?แดน ดนัย?ซิ่งบีเอ็ม หลบจยย.-พลิกคว่ำ! ( ข่าวทั่วไป )

หวิดสิ้นชื่อ- ดาราหนุ่ม?แดน?ดนัย จิรา ประสบอุบัติเหตุขับรถเก๋งบีเอ็มฯ เฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์แล้วเสียหลักพลิกคว่ำ

ศึกลูกหนังชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ?ยูโร 2008? รอบคัดเลือก เมื่อวันพุธที่ผ่านมา มีการดวลแข้งรวมทั้งหมด 7 กลุ่ม ปรากฏผลดังนี้

กลุ่มเอ ?ฝอยทอง? โปรตุเกส รองแชมป์เก่า บุกไปเสมอกับ ฟินแลนด์ 1-1 โดยเจ้าถิ่นขึ้นนำก่อนจาก โจนาธาน โยฮันส์สัน นาที 21 แต่นูโน โกเมซ ซัดตีเสมอให้โปรตุเกส นาที 41 จบเกมทั้งคู่จึงแบ่งกันไปทีมละ 1 แต้ม

สำหรับผลคู่อื่นๆ โปแลนด์ เสมอ เซอร์เบีย 1-1, อาร์เมเนีย แพ้ เบลเยียม 0-1, อาเซอร์ไบจาน เสมอ คาซัคสถาน 1-1

กลุ่มบี เกมบิ๊กแมตช์ชนช้างที่สนามสตาด เดอ ฟรองซ์ กรุงปารีส ซึ่งเป็นเกมรีแมตช์นัดชิงฟุตบอลโลก 2006 ระหว่าง ?ตราไก่? ฝรั่งเศส รองแชมป์โลก เปิดบ้านต้อนรับ ?อัซซูรี? อิตาลี แชมป์โลกผู้มาเยือน นัดนี้ทั้ง 2 ทีมต่างไม่มีคู่กรณีจากเหตุการณ์เฮดบัตต์อื้อฉาวบันลือโลกที่เกิดระหว่างนัดชิงบอลโลกที่เยอรมนี คือ ซีเนอดีน ซีดาน ของฝรั่งเศส ที่แขวนสตั๊ดเลิกเล่นไปแล้ว กับมาร์โก มาเตราซซี กองหลังอิตาลี ที่ถูกแบนห้ามเล่น

เกมดวลแข้งปรากฏว่า ขุนพลทีมตราไก่ออกสตาร์ตได้อย่างร้อนแรง พังตาข่ายขึ้นนำแชมป์โลกอิตาลีไปก่อนอย่างรวดเร็ว 1-0 จากซิดนีย์ โกวู ตั้งแต่ 2 นาทีแรก จากนั้น ฝรั่งเศสยังบุกต่อเนื่อง ก่อนหนีห่างเป็น 2-0 จากลูกตามซ้ำของเธียร์รี อองรี ที่ซัดแฉลบขาฟาบิโอ คันนาวาโร กัปตันทีมอัซซูรีตุงตาข่าย นาที 17 ทว่าอีก 2 นาทีต่อมา อิตาลีตามเอาคืนยิงตีไข่แตกไล่เป็น 1-2 จากลูกโหม่งของอัลแบร์โต จิลาร์ดิโน ก่อนจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

ส่วนครึ่งหลัง ขุนพลฝรั่งเศสมายิงเพิ่มอีก 1 ลูกบวกสกอร์เป็น 3-1 ด้วยลูกโหม่งของโกวูคนเดิม นาที 56 นับเป็นประตูที่ 2 ของเขาในเกมนี้ ครบ 90 นาที ฝรั่งเศสล้างแค้นอิตาลีได้อย่างสวยงาม ด้วยชัยชนะขาดลอย 3-1 พร้อมทำสถิติชนะ 2 นัดซ้อน เก็บ 6 คะแนนเต็ม ส่วนอิตาลียังไม่ชนะใครจากการลงเล่น 2 นัด มีแค่คะแนนเดียว ขณะที่ผลคู่อื่นในกลุ่มบี ลิทัวเนีย แพ้ สกอตแลนด์ 1-2 และยูเครน ชนะ จอร์เจีย 3-2

