?ราชันชุดขาว? เรอัล มาดริด กลับสู่ฟอร์มเก่งอีกครั้ง เมื่อยัดเยียดความปราชัยนักแรกให้อริตลอดกาล บาร์เซโลน่า แบบใสสะอาด 2-0 ราอูล กอนซาเลซ และ รุด ฟาน นิสเตลรอย รับหน้าที่สังหารคนละเม็ดส่งให้ มาดริด เก็บสามแต้มขยับรั้งอันดับ 4 ด้าน เซบีย่า ยังเกาะกลุ่มนำแน่นหนา หลังเฉือนชนะ คิมนาสติก 2-1 ขณะที่ บาเลนเซีย เบียด โอซาซูน่า เข้าวินหวุดหวิด 1-0 ในศึกลา ลีกา สเปน เมื่อคืนที่ผ่านมา
<b>ฟุตบอล ลา ลีกา สเปน </b>
<b>(นัดที่ 7 ฤดูกาล 2006/07) </b>
<b>วันอาทิตย์ที่ 22 ตุลาคม 2549 </b>
<b>เรอัล มาดริด 2 - บาร์เซโลน่า 0</b>
<b>สนาม: ซานติอาโก้ เบร์นาเบว </b>
สำหรับสถิติการเผชิญหน้ากันตั้งแต่อดีต ในถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบว ของคู่นี้ตลอด 76 แมตซ์ที่ผ่านมานั้น บาร์ซ่า บุกมาเอาชนะได้เพียง 14 นัดเท่านั้น โดยมีช่วงทศวรรษที่ 40 และ 70 เป็นยุคทองของเจ้าบุญทุ่ม ที่สามารถบุกมาเก็บชัยชนะออกไปได้ถึงช่วงละ 3 นัด
ทางด้านตัวผู้เล่นเกมนี้ เรอัล มาดริด ไม่มี โรนัลโด้ ที่ติดโทษแบน เลยส่ง รุด ฟาน นิสเตลรอย เพชรฆาตชาวดัตซ์ ลงมาเป็นหัวหอกตัวเป้า พร้อมได้ โรบินโญ่ กับ ราอูล กอนซาเลซ คอยสนับสนุนเกมรุก
ส่วน บาร์เซโลน่า ไม่มี ชูเลียโน่ เบลเล็ตติ แบ็คขวาชาวบราซิเลี่ยน ที่มีอาการบาดเจ็บเลยต้องจับเอา จานลูก้า ซามบร็อตต้า มายืนแทน โดยคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟให้ เกร์เลส ปูโยล ยืนร่วมกับ ลิลิยอง ตูราม โดยสามประสานแดนหน้ามี ไอเดอร์ กุ๊ดยอห์นเซ่น เล่นร่วมกับ โรนัลดินโญ่ และ ลีโอเนล เมสซี่
ออกสตาร์ทครึ่งแรกได้เพียง 2 นาที ราชันชุดขาว มาได้ประตูขึ้นนำได้อย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่เซร์คิโอ รามอส เติมเกมรุกขึ้นมาทางขวา ก่อนเปิดบอลเข้ามากลางประตูให้ ราอูล กอนซาเลซ เทคตัวโขกผ่านมือ บิคตอร์ บัลเดส นายทวารบาร์ซ่า เข้าไปตุงตาข่ายช่วยให้ เรอัล มาดริด ออกนำก่อน 1-0
จากนั้นเกมยังเป็นของเจ้าบ้าน และ เกือบได้ประตูที่ 2 ในนาทีที่ 14 เริ่มจาก โรบินโญ่ ดาวรุ่งของทีมชาติบราซิล เปิดบอลจากกราบซ้ายเข้ามา ราอูล กอนซาเลซ สอดมายิงแฉลบ ลิลิยอง ตูราม บอลเปลี่ยนทางไปชนคานอย่างน่าหวาดเสียว ชวดได้ประตูที่สองอย่างน้าเสียดาย
นาทีที่ 20 เอเมอร์สัน แฟร์ไรร่า กองกลางตัวรับ เรอัล มาดริด โดนใบเหลืองเป็นคนแรก หลังไปเหยียบที่ข้อเท้าของ ลิโอเนล เมสซี่ สตาร์ร่างเล็กของทีมเยือน อย่างน่าเกลียด
