?ไก่เดือยทอง? สเปอร์ส ล้างอาถรรพณ์ไม่เคยเอาชนะ เชลซี ในลีกเลยตั้งแต่ปี 1992 ได้สำเร็จแล้ว เมื่อเปิดรัง ไวท์ ฮาร์ท เลน ฮึดแซง ?สิงโตน้ำเงินคราม? ในเกมลอนดอน ดาร์บี้ แมตช์ไปแบบสนุก 2-1 โดยเป็นเชลซีที่ได้ประตูขึ้นนำ น.15 ก่อนที่ สเปอร์ส จะทวงคืนถึง 2 ลูก โดยเชลซีต้องเหลือ 10 คน น.70จาก จอห์น เทอร์รี่ โดนใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม ในศึกพรีเมียร์ชิพ อังกฤษ
<b>ฟุตบอลพรีเมียรลีก อังกฤษ</b>
<b>(เมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 พฤศจิกายน 2549)</b>
<b>สเปอร์ส 2 - เชลซี 1</b>
?ไก่เดือยทอง? สเปอร์ส เปิดรัง ไวท์ ฮาร์ท เลน ทำศึกลอนดอน ดาร์บี้ แมตช์ กับ ?สิงโตน้ำเงินคราม? เชลซี งานนี้เจ้าถิ่นเป็นรองเยอะ เพราะไม่เคยเอาชนะ เชลซี ในลีกเลยตั้งแต่ปี 1992 นับรวมได้ 32 เกมติดต่อกันแล้ว
มาร์ติน โยล ได้ ไมเคิ่ล ดอว์สัน กองหลังตัวเก่งผ่านความฟิตลงสนามโดยเขายังเลือก ร็อบบี้ คีน และ ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ เป็นคู่หัวหอกเหมือนเดิม ขณะที่ทีมเยือน โชเซ่ มูรินโญ่ ไม่สามารถใช้งาน อังเดร เชฟเชนโก้ หัวหอกทีมชาติยูเครนที่เจ็บแต่ขุมกำลังอื่นๆยังอยู่กันครบครัน ทั้ง ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, อาร์เยน ร็อบเบน, มิเชาเอล เอสเซียง, โคลด มาเกเลเล่ ฯลฯ ส่วนตำแหน่งโกล์นั้น เอ็นริเก้ ฮิลาริโอ ได้เป็นตัวจริงทำให้ คาร์โล คูดิชินี่ ที่หายเจ็บไปแล้วต้องนั่งสำรองอีกครั้ง
เจ้าถิ่นทักทายก่อน น.2 จากลูกยิงนอกเขตโทษของ ฮอสซัม กาลี มิดฟิลด์ทีมชาติอียิปต์ที่ซัดหลุดกรอบออกไป
ผ่านไป 9 นาที แฟร้งค์ แลมพาร์ด เข้าเสียบ ปาสกาล ชิมบงด้า อย่างหนักทำเอากองหลัง ฝรั่งเศส ลงไปนอนดิ้นยังโชคดีที่เล่นได้ต่อไป
น.13 เชลซี พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำเมื่อ อาร์เยน ร็อบเบน หลุดเดี่ยวไปทางขวาทำท่าจะได้ยิงเหน่งๆแต่ตัดสินใจช้าเกินไปจนโดน เล็ดลี่ย์ คิง พุ่งมาเสียบเอาไว้ทันเวลา
แต่แล้วแค่ 2 นาทีต่อมาเป็นทีมเยือนที่ได้ประตูขึ้นนำ เมื่อกองหลัง สเปอร์ส เคลียร์บอลไปเข้าทาง โคล้ด มาเกเลเล่ ที่ได้ตั้งป้อมยิงจากระยะ 25 หลา บอลพุ่งหนีมือ พอล โรบินสัน เสียบเสาตุงตาข่ายงามหยด เชลซี นำ 1-0