กลุ่มซี บอสเนีย แพ้ ฮังการี 1-3, ตุรกี ชนะ มอลตา 2-0 และนอร์เวย์ ชนะ มอลโดวา 2-0

กลุ่มดี ?อินทรีเหล็ก? เยอรมนี ลั่นฟอร์มสุดโหด บุกไปถล่มยำใหญ่สมันน้อย ซาน มารีโน เละตุ้มเป๊ะชนิดโจ๊กโดนระเบิด ด้วยสกอร์มโหฬารท่วมท้นถึง 13-0 โดยลูคัส โพโดลสกี เหมาซัดคนเดียว 4 ประตู (น.12, 42, 64, 70) ส่วนที่เหลือเป็นผลงานของบาสเตียน ชไวน์-สไตเกอร์ คนเดียว 2 ลูก (น.29, 48), มิโรสลาฟ โคลเซ 2 ลูก (น.30, 45), มิชาเอล บัลลัค (35), โทมัส ฮิตเซิลส-เพอร์เกอร์ 2 ประตู (66, 72), มานูเอล ฟรีดริช (87) และแบร์นด์ ชไนเดอร์ (ลูกโทษ น.90)

ชัยชนะถล่มทลาย 13-0 ของทีมอินทรีเหล็กนัดนี้ กลายเป็นสถิติใหม่ที่เป็นชัยชนะมโหฬารที่สุดในประวัติ-ศาสตร์ศึกลูกหนังชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ทุบสถิติเดิมที่สเปนเคยต้อนมอลตา 12-1 ในปี 1983 และยังเท่ากับสถิติชนะมากสุดของทีมชาติเยอรมนี นอกเหนือจากโอลิม-ปิกเกมส์อีกด้วย

ส่วนผลอีกคู่ ในกลุ่มดี สโลวะเกีย แพ้ สาธารณ-รัฐเช็ก 0-3 (เช็กได้จากลิบอร์ ซิออนโก คนเดียว 2 ลูก น.10 กับ 21 และแยน โคลเลอร์ น.57)

กลุ่มอี ?สิงโตคำราม? อังกฤษ โชว์ฟอร์มสวยหรูเก็บชัยชนะ 2 เกมติดต่อกัน ด้วยการบุกไปขย้ำมาซิโด-เนียคาถิ่น 1-0 จากประตูชัยโทนของปีเตอร์ เคราช์ หัวหอกร่างโย่งจากลิเวอร์พูล ที่เอี้ยวตัววอลเลย์ไปชนคานก่อนบอลกระเด้งลงพื้นข้ามเส้นประตู ในนาที 46 นับเป็นประตู ที่ 11 ในการเล่นทีมชาติ 10 นัด หลังสุดของเคราช์ด้วย ซึ่งชัยชนะนัดนี้ทำให้อังกฤษชนะรวด 2 นัดซ้อน มี 6 คะแนนเต็ม นำเป็นจ่าฝูงของกลุ่มนี้

ขณะที่ผลคู่อื่นในกลุ่มเดียวกัน อิสราเอล ชนะ อันดอร์รา 4-1, รัสเซีย เสมอ โครเอเชีย 0-0

กลุ่มเอฟ ?กระทิงดุ? สเปน พ่ายเหลือเชื่อ ทั้งที่ ออกนำก่อน 2 ครั้ง 2 หน ก่อนบุกไปปราชัยต่อไอร์-แลนด์เหนือชนิดล็อกถล่ม 2-3, ไอซ์แลนด์ แพ้ เดนมาร์ก 0-2 และสวีเดน ชนะ ลิกเตนสไตน์ 3-1

กลุ่มจี ?อัศวินสีส้ม? ฮอลแลนด์ ชนะ เบลารุส 3-0, แอลเบเนีย แพ้ โรมาเนีย 0-2 และบัลแกเรีย ชนะ สโลวีเนีย 3-0

ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์