หลังจากนั้น 4 นาที เจ้าบุญทุ่ม น่าตีเสมอได้อย่างยิ่ง จากจังหวะที่ ลีโอเนล เมสซี่ สตาร์ทีมชาติอาร์เจนติน่า อาศัยความสามารถเฉพาะตัว พาบอลแหวกตรงกลางระหว่าง ฟาบิโอ คันนาวาโร่ และ โรแบร์โต้ การ์ลอส เข้าไปทางขวา ก่อนเปิดมาตรงกลางให้ ไอเดอร์ กุ๊ดยอห์นเซ่น แต่ซัดหลุดกรอบออกไปนิดเดียว
ผ่านมาถึงนาทีที่ 32 ทีมเยือนขึ้นเกมรุกมาทาง โรนัลดินโญ่ ไหลบอลให้ เมสซี่ หลุดเข้าไปยิงทางขวา แต่โดน อีเกร์ กาซียาส นายทวารเจ้าบ้าน ออกมาปิดมุมไว้ได้ บอลกระดอนมาเข้าทาง เดโก้ ตามซ้ำดาบสอง บอลข้ามคานไปไกล
ท้ายครึ่งแรกทำอะไรกันไม่ได้ จนกระทั่งครบ 45 นาที ราชันชุดขาว ออกนำก่อน 1-0
มาเล่นกันต่อในครึ่งหลังได้ 4 นาที บาร์เซโลน่า รุกหนักมีโอกาสทักทายจาก ซามบร็อตต้า แต่ไม่ผ่านการป้องกันของ กาซิยาส นายทวารเรอัล มาดริด
ถัดมานาทีเดียว ซิลวินโญ่ หลุดเข้าไปเปิดที่สุดเส้นหลังทางด้านซ้ายเข้ากลาง บอลโดนเคลียร์ออกมาได้อย่างหวุดหวิด
อย่างไรก็ตาม ราชันชุดขาว มาได้ประตูที่สองจนได้ จากจังหวะที่ กูตี ไหลบอลออกทางขวาให้กับ โรบินโญ่ เปิดโค้งเข้าไปในเขตโทษ ให้กับ รุด ฟาน นิสเตลรอย วิ่งเข้ามาแปด้วยซ้ายตุงตาข่ายให้ เรอัล มาดริด หนีไปเป็น 2-0 เข้าไปแล้ว ในนาทีที่ 50
สามนาทีต่อมา ซามบร็อตต้า โดนใบเหลืองหลังจากไปเสียบใส่ โรบินโญ่ สตาร์ของเรอัล มาดริด
จากนั้น นาทีที่ 54 เจ้าบ้าน น่าจะได้ประตูที่สาม เมื่อ โรบินโญ่ ไหลบอลให้กับ รุด ฟาน นิสเตลรอย ซัดเต็มเหนี่ยวบอลพุ่งชนคานกระดอนออกมาอย่างน่าเสียดาย
ถัดมานาทีเดียว บาร์ซ่า เปลี่ยนตัวเอา เดโก้ ออกไป แล้วส่ง ลูโดวิช ชูลี่ ลงมาสร้างเกมรุกแทน
รูปเกมยังเป็น เจ้าบ้านสนุกข้างเดียว ฟาน นิสเตลรอย ยิงออกไปอีกครั้ง
มาถึงนาทีที่ 59 ทีมเยือนตอบโต้บ้าง โรนัลดินโญ่ พลิ้วขึ้นไปจ่ายให้กับ ซิลวินโญ่ ซัดทันทีบอลไม่ตรงกรอบ สามนาทีต่อมา มาอามาดู ดิยาร์ร่า ของราชัน ซัดไม่เข้ากรอบเช่นกัน
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 65 บาร์เซโลน่า ปรับแท็คติกอีกครั้งด้วยการส่ง ซาวิโอล่า เล่นแทน ไอเดอร์ กุ๊ดยอห์นเซ่น
หลังจากนั้นนาทีเดียวบอลเป็นของ เรอัล มาดริด ได้ลุ้นจาก โรบินโญ่ ตะบันเดี่ยวๆกับ บิคตอร์ บัลเดส แต่ลูกยิงวอลเลย์ของเขาข้ามคานออกไปไกล
จังหวะต่อมาเป็น บาร์ซ่า ได้ลุ้นบ้าง เมสซี่ รับบอลจาก ซาวิโอล่า ก่อนซัดทันทีบอลไม่ตรงกรอบ
เกมรุกของเจ้าบ้านยังไว้ใจได้ กูตี จ่ายให้กับ รุด ฟาน นิสเตลรอย ยิงเต็มๆ ทว่าไม่ผ่านการป้องกันของ บิคตอร์ บัลเดส นายทวารบาร์ซ่า ในนาทีที่ 69
