แหล่งรวม ธุรกิจ บริษัท ห้างร้าน และ ข้อมูล การท่องเที่ยว ในแถบ อันดามัน
 
เข้าสู่ระบบ G! Builder
เลือกจังหวัด
ข่าวสาร ข่าวทั่วไป ภายในประเทศ

รวบแล้วมือฆ่าสาวเทียมคุมตัวทำแผนสังหารโหด ( ข่าวทั่วไป )

ภาพประกอบ ข่าวสาร ข่าวทั่วไป : รวบแล้วมือฆ่าสาวเทียมคุมตัวทำแผนสังหารโหด

?สิงห์บลูส์? เชลซี เก็บสามแต้มแก้ตัวได้สำเร็จหลังบุกไปหัก ?กุหลาบไฟ? แบล๊คเบิร์น พังคารัง 2-0 แฟร้งค์ แลมพาร์ด และดีดิเย่ร์ ดร็อกบา แบ่งกันซัดคนละเม็ด ด้าน ?สิงห์ผงาด? แอสตัน วิลล่า ฟอร์มยังแกร่งทั่วแผ่นเก็บชัยเป็นนัดที่สองจากสามเกม ไล่ต้อน ?สาลิกาดง? นิวคาสเซิ่ล 2-0 เช่นกันจากฝีเกือกของลุค มัวร์ และ ฮวน ปาโบล อังเคล


<b><font color=#0000FF>ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ</font></b>

<b><font color=#FF0000>แบล๊คเบิร์น 0 - เชลซี 2</font></b>

?กุหลาบไฟ? แบล๊คเบิร์น โรเวอร์ส เปิดรัง อีวู้ด ปาร์ก ต้อนรับการมาเยือนของ ?สิงโตน้ำเงินคราม? เชลซี งานนี้ มาร์ค ฮิวจ์ส กุนซือเจ้าถิ่นส่ง อังเดร ออยเยอร์ กองหลังตัวใหม่ลงสนามทันทีขณะที่คู่หน้าเป็น เบนนี่ แม็คคาร์ธี่ กับ เจสัน โรเบิร์ตส์

ฝั่งทีมเยือนที่เพิ่งแพ้ มิดเดิ้ลสโบรช์ มา 1-2 เมื่อกลางสัปดาห์ โชเซ่ มูรินโญ่ ส่ง คาลิด บูลารูซ ปราการหลังทีมชาติฮอลแลนด์ประจำการตำแหน่งแบ๊กขวาทันทีเช่นกัน โดย มิชาเอล บัลลัค ได้กลับมาเป็นตัวจริงแดนกลาง ส่วนข้างหน้า โซโลมอง คาลู ได้ยืนคู่กับ อังเดร เชฟเชนโก้ ขณะที่ ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา นั่งสำรอง

เป็น เชลซี ที่ทักทายก่อนจาก มิชาเอล เอสเซียง ที่ซัดจากนอกเขต แต่บอลข้ามคานออกไป ขณะที่ แบล๊คเบิร์น ก็ได้ลุ้นในนาทีที่ 6 จากการยิงสวนของ ร็อบบี้ ซาเวจ ทว่าบอลก็ข้ามคานไปเช่นกัน

เกมเป็นไปอย่างสูสีทั้งคู่เข้าบอลกันเร็วและตัดฟาวล์เพื่อสกัดเกมรุกของคู่ต่อสู้ตลอดเวลาทำให้ไม่ค่อยมีโอกาสลุ้นทำประตูกันมากนัก

นาที 20 แบล๊คเบิร์น เกือบขึ้นนำจากลูกฟรีคิกทางขวา 25 หลาที่ มอร์เท่น กัมสต์ พีเดอร์เซ่น ซัดไปแฉลบกำแพงกระดอนข้ามคานออกไปนิดเดียว

ร็อบบี้ ซาเวจ ต้องรับใบเหลืองไปตามระเบียบเมื่อไปทำฟาวล์ เอสเซียง น่าเกลียด จังหวะต่อมา เชฟเชนโก้ ได้ลุ้นยิงจากนอกเขตแต่ก็ข้ามคานไปไกล

มิชาเอล บัลลัค มีโอกาสลุ้นทำประตูเมื่อเกมผ่านครึ่งชั่วโมงไปไม่นาน ด้วยการหลอกหนึ่งจังหวะก่อนจะซัดติดบล็อก ออยเยอร์ เข้ามือ แบร๊ด ฟรีเดล

เชลซี เกือบขึ้นนำ นาที36 เมื่อ เดวิด เบนท์ลี่ย์ เสียบอลทำให้หลุดไปถึง เชฟเชนโก้ ที่ได้ลองซัดไกลจากระยะ 30 หลา แต่ก็ตรงตัว ฟรีเดล และอีก 3 นาทีต่อมา บัลลัค ได้ลองส่องฟรีคิกจากระยะ 25 หลาซึ่งก็ข้ามคานออกไปอีก

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ คาลู ได้ลองส่องจากนอกเขต แต่ไปตรงตัว แบร๊ด ฟรีเดล ทำให้ครบ 45 นาทีแรกสกอร์อยู่ที่ 0-0

