<b>ศึกลูกหนังพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา คู่แรกที่คิกออฟเริ่มเตะเร็วกว่าเพื่อน ปรากฏว่า ?หงส์แดง? ลิเวอร์พูล ยังลั่นฟอร์มร้อนแรงต่อเนื่อง เก็บชัยชนะในลีกเป็นเกมที่ 2 ติดต่อกัน ด้วยการเปิดรังแอนฟิลด์ถลุงเด็ดปีก ?ไก่เดือยทอง? สเปอร์ส ทีมเยือนจากกรุงลอนดอน พังพาบยับเยิน 3-0 </b>
ก่อนหน้านี้ลิเวอร์พูลเพิ่งเล่นในแอนฟิลด์ถล่มนิวคาสเซิล 2-0 มาหมาดๆ เมื่อกลางสัปดาห์ และล่าสุดเกมนี้หงส์แดงยังแรงฤทธิ์ต่อเนื่อง เมื่อเปิดรังต้อนเอาชนะสเปอร์สท่วมท้นหายห่วงถึง 3-0 แม้เกมครึ่งแรกฟอร์มของหงส์แดงยังไม่ลงล็อก ก่อนทำได้แค่เสมอกับทีมเยือนตราไก่ไปแบบไร้สกอร์ 0-0 ก็ตาม
ทว่าครึ่งหลังกลายเป็นหนังคนละม้วน เมื่อลิเวอร์พูลดาหน้าถล่มแหลกก่อนพังประตูทีมเยือนไก่เดือยทองได้ ถึง 3 ประตูรวด ไล่ตั้งแต่มาร์ก กอนซาเลซ ยิงนำร่อง 1-0 นาที 63 ต่อด้วยเดิร์ก เคาท์ ซัดให้หงส์นำห่าง 2-0 นาที 73 ก่อนที่จอห์น อาร์เน รีเซ แบ็กจอมบุกจะยิงไกลปิดท้าย น.90 ให้ลิเวอร์พูลชนะสเปอร์สขาดลอย 3-0 เก็บชัยชนะในลีกเป็นนัดที่ 2 ติดต่อกัน พร้อมทะยานขึ้นมาอยู่อันดับ 5 ชั่วคราว แข่ง 6 นัด มี 10 คะแนน ส่วนสเปอร์สแพ้เป็นนัดที่ 4 จากการลงเล่นในลีกทั้งหมด 6 เกม มี 4 แต้มเท่าเดิม รั้งอันดับ 17
ส่วนผลพรีเมียร์ลีกคู่อื่นๆ วันเดียวกัน ?สิงห์บลู? เชลซี แชมป์เก่า ฟอร์มยังแรงต่อเนื่อง บุกถล่มฟูแลม 2-0 โดยได้ประตูจากการเหมายิงคนเดียวของแฟรงค์ แลมพาร์ด น.73 (จุดโทษ) และ 80 ขณะที่ ?ปืนใหญ่? อาร์เซนอล เปิดรังยิงสลุตบอมบ์ เชฟฯยู สบายแข้ง 3-0 จากการเรียงหน้าซัลโวของวิลเลียม กัลลาส น.65, จาไกกาทำเข้าประตูตัวเอง น.69 และเธียร์รี อองรี น.80 และคู่อื่นๆ แมนฯซิตี้ ชนะ เวสต์แฮม 2-0, มิดเดิลสโบรช์ แพ้ แบล็กเบิร์น 0-1, วีแกน เสมอ วัตฟอร์ด 1-1, แอสตัน วิลลา ชนะ ชาร์ลตัน 2-0
ด้านศึกพรีเมียร์ลีก คืนนี้ (24 ก.ย.) เป็นเกมซุปเปอร์ ซันเดย์เพียงคู่เดียวโดดๆ ?สาลิกาดง? นิวคาสเซิล ที่แพ้ไปแล้วถึง 3 จากการลงเล่นทั้งหมด 5 นัด จะเปิดสนามเซนต์ เจมส์พาร์ก ของตนเอง รับการไปเยือนของ ?ทอฟฟี่? เอฟเวอร์ตัน ทีมฟอร์มแรงที่ยังไม่แพ้ใคร จากการออกสตาร์ต 5 นัดแรก โดยยูบีซีอีเอสพีเอ็น 39 จะถ่ายทอดสดคู่นี้ให้ชม เริ่มตั้งแต่ 22.00 น. เป็นต้นไป
เจ้าถิ่นสาลิกาดง นิวคาสเซิล เพิ่งเสียท่าพ่ายเป็นนัดที่ 3 ของฤดูกาล หลังบุกไปโดน ?หงส์แดง? ลิเวอร์พูล ถลุงเจ๊งยับ 0-2 ในเกมตกค้างเมื่อกลางสัปดาห์ ทำให้พวกเขาหวังที่จะกู้หน้าคว้าชัยนัดนี้ให้ได้ อย่างไรก็ตาม แมตช์นี้นิวคาสเซิลจะยังคงไม่มีเชย์ กิฟเวน นายทวารจอมหนึบ ที่ต้องขึ้นเขียงผ่าตัดท้อง และไมเคิล โอเวน ที่ฟิตไม่เต็มร้อย ทว่ายังมีทีเด็ดในเกมรุกทั้งเดเมียน ดัฟฟ์ ปีกตัวจิ๊ดชาวไอริช และโอบาเฟมี มาร์ตินส์ ศูนย์หน้าทีมชาติไนจีเรีย รวมไปถึงเอ็มเร มิดฟิลด์ทีมชาติตุรกี ขณะที่ สตีฟ ฮาร์เปอร์ จะได้ลงเฝ้าเสาแทนกิฟเวนเช่นเดิม
ข้างฝ่ายทีมเยือนเอฟเวอร์ตันภายใต้การคุมทีมของกุนซือเดวิด มอยส์ ออกสตาร์ตฤดูกาลนี้ได้อย่างร้อนแรงเกินคาด ลงเตะมา 5 นัด ยังสะกดคำว่าแพ้ไม่เป็น (ชนะ 3 เสมอ 2) มี 11 คะแนน ติดอันดับท็อปโฟร์ของตารางอยู่ในเวลานี้ สำหรับเกมนี้เอฟเวอร์ตันจะส่งทัพใหญ่ลงบู๊เต็มสูบ นำทัพโดย ?เอเจ? แอนดี้ จอห์นสัน ศูนย์หน้าทีมชาติอังกฤษ ที่กำลังท็อปฟอร์ม ยิงประตูเป็นว่าเล่นในฤดูกาลนี้ และทิม เคฮิลล์ มิดฟิลด์ทีมชาติออสเตรเลีย ที่เพิ่งเป็นฮีโร่ซุปเปอร์ซับของทีมในนัดที่บุกไปเชือดปีเตอร์โบโร่ 2-1 ในศึกคาร์ลิงคัพ รอบ 2 แนวโน้มเกม แม้ทีมทอฟฟี?จะแข็งแกร่งและยังไม่เพลี่ยงพล้ำต่อทีมใดในซีซั่นนี้ แต่ด้วยความได้เปรียบที่เป็นเจ้าบ้าน นิวคาสเซิลจึงน่ามุ่งมั่นที่จะคว้าชัยเกมนี้ให้ได้ ก่อนบดขยี้เบียดเอาชนะเอฟเวอร์ตันได้อย่างหวุดหวิด
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์