เจ้าบ้านน่าจะได้ประตูที่ 3 แต่ลูกโหม่งของ เซร์คิโอ รามอส ในนาทีที่ 72 เฉียดเสาออกไป ช่วงเวลาที่เหลือทำอะไรกันไม่ได้ จบเกม 90 นาที เรอัล มาดริด พิชิตชัยไปได้สวยงาม 2-0 เก็บสามแต้มขึ้นมาอยู่ที่ 4 ตามหลัง บาร์ซ่า กับ บาเลนเซีย จ่าฝูงร่วมอยู่ 2 คะแนน
<b>รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม </b>
<b>เรอัล มาดริด</b>: อีเกร์ กาซิยาส - เซร์คิโอ รามอส, อีบัน เอลเกร่า, ฟาบิโอ คันนาวาโร่, โรแบร์โต้ คาร์ลอส - เอเมอร์สัน, มาอามาดู ดิยาร์ร่า - โฆเซ่ มารี กูเตียร์เรซ กูตี, ราอูล กอนซาเลซ, โรบินโญ่ - รุด ฟาน นิสเตลรอย
<b>สำรอง</b>: ดีเอโก้ โลเปซ (ผู้รักษาประตู) - ฟรานซิสโก้ ปาบอน, ราอูล บราโบ, อัลบาโร่ เมเฆีย, เดวิด เบ็คแฮม, โฆเซ่ อันโตนิโอ เรเยส, อันโตนิโอ คาสซาโน่
<b>บาร์เซโลน่า</b>: บิคตอร์ บัลเดส - จานลูก้า ซามบร็อตต้า, ลิลิยอง ตูราม, เกร์เลส ปูโยล, ซิลวินโญ่ - เดโก้, ชาบี เอร์นานเดซ, อันเดรส อิเนสต้า - ลีโอเนล เมสซี่, ไอเดอร์ กุ๊ดยอห์นเซ่น, โรนัลดินโญ่
<b>สำรอง</b>: อัลเบิร์ต จอร์เกร่า(ผู้รักษาประตู) - โอเลเกร์ เปรซาส, โจวานนี่ ฟาน บร็องค์ฮอร์สต์, โชเซ่ เอ็ดมิลสัน, ติอาโก้ ม็อตต้า, ลูโดวิช ชูลี่, ฮาเวียร์ ซาวิโอล่า
<b>เซบีย่า 2 - คิมนาสติก 1</b>
<b>สนาม: รามอน ซานเชซ ปิซฆวน </b>
เซบีย่า แชมป์ยูฟ่า คัพ เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ คิมนาสติก ทีมน้องใหม่ โดยเจ้าบ้านจัดวาง เฟรเดริก กานูเต้ ควงคู่กับ หลุยส์ ฟาเบียโน่ ลงมาโซโล่ตาข่าย พร้อมได้ อาเดรียโน่ ปั้นเกมรุกให้
ทางด้าน คิมนาสติก ได้ตัว ฆาเบียร์ การ์เซีย ปอร์ตีโย่ อดีตเด็กสร้างของเรอัล มาดริด ลงมายืนค้ำในแดนหน้าร่วมกับ จิลแบร์โต้ ริเบยโร่ กอนซัลเวส ดาวเตะเทคนิคสูงชาวบราซิเลี่ยน
เปิดฉากครึ่งแรกมา เกมสู้กันได้สนุก ก่อนที่ในนาทีที่ 22 จะเป็น เซบีย่า ออกนำไปก่อนในจังหวะที่เฆซุส นาบาส เปิดบอลจากริมเส้นทางขวาเข้ามากลางประตูให้กับ เฟเดริก กานูเต้ กองหน้าตัวเก่งวอลเล่ย์เสียบตาข่ายอย่างสุดสวยช่วยให้ เจ้าบ้าน นำก่อน 1-0
หลังจากนั้น 5 นาที เจ้าบ้านเดินเครื่องบุกถล่ทมอย่างหนัก จนสามารถทำประตูที่สองหนีห่างออกไปได้ จากการประสานงานกันของ เฆซุส นาบาส ปีกตัวจี๊ด เปิดบอลให้กับ เฟรเดริก กานูเต้ กองหน้าทีมชาติมาลี กระทุ้งเข้าไปไม่พลาด เป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในเกมนี้ ช่วยให้ เซบีย่า นำสบาย 2-0 เมื่อหมดครึ่งแรก
