<b>ศึกลูกหนังลีกสูงสุดแดนกระทิงดุ ?ลาลีกา สเปน? เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ปรากฏว่าตำแหน่งจ่าฝูงเปลี่ยนมือกลับมาเป็นของแชมป์เก่า 2 สมัยซ้อนอย่าง บาร์เซโลนา อีกครั้ง หลังจากทีมเจ้าบุญทุ่มเปิดรังพลิกแซงชนะเรอัล ซาราโกซา ราบคาบขาดลอย 3-1 </b>
โดยเกมที่สนามคัมป์นูนัดนี้ ทีมเยือนซาราโกซาบุกมาช็อกเจ้าถิ่นบาร์เซโลนาไปก่อน เมื่อพังประตูขึ้นนำ 1-0 จากกาเบรียล มิลิโต ตั้งแต่นาทีที่ 17 จากนั้นแชมป์เก่าบาร์ซาต้องรอจนถึงช่วงปลายครึ่งแรก กว่าจะได้ประตูตามตีเสมอ 1-1 จากการซัลโวของโรนัลดินโญ เพลย์เมกเกอร์ จอมทัพทีมชาติบราซิล นาที 31
เกมดำเนินถึงนาที 73 บาร์เซโลนาต้องเหลือผู้เล่นในสนามแค่ 10 คน หลังจากธิเอโก มอตตา ของบาร์ซา โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม แต่หลังจากนั้นไม่นาน ซาราโกซาก็เหลือ 10 คนเช่นกัน เมื่อกาเบรียล มิลิโต ผู้ซัดประตูแรกให้ซาราโกซาขึ้นนำ ถูกตะเพิดออกจากสนามไปในนาที 77 ทำให้ต่างฝ่ายต่างเหลือผู้เล่นข้างละ 10 คนเท่ากัน อย่างไรก็ตาม 10 คนของบาร์ซากลับเล่นได้เฉียบคมกว่า ก่อนซัดเพิ่มได้อีก 2 ประตูรวดในช่วงท้ายเกม จากโรนัลดินโญคนเดิม นาที 86 นับเป็นประตูที่ 2 ของเขาในเกมนี้ ต่อด้วยฮาเวียร์ซาบิโอลา ซัดย้ำชัยปิดท้าย นาทีที่ 6 ของช่วงทดเจ็บ หมดเวลา บาร์เซโลนาพลิกแซงชนะซาราโกซา 3-1 ทะยานแซงเซบีญาที่นัดล่าสุดทำได้แค่เจ๊าราซิง 0-0 กลับขึ้นมานำเป็นจ่าฝูงอีกครั้ง
ขณะที่ ?ราชันชุดขาว? เรอัล มาดริด ได้รุด ฟาน นิสเตลรอย ศูนย์หน้าดัตช์ เป็นฮีโร่ระเบิดฟอร์มร้อนแรง เหมาซัลโวคนเดียว 4 ประตู ช่วยให้เรอัล มาดริด บุกไปถล่มยำใหญ่โอซาซูนา กระจุยคารัง 4-1 สำหรับ 4 ประตูของฟาน นิสเตลรอย ที่ทำได้ในเกมนี้ เกิดขึ้นในนาที 12, 27, 45 และ 84 ทำให้รุดผงาดขึ้นมานำเป็นดาวซัลโวสูงสุดขณะนี้ ด้วยผลงาน 8 ประตู โดยชัยชนะนัดนี้ของเรอัล มาดริด ทำให้พวกเขารั้งอันดับ 3 ของตาราง มี 20 แต้ม ตามหลังจ่าฝูงบาร์เซโลนาอยู่ 3 คะแนน ส่วนผลคู่อื่นๆในวันเดียวกัน มีดังนี้
เซลตา แพ้ อูเอลบา 1-2, เกตาเฟ ชนะ มาญอร์กา 1-0, กิมนาสติก เสมอ คอรุนญา 0-0, ราซิง เสมอ เซบีญา 0-0, เบติส ชนะ เลบานเต 2-1, โซเซียดัด เสมอ เอส?ปันญอล 1-1 สรุปคะแนนสะสมหลังเตะไป 10 นัด บาร์เซโลนาแซงกลับมานำจ่าฝูง 23 คะแนน ตามด้วยเซบีญา 22 คะแนน, เรอัล มาดริด 20 คะแนน, ซาราโกซา 19 คะแนน, เกตาเฟ 19 คะแนน และบาเลนเซีย 18 คะแนน
ทางด้านศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ คู่ซุปเปอร์บิ๊กแมตช์ วันเดียวกัน ?ปืนใหญ่? อาร์เซนอล กลับมา ระเบิดฟอร์มสุดยอดร้อนแรงอีกครั้ง ด้วยการเปิดรังเอมิเรตส์ ยิงสลุตบอมบ์เด็ดปีก ?หงส์แดง? ลิเวอร์พูล กระจุยชนิดหมดทางสู้ 3-0 โดยอาร์เซนอลได้ประตูจากมาติเยอ ฟลามินี นาที 41 ต่อด้วยโคโล ตูเร นาที 56 และวิลเลียม กัลลาส นาที 80 ส่งผลให้ปืนใหญ่ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 3 ของตารางแล้ว มีเพิ่มเป็น 21 คะแนน จาก 11 นัด ตามหลังจ่าฝูงแมนฯยูอยู่ห่างๆ 10 คะแนน แต่แข่งน้อยกว่าอยู่ 1 นัด ส่วนลิเวอร์พูลแพ้นอกบ้านในฤดูกาลนี้เป็นเกมที่ 5 ติดต่อกัน คะแนนหยุดนิ่งอยู่ที่ 17 แต้มเท่าเดิม จาก 12 นัด อยู่อันดับ 9 ทำท่าหมดลุ้นแชมป์แน่นอนแล้ว
สำหรับผลคู่แรก ?ไก่เดือยทอง? สเปอร์ส กลายสภาพเป็นไก่อมโรค บุกไปโดนเรดดิ้งถล่มพ่ายยับ 1-3 ทั้งที่สเปอร์สพังประตูนำก่อน จากลูกจุดโทษของร็อบบี้ คีน นาที 22 แต่หลังจากนั้นเรดดิ้งกลับมายิงคืน 3 ประตูซ้อน จากนิคกี้ โชเรย์ น.37, สตีฟ ซิดเวลล์ น.45 และ เควิน ดอยล์ น.79
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์