<b>ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรยุโรปถ้วยใบใหญ่สุด ?ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก? ฤดูกาล 2006-07 เมื่อ คืนที่ผ่านมา (อังคาร 31 ต.ค.) เป็นเกมดวลแข้งนัดที่ 4 ของรอบแบ่งกลุ่ม ในกลุ่ม ?เอ-บี-ซี-ดี? โดยในกลุ่มซี ?หงส์แดง? ลิเวอร์พูล ทีมดังจากเกาะอังกฤษ ซึ่งเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม เปิดสนาม แอนฟิลด์รับการมาเยือนของ ชิรงแดงส์ บอร์กโดซ์ ทีมแกร่งจากลีกเอิง ฝรั่งเศส ซึ่งนัดที่แล้วลิ เวอร์พูล บุกไปเอาชนะบอร์กโดซ์ได้ถึงถิ่น 1-0 เกมนี้ ราฟาเอล เบนิเตซ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล หยุดระบบโรเตชันลงที่ 99 นัดติดต่อกัน ใช้ผู้เล่นชุดเดิมที่เอาชนะแอสตัน วิลลา ในฟุตบอลลี กเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยคู่กองหน้า เดิร์ก เคาท์ จับคู่กับ ปีเตอร์ เคราช์ </b>
เริ่มเกมมา เป็นเจ้าบ้านที่ครองเกมไว้ได้เป็นส่วนใหญ่ ผู้เล่นดูจะมีความมุ่งมั่นมากขึ้น และ สามารถยิงประตูขึ้นนำได้ตั้งแต่นาทีที่ 23 จาก หลุยส์ การ์เซีย วอลเลย์เต็มเท้าจากบริเวณ กรอบเขตโทษด้านซ้าย บอลกระเด้งพื้น 1 จังหวะ ก่อนพุ่งเข้าประตูไปอย่างสวยงาม จากนั้น บอลก็ยังคงอยู่ในความครอบครองของลิเวอร์พูลเป็นส่วนใหญ่ ถึง 63% และมีจังหวะได้ลุ้น ประตูจาก เดิร์ก เคาท์ 2-3 จังหวะ แต่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของครึ่งแรก ทีมเยือนได้ลุ้น จากลูกฟรีคิกกรอบเขตโทษ แต่ลูกยิงไม่ผ่านมือของ โฆเซ่ เรน่า ผู้รักษาประตูหงส์แดง
ครึ่งหลัก ผู้จัดการทีมบอร์กโดซ์ โชว์กึ๋นในการแก้เกม ผู้เล่นทำเกมบุกได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด บุกขึ้นมาแต่ละครั้งได้จบด้วยการยิงประตูตลอด รวมถึงลูกหลุดเดี่ยวไปดวลกับผู้รักษาประตู แต่ยิงไปติดเซฟของ เรน่า อย่างน่าเสียดาย บอร์กโดซ์กดดันลิเวอร์พูลจนเป๋ไปเป๋มา แต่ทว่ามาถึงจุดเปลี่ยนของเกม เมื่อ เฟอร์นานโด เมเนกรอซโซ หงุดหงิดที่ผู้ตัดสินไม่เป่าหยุดเกมในจังหวะที่เพื่อนร่วมทีมถูกทำฟาวล์ ใช้ศีรษะโขกเข้าไปที่บริเวณตาซ้ายของ ยอห์น อาร์เน รีเซ จนแตกเลือดอาบ ถูกผู้ตัดสินชักใบแดงไล่ออกจากสนาม ทำให้บอร์กโดซ์เหลือผู้เล่นแค่ 10 คน ขณะที่ รีเซ ต้องออกไปปฐมพยาบาลข้างสนามนานกว่า 5 นาที
หลังจากมีผู้เล่นมากกว่า 1 คน ลิเวอร์พูล เดินเกมได้สะดวกขึ้น และก็มาได้ประตูที่ 2 ในนาทีที่ 72 จากจังหวะที่ เบาเดอไวน์ เซนเดน กองกลางตัวสำรองจ่ายบอลทะลุช่องให้ สตีเวน เจอร์ราร์ด หลุดเข้าไปยิงผ่านมือผู้รักษาประตูเข้าไป เจ้าถิ่นออกนำเป็น 2-0 ก่อนจะมาได้ประตูที่ 3 ในอีก 2 นาทีถัดมาจาก หลุยส์ การ์เซีย หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงสวนตัวนายทวาร จากนั้นเกมตกเป็นของเจ้าถิ่นทั้งหมด ก่อนจะเอาชนะไปในที่สุด 3-0 ผ่านเข้าไปเล่นในรอบต่อไปอย่างแน่นอนแล้ว
ส่วนอีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน เอาชนะ กาลาตาซาราย 2-0 ไอนด์โฮเฟน ได้ผ่านเข้ารอบตามลิเวอร์พูลไป
สำหรับผลการแข่งขันในกลุ่มเอ ?เจ้าบุญทุ่ม? บาร์เซโลนา ยักษ์ใหญ่จากลีกกระทิงดุ ลา ลีกา สเปน แชมป์เก่าของรายการนี้ เปิดสนามอ่างยักษ์ คัมป์ นู รับการมาเยือนของ ?สิงโตน้ำเงินคราม? เชลซี แชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งนัดที่แล้วบุกไปพ่ายมา 0-1 เกมนี้ บาร์ซา ออกนำตั้งแต่ไก่โห่ในนาทีที่ 3 จากลูกยิงของ เดโก ก่อนที่เชลซีจะมาตีเสมอได้ในช่วงต้นครึ่งหลังจาก แฟรงค์ แลมพาร์ด นาทีที่ 52 แต่เจ้าถิ่นมายิงประตูขึ้นนำอีกครั้งในนาทีที่ 58 จาก ไอเดอร์ กุ๊ดยอนเซน และเป็นการยิงประตูทีมเก่า เกมนี้ทำท่าว่าจะจบด้วยชัยชนะของบาร์เซโลนา แต่ในนาทีสุดท้าย ดิดิเยร์ ดร็อกบา มายิงประตูช่วยให้ทีมแบ่งแต้มจากบาร์ซาได้ในที่สุด จบเกมเสมอกันไป 2-2 เลฟกี โซเฟีย พ่าย แวร์เดอร์ เบรเมน 0-3 กลุ่มบี สปาร์ตัก มอสโก แพ้ อินเตอร์ มิลาน 0-1, บาเยิร์น มิวนิก เสมอ สปอร์ติง ลิสบอน 0-0 กลุ่มดี โรมา เสมอ โอลิมเปียกอส 0-0 , ชัคตาร์ โดเนตสก์ เสมอ บาเลนเซีย 2-2
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์