เข้าสู่ครึ่งหลัง ดาบิด กูเอย่าร์ มิดฟิลด์ของทีมเยือนมายิงตีไข่แตกได้ในนาทีที่ 67 ไล่มาเป็น 1-2
ช่วงที่เหลือ เซบีย่า ประคองสกอร์ที่นำเอาไว้ได้ ก่อนที่จะปิดเกมเอาชนะไป 2-1 เก็บสามคะแนนได้ตามเป้าหมาย
<b>รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม</b>
<b>เซบีย่า </b>: อันเดรส ปาล็อป - ดาเนียล อัลเวส, ฆาบี นาบาร์โร่, ฌูเลียง เอสกูเด้, อีวิก้า ดรากูติโนวิช - เฆซุส นาบาส, คริสเตียน โพลเซ่น, เรนาโต้, อาเดรียโน่ คอร์เรีย - เฟรเดริก กานูเต้, หลุยส์ ฟาเบียโน่
<b>สำรอง</b>: ดาบิด โกเบนโย่ อิเกลเซียส(ผู้รักษาประตู) - ไอตอร์ โอซิโอ, อันเดรียส์ ฮิงเคล, เอ็นโซ่ มาเรสก้า, โฆเซ่ หลุยส์ มาร์ตี้, เฆซุส เฆซูลี่, เกป้า บลังโก้
<b>คิมนาสติก เด ตาร์ราโกน่า</b> : อัลบาโน่ บิซาร์รี่ - อเลฆานโดร กัมปาโน่ , ฮูลิโอ เซซ่าร์ กาเซเรส, อนิบัล ซามูเอล มาเตยัน, ดาบิด การ์เซีย อาโร่ - การ์ลอส เมรีโน่ กอนซาเลซ, อเบล บัวเดส, ดาบิด กูเอย่าร์, อันโตนิโอ ปินิย่า, จิลแบร์โต้ ริเบยโร่ กอนซัลเวส - ฆาเบียร์ การ์เซีย ปอร์ตีโย่
<b>สำรอง</b>: รูเบน เปเรซ(ผู้รักษาประตู) - มิเกล อังเคล เยร่า การ์ซอน, อิสมาเอล อิรูร์ซูน,ฆวน อัลเฟรโด้ ดิอาซ เปรนดาส, มาโนโล่, อังเคล โมราเลส, อซิซ่า มากูกูล่า
<b>บาเลนเซีย 1 - โอซาซูน่า 0</b>
<b>สนาม: เมสตาย่า </b>
?ไอ้ค้างคาว? บาเลนเซีย จัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามครบครัน ให้ ดาบิด บีย่า ที่กำลังร้อนแรงซัดประตูเป็นว่าเล่น ลงล่าตาข่ายร่วมกับ?เอล มอโร่? เฟร์นานโด้ มอริเอนเตส โดยมี ฆัวกิน ซานเชซ คอยป้อนบอลจากทางกราบสนาม
ส่วน โอซาซูน่า ทีมเยือนวาง ปิแอร์ เวโบ้ กองหน้าทีมชาติแคเมอรูน ลงมาเป็นหัวหอกตัวเป้าเพียงคนเดียว พร้อมกับจัด จาวัด เนกูนาม มิดฟิลด์ทีมชาติอิหร่าน ลงมาบู๊ในแดนกลางเกมนี้ด้วย
ออกสตาร์ทครึ่งแรก บาเลนเซีย ทำได้ดีกว่า ก่อนจะสามารถออกนำได้สำเร็จ จากจังหวะที่ เฟร์นานโด้ มอริเอนเตส จ่ายให้กับ ดาบิด บีย่า ซานเชซ ทะลุเข้าไปสับไกในเขตโทษให้ ไอ้ค้างคาว ออกนำก่อน 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 15
เกมแลกกันสนุก นาทีที่ 28 บาลมิโร่ โลเปซ บาลโด้ พาบอลเข้ามายิงเต็มเท้า ทว่าไม่ผ่านการป้องกันของ ซานติอาโก้ กานยิซาเรส นายทวารบาเลนเซีย
หลังจากนั้น 5 นาที เจ้าถิ่นขึ้นเกมรุกมาอีก เอมิลิอาโน่ โมเร็ตติ ผ่านบอลให้กับ ดาบิด บีย่า กระทุ้งด้วยเท้าขวา ถูกเคลียร์ออกมาได้
