบร์ช 1-3 </dd>
<dd>? เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เสมอ พอร์ทสมัธ 1-1 </dd>
<dd>? เวสต์แฮม เสมอ ฟูแล่ม 3-3</dd>
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์