?หงส์แดง? ลิเวอร์พูล แชมป์เก่ารายการนี้ ต้องหมดสิทธิ์ป้องกันแชมป์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อเปิดรังแอนฟิลด์ ปราชัยให้กับ ?ไอ้ปืนใหญ่? อาร์เซน่อล ในบิ๊กแมตช์เอฟเอ คัพ 1-3 ปืนโต ออกนำก่อนถึง 2 เม็ดจาก โรซิคกี้ ก่อนจะเป็น เดิร์ค เค้าท์ ยิงตีไข่แตกให้เจ้าถิ่น แล้วก็เป็น อองรี ที่ซัดปิดกล่อง ช่วยให้อาร์เซน่อลผ่านเข้าสู่รอบที่สี่ต่อไป ในศึกเอฟเอ คัพ เมื่อคืนที่ผ่านมา <br><br><font color=#0000FF><b>ฟุตบอลเอฟเอคัพ รอบสาม</b></font><br><b>(วันเสาร์ที่ 6 มกราคม 2550)</b><br><br><font color=#FF0000><b>ลิเวอร์พูล(พรีเมียร์ชิพ) 1 - อาร์เซน่อล(พรีเมียร์ชิพ) 3</b></font><br><br>ลิเวอร์พูล ของราฟาเอล เบนิเตซ ตัดสินใจดร็อป โฆเซ่ เรน่า ผู้รักษาประตูทีมชาติสเปนให้เป็นเพียงแค่ตัวสำรองเท่านั้น และส่ง เจอร์ซี่ย์ ดูเด็ค ลงเฝ้าเสาแทน ในขณะที่แดนหน้ามี ปีเตอร์ เคร้าช์ ลงคู่กับ เดิร์ค เค้าท์ <br><br>ขณะที่ทีมเยือน อาร์เซน่อล ใช้ เธียร์รี่ อองรี กับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ย์ ลงเป็นกองหน้าคู่กัน แต่ไม่มีชื่อของเยนส์ เลห์มันน์ นายทวารชาวเยอรมันทั้งในรายชื่อตัวจริงและตัวสำรอง<br><br>เริ่มเกมมาทั้งสองทีมเริ่มต้นกันแบบระมัดระวังทั้งคู่ ไม่ค่อยเปิดเกมรุกใส่เข้าหากันเท่าไหร่นัก และไม่ค่อยมีจังหวะจบสกอร์กันเลย ก่อนที่นาทีที่ 18 อาร์เซน่อล มีลุ้นก่อน เมื่อ อองรี จ่ายบอลทะลุช่องให้ โรซิคกี้ หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ แต่บบอลแรงไปดูเด็ค เลยออกมาคว้าบอลได้ทัน<br><br>ลิเวอร์พูล มีลุ้นบ้างเหมือนกัน ในอีก 7 นาทีต่อมา เมื่อ ซาบี้ อล็องโซ่ รับบอลหลุดทะลุเข้าไปในเขตโทษ แต่โดน จิลแบร์โต้ ซิลวา พุ่งมาเสียบจนตัวลอย แต่ผู้ตัดสิน สตีฟ เบ็นเน็ตต์ มองว่าจอมทัพชาวสเปนของเจ้าถิ่นพุ่งล้มเลยมอบใบเหลืองให้เป็นรางวัลไป<br><br>ถัดมาอีกไม่กี่อึดใจ ปีเตอร์ เคร้าช์ ใช้ความสามารถเฉพาะตัวพักบอลจากลูกเปิดของ คาร์ราเกอร์ ลงก่อนวอลเลย์ทันที น่าเสียดายที่บอลโด่งข้ามคานออกไป<br><br>เกมของทั้งสองทีมยังไม่สามารถหาจังหวะเข้าทำกันได้มากนัก ต้องอาศัยลูกตั้งเตะเล่นงานบ้าง นาทีที่ 35 ซาบี้ อล็องโซ่ วอลเลย์ลูกเปิดเตะมุมของเจอร์ราด จังหวะเดียวไม่จับ แต่ลูกหลุดกรอบไปได้ลุ้น<br><br>อีก 2 นาทีต่อมา อาร์เซน่อล ก็มาได้ประตูออกนำไปก่อน จากจังหวะที่ โรซิคกี้ ทำชิ่งกับ คเล็บ แค่ 2 คนแล้วจังหวะสุดท้าย คเล็บ จ่ายให้กัปตันทีมชาติสาธารณรัฐเช็ก แปบอลตรงกรอบเขตโทษข้ามหัว เจอร์ซี่ย์ ดูเด็ค เข้าไปอย่างสวยงาม อาร์เซน่อล นำ 1-0<br><br>นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก โรซิคกี้ ก็มาบวกประตูที่สองของตัวเองให้ต้นสักัดหนีห่างเป็น 