ต่อมาไม่นาน ไมเคิ่ล ดอว์สัน ยังมารับใบเหลืองไปอีกจากการเจตนาทำแฮนด์บอล ชอตนี้ เชลซี ได้ฟรีคิก มิชาเอล บัลลัค ยิงทำเอา โรบินสัน ต้องพุ่งปัดออกมาโชคดีของ สเปอร์ส ที่ไม่มีนักเตะ เชลซี เข้าซ้ำ
เชลซี มาเป็นชุด แลมพาร์ด ได้บอลจากบัลลัคก่อนจะยิงจากนอกเขตบอลจะเข้าอยู่แล้ว แต่ โรบินสัน ก็ปัดข้ามคานไปอีก และไม่กี่วินาทีต่อมา ดร็อกบา ได้โหม่งลูกเตะมุมตุงตาข่าย แต่ผู้ตัดสินเป่าฟาวล์ มิชาเอล เอสเซียง ที่ไปกด ดีดิเย่ร์ โซโกร่า ในเขต
ผ่านถึง น.25 เจ้าถิ่นตีเสมอได้สำเร็จจากลูกฟรีคิกทางซ้ายที่ เจอร์เมน จีนาส โยนไปให้ ไมเคิ่ล ดอว์สัน โหม่ง 14 หลาบอลพุ่งหนีมือ ฮิลาริโอ เสียบเสาไกลงามหยดสกอร์เปลี่ยนเป็น 1-1
สเปอร์ส คึกคักและน่าได้เมื่อเกมถึงครึ่งชั่วโมงจากลูกเตะมุม เล็ดลี่ย์ คิง ได้ยิงเผาขน ติดเซฟ ฮิลาริโอ ออกหลังไปน่าเสียดาย
แชมป์เก่า เกือบได้ประตูที่ 2 เมื่อ ดร็อกบา ได้บอลจากเพื่อนเขาแตะตั้งแล้วล้มตัวยิงเองจากระยะ 12 หลา บอลพุ่งเฉี่ยวเสาไปน่าหวาดเสียว
ร็อบบี้ คีน พลาดโอกาสทอง น.37 เมื่อ แอรอน เลนน่อน โยกทางขวาได้สวยก่อนจะโยนให้ ร็อบบี้ คีน โหม่งเหน่งๆแต่เหลือเชื่อที่ คีนน้อย กดบอลไม่ลง
ทั้งคู่เปิดเกมแลกหมัดกันตลอด แต่ว่าไม่อาจจะทำอะไรเพิ่มเติมได้ มีแค่หวาดเสียวช่วงทดครึ่งแรก จีนาส โยน ฟรีคิกให้ ดอว์สัน โหม่งเฉี่ยวกรอบไปนิดเดียว ครบ 45 นาที สกอร์อยู่ที่ 1-1
ครึ่งหลัง เชลซี เปลี่ยนตัวผู้เล่น 1 รายโดยเป็น คาลิด บูลาห์รูซ ที่ได้เล่นแทน เปาโล เฟอร์ไรร่า เกมในช่วงต้นเป็นไปอย่างสูสีทั้งคู่ไม่มีโอกาสลุ้นเลย
เป็นเจ้าถิ่นที่ได้ประตูแซงนำ น.52 เมื่อ ร็อบบี้ คีน โยกหลอก บูลาห์รูซ ทางขวา ก่อนจะเปิดเข้ากลางแฉลบกองหลัง เชลซี ไปเข้าทาง แอรอน เลนน่อน ที่โยกหลอก แอชลี่ย์ โคล แล้วยิงทันที บอลพุ่งผ่าน ฮิลาริโอ เสียบตาข่ายงามหยด สเปอร์ส นำ 2-1
ฮอสซัม กาลี ต้องรับใบเหลืองไปตามระเบียบหลังจากได้ประตูขึ้นนำไม่นาน เนื่องจากไปเข้าบอลแล้วเปิดศอกตีหน้า เอสเซียง
เชลซี เดินหน้าบุกอย่างหนักแต่ขาดๆเกินไปทำให้ สเปอร์ส ดักเอาไว้ได้ตลอด ผ่าน 1 ชั่วโมงไปไม่นาน จอห์น เทอร์รี่ รับใบเหลืองจากชอตเสียบ เบอร์บาตอฟ กลางสนาม
เฮียมูอยู่เฉยไม่ได้แล้ว น.62 เขาต้องเปลี่ยนตัวโดยเอา ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ ลงเล่นแทน โคล้ด มาเกเลเล่ ไม่กี่วินาทีต่อมา ร็อบบี้ คีน หลุดไปทางซ้ายเกือบถึงเส้นหลังก่อนจะหลอกจ่ายให้ เบอร์บาตอฟ ยิงไปติดบล็์อกผู้เล่นเชลซี