นาทีถัดมา โอซาฯ ขึ้นมาบ้างทาง ปิแอร์ เวโบ้ หลุดขึ้นทางด้านซ้าย แต่โดนกองหลังของไอ้ค้างคาว ตามมาล้มตัวสกัดได้ทัน
ผ่านมาถึงนาทีที่ 38 ฮูโก้ วิอาน่า กองกลางทีมชาติโปรตุเกสของเจ้าบ้าน โชว์ทักษะเลื้อยเข้าไปสับไก แต่ไม่ผ่านการป้องกันของ ริคาร์โด้ นายทวารของโอซาซูน่า
4 นาทีต่อมาเป็นจังหวะของทีมเยือนบ้าง บาลมิโร่ โลเปซ บาลโด้ พาบอลขึ้นมาทางกราบขวา แต่ลูกยิงของเขาไม่ผ่านการป้องกันของ กานยิซาเรส หมดครึ่งแรก บาเลนเซีย ออกนำก่อน 1-0
ครึ่งหลัง บาเลนเซีย เปลี่ยนตัวก่อนนาทีที่ 49 ส่ง ฆอร์เก้ โลเปซ ลงมาแทน ดาวิด อัลเบลด้า
ถึงนาทีที่ 59 โอซาซูน่า เกือบได้ประตูตีเสมอ เมื่อ ดาวิด โลเปซ เปิดบอลให้ ปิแอร์ เวโบ้ ซัดบอลหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย
ถัดมา 4 นาที เจ้าบ้านเกือบได้ประตูอีกครั้ง โลเปซ คนเดิม เปิดบอลเข้าหัว บัลโด้ แต่โหม่งไม่ตรงกรอบอีก
โอกาสของ บาเลนเซีย ก็มีเช่นกันในนาทีที่ 70 ฆัวกิน ซานเชซ ไหลบอลให้ ฮูโก้ วิอาน่า ซัดจากนอกเขตโทษหลุดเสาออกไปอีกครั้ง
จบเกม บาเลนเซีย เฉือนชนะ โอซาซูน่า ไปได้หวุดหวิด 1-0
<b>รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม </b>
<b>บาเลนเซีย <b>: ซานติอาโก้ กานยิซาเรส - หลุยส์ มิเกล บรีโต้ การ์เซีย มอนเตโร่, โรเบร์โต้ อยาล่า, ราอูล อัลบิโอล, เอมิลิอาโน่ โมเร็ตติ, ฆัวกิน ซานเชซ, ดาบิด อัลเบลด้า, ฮูโก้ วิอาน่า, ดาบิด คิเมเนซ ซิลบา - เฟร์นานโด มอริเอนเตส, ดาบิด บิย่า ซานเชซ
<b>สำรอง</b>: ฌอง ลูโดวิช บูแตลล์(ผู้รักษาประตู) - ดาบิด เซร์ร่าเฆเรีย ?เซร์ร่า?, คูร์โร่ ตอร์เรส, ฆอร์เก้ โลเปซ, มิเกล อังเคล อังกูโล่, มาริโอ เรเกยโร่, ฟรานเชสโก้ ตาวาโน่
<b>โอซาซูน่า</b> : ริการ์โด้ โลเปซ เฟลิเป้ - ฆาเบียร์ ฟลานโญ่, การ์ลอส ฆาเบียร์ กูเอย่าร์, โฆเซ่ โรเมโร่ โฆเซ็ตโช่, อิ๊กนาซิโอ มอนเรอัล - จาวัด เนกูนาม, อินยากี้ มูนญอซ, บาลมิโร่ โลเปซ บาลโด้, ราอูล การ์เซีย เอสกูเดโร่, ลูโดวิช เดลปอร์ - ปิแอร์ เวโบ้
<b>สำรอง<b>: ฆวน เอเลีย(ผู้รักษาประตู) - เซซ่าร์ กรูชาก้า,โฆเซ่ อิซกิเอร์โด้, เอคตอร์ ฟอนท์, ดาบิด โลเปซ โมเรโน่, ฟรานซิสโก้ ปูนญาล, โรเบร์โต้ โซลดาโด้
<b>ส่วนผลคู่อื่นมีดังนี้ </b>
? เรเครอาติโบ อูเอลบา แพ้ เกตาเฟ่ 1-2
? เรอัล มายอร์ก้า เสมอ เรอัล โซเซียดัด 0-0
? เอสปันญ่อล เสมอ ราซิ่ง ซานตานเดร์ 2-2
? แอธเลติก บิลเบา แพ้ เซลต้า บีโก้ 0-1
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์