2-0 ในจังหวะที่ได้บอลจากอองรี บริเวณหน้ากรอบเขตโทษ และเลี้ยงตัดเข้ากลางกองหลังลิเวอร์พูลยืนอยู่ 4-5 คนไม่มีใครเข้าสกัด เลยโดนโรซิคกี้ ปั่นบอลด้วยขวาเสียบมุมเสาเข้าไป จบครึ่วแรกลิเวอร์พูล ตามหลังอาร์เซน่อล อยู่ 0-2<br><br>ครึ่งหลังเปิดฉากมา แชมป์เก่ารายการนี้ก็เปิดฉากลุยแหลก นาทีที่ 48 เค้าท์ ขึ้นโหม่งลูกเปิดของเพนแนนท์ ข้ามคานออกไปแบบได้ลุ้น<br><br>อาร์เซน่อล ใช้เกมโต้กลับเป็นหลัก นาทีที่ 56 อองรี จ่ายต่อให้ ฟาน เพอร์ซี่ย์ กระชากหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ แต่จังหวะสุดท้ายมุมแคบไป เลยจิ้มไปติดมือดูเด็คออกหลังไป<br><br>แต่ว่านาทีที่ 72 ความพยายามของเจ้าบ้านก็มาประสบความสำเร็จ เมื่อได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย เพนเนนท์ เปิดมากลางประตู ปีเตอร์ เคร้าช์ ขึ้นโหม่งได้สูงกว่า เว็นเดรอส ลูกพุ่งเข้าตรงกลาง เดิร์ค เค้าท์ ที่ยืนอยู่หน้า อัมมูเนีย โขกสะบัดเปลี่ยนทางระยะจ่อๆ ไม่เหลือซาก<br><br>ก่อนที่อีก 2 นาทีถัดมา ลูกโยนยาวของลิเวอร์พูล ก็เกือบได้ผลอีกครั้ง คราวนี้เป็น ออเรลิโอ ที่สอดขึ้นมาวอลเลย์ลูกเปิดทางด้านซ้ายหลุดกรอบนิดเดียว<br><br>นาทีที่ 84 อาร์เซน่อล ก็มาได้ประตูหนีห่างเป็น 3-1 เมื่อ เธียร์รี่ อองรี ได้จังหวะแตะบอลจากครึ่งสนามก่อนจะสปีดตามมาทางกราบซ้ายแล้วเลี้ยงหักเข้ากรอบเขตโทษและตวัดลอดขา ดูเด็ค เข้ากลางประตู<br><br>จากนั้นในช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่สามารถพังประตูเพิ่มได้ ทำให้จบเกม อาร์เซน่อล บุกมาเอาชนะ ลิเวอร์พูล ได้ถึงรังแอนฟิลด์ 3-1 เขี่ยแชมป์เก่าตกรอบ 3 เอฟเอ คัพเท่านั้น<br><br><b>รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม</b><br><b>ลิเวอร์พูล : </b>เจอร์ซี่ย์ ดูเด็ค, สตีฟ ฟินแนน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์, ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่, เจอร์เมน เพนเนนท์, ซาบี้ อล็องโซ่, สตีเส่น เจอร์ราด, หลุยส์ การ์เซีย, เดิร์ค เค้าท์, ปีเตอร์ เคร้าช์<br><b>สำรอง : </b>โฆเซ่ เรน่า (ผู้รักษาประตู), ซามี่ ฮูเปีย, มาร์ค กอนซาเลซ, ฟาบิโอ ออเรลิโอ, เคร็ก เบลลามี่<br><b>อาร์เซน่อล : </b>มานูเอล อัมมูเนีย, เอ็มมานูเอล เอบูเอ้, โคโล ตูเร่, ฟิลิป เซ็นเดอรอส, กาแอล กลิชี่, อเล็กซานเดอร์ คเล็บ, จิลแบร์โต้ ซิลวา, มาติเยอ ฟลามินี่, โทมัส โรซิคกี้, เธียร์รี่ อองรี, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ย์ <br><b>สำรอง :</b> มาร์ท พูม (ผู้รักษาประตู), โยฮัน ฌูรู, จัสติน ฮอยต์, ธีโอ วัลค็อตต์, ชูลิโอ บาปติสต้า
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์