มิชาเอล บัลลัค รับใบเหลืองเป็นคนที่ 5 ของ เชลซี น.66 จากการไปเถียงผู้ตัดสิน เกรแฮม โพลล์ ต่อมาไม่นาน มูรินโญ่ เปลี่ยนตัวอีกโดยเอา บูลาห์รูซ ที่เป็นตัวสำรองออกแล้วส่ง โซโลมง คาลู ลงไปเล่นแทน
น.70 เชลซี ได้ฟรีคิกทางขวา ร็อบเบน ซัดเต็มๆแต่บอลโด่งข้ามคานไม่ได้ลุ้น จังหวะต่อมา จอห์น เทอร์รี่ โดนใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม หลังจากไปกล่าวคำหยาบคายใส่ผู้เล่นสเปอร์ส นับเป็นใบแดงแรกที่ เทอร์รี่ ได้รับเลยทีเดียว
สเปอร์ส อาศัยตัวผู้เล่นที่มากกว่าทำเกมได้เปรียบ แต่ น.76 เล็ดลี่ย์ คิง ต้องโดนใบเหลืองไปอีกคนจากการเจตนาทำแฮนด์บอล
เชลซี เกือบตีเสมอได้จากความผิดพลาดของผู้เล่น สเปอร์ส ที่เสียบอลทำให้ คาลู ได้สับไกเต็มๆ แต่ โรบินสัน โชว์ซูเปอร์เซฟปัดไว้ได้ด้วย 2 มือ
แชมป์เก่าพยายามแล้วพยายามเล่าแต่ด้วยตัวที่น้อยกว่าทำให้ยิงคืนไม่สำเร็จ จบเกมจึงแพ้ สเปอร์ส ไป 1-2 ทำให้ ไก่เดือยทอง ล้างอาถรรพณ์ได้สำเร็จเสียที
<b>รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม </b>
<b>สเปอร์ส</b> : พอล โรบินสัน, ปาสกาล ชิมบงด้า, ไมเคิ่ล ดอว์สัน, เล็ดลี่ย์ คิง, เบอนัวต์ อัสซู-เอก็อตโต้, แอรอน เลนน่อน, เจอร์เมน จีนาส, ดีดิเย่ร์ โซโกร่า, ฮอสซัม กาลี, ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ, ร็อบบี้ คีน
<b>สำรอง</b> : ราเด็ค แซร์นี่, เอ๊ดการ์ ดาวิดส์, อาเหม็ด ฮอสซัม มิโด้, เจอร์เมน เดโฟ, ทอม ฮัดเดิ้ลสโตน
<b>เชลซี</b> : เอ็นริเก้ ฮิลาริโอ, เปาโล เฟอร์ไรร่า, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล, มิชาเอล บัลลัค, โคล้ด มาเกเลเล่, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, มิชาเอล เอสเซียง, ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา, อาร์เยน ร็อบเบน
<b>สำรอง</b> : คาร์โล คูดิชินี่, คาลิด บูลาห์รูซ, โจ โคล, ซาโลมง คาลู, ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์
<b>สรุปผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ</b>
? เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ชนะ อาร์เซน่อล 1-0
? แอสตัน วิลล่า ชนะ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 2-0
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