ครึ่งหลังทั้งสองทีมยังใช้ผู้เล่นชุดเดิมเล่นไปได้แค่ 3 นาที เชลซี ได้ลูกที่จุดโทษอย่างรวดเร็วจากชอตที่ อังเดร ออยเยอร์ ไปดึง จอห์น เทอร์รี่ ในเขต ออยเยอร์ โดนใบเหลืองไปด้วย งานนี้ แฟร้งค์ แลมพาร์ด รับหน้าที่สังหารไม่พลาด เชลซี นำ 1-0

เกมรับของ แบล๊คเบิร์น ป่วนและเกือบเสียประตูที่ 2 น.51 เมื่อ คิซานิชวิลี่ บังบอลไม่ดีเกือบโดน คาลู ฉกไปยิง ยังดีที่ คิวานิชวิลี่ ตามไปเคลียร์ออกหลังได้

จากนั้น 2 นาที กุหลาบไฟ ใกล้เคียงต่อการได้ประตูอย่างยิ่งเมื่อ เบรตต์ เอเมอร์ตัน โยนจากด้านขวาให้ แม็คคาร์ธี่ เอาบอลลงในเขตด้วยอกแล้วยิงแต่ติดเซฟของ ปีเตอร์ เชก หวุดหวิด จากนั้นไม่นาน เชลซี เปลี่ยนเอา ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา แทน คาลู

ผ่าน 1 ชั่วโมงไปไม่นาน เชลซี เกือบได้เม็ดที่ 2 จากจังหวะโต้เร็ว เชฟเชนโก้ หลุดไปทางซ้าย ก่อนจะผ่านเข้ากลางน่ากลัว แต่บอลก็ผ่านออกหลังไป

จังหวะต่อมา โคล้ด มาเกเลเล่ ไปดึงผู้เล่น กุหลาบไฟ จนล้ำคว่ำน่าเกลียดกลางสนามทำให้ได้ใบเหลืองไปตามระเบียบ

กุหลาบไฟ พยายามครองบอลเข้าใส่แชมป์เก่าเต็มที่ แต่ก็ไม่ผ่านเกมรับอันเหนียวแน่น น.73 เจ้าถิ่นเกือบได้จากฟรีคิกทางซ้าย ซาเวจ กึ่งโยนกึ่งยิงทำท่าจะเสียบใต้คานเสาสอง แต่ ปีเตอร์ เชก ปัดข้ามคานไปได้อีก

น.77 แบล๊คเบิร์น เกือบตีเสมอได้เมื่อ ลูคัส นีลล์ ยิงบอลเก็บตกจากแถวสองจากระยะ 25 หลาบอลเฉี่ยวเสาออกไปนิดเดียว

เชลซี มาได้ประตูที่ 2 ใน น.80 เมื่อ เอสเซียง จิ้มให้ ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา ใช้ความแข็งแกร่งเบียด อังเดร ออยเยอร์ เข้าไปยิงในเขตโทษเต็มๆด้วยอีขวา บอลตุงตาข่ายสะใจ เชลซี นำ 2-0

จากนั้น แบล๊คเบิร์น พยายามบุกเพื่อเอาคืนแต่ก็ไม่สำเร็จ จบเกม เชลซี บุกชนะ 2-0 เก็บ 3 แต้มเต็มเอาไว้ได้ตามคาด

<b>รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม</b>
<b>แบล๊คเบิร์น :</b> แบร๊ด ฟรีเดล, เบรตต์ เอเมอร์ตัน, ซูรับ คิซานิชวิลี่, อังเดร ออยเยอร์, ลูคัส นีลล์, เดวิด เบนท์ลี่ย์, ร็อบบี้ ซาเวจ, สตีเว่น รีด, มอร์เท่น กัมส์ต พีเดอร์เซ่น, เบเนดิกต์ แม็คคาร์ธี่, เจสัน โรเบิร์ตส์
<b>เชลซี :</b> ปีเตอร์ เชก, คาลิด บูลารูซ, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่, จอห์น เทอร์รี่, เวย์น บริดจ์, โคล้ด มาเกเลเล่, มิชาเอล เอสเซียง, มิชาเอล บัลลัค, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, ซาโลมอง คาลู, อังเดร เชฟเชนโก้

<b><font color=#FF0000>แอสตัน วิลล่า 2 - นิวคาสเซิ่ล 0</font></b>

?สิงห์ผงาด? แอสตัน วิลล่า เปิดสนาม วิลล่า ปาร์ค ต้อนรับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด โดยเจ้าบ้านปรับเปลี่ยนผู้เล่นแค่ตำแหน่งเดียวคือแบ็กซ้าย เนื่องจาก เจย์ลอยด์ ซามูเอล เจ็บ ต้องให้ ปีเตอร์ วิตติ้งแฮม ลงเล่นแทน

ส่วนทีมเยือนได้ เคร็ก มัวร์ ฟิตทันกลับมาคุมแผงหลัง และแดนหน้าให้ เจมส์ มิลเนอร์ จับคู่กับ โอบาเฟมี่ มาร์ตินส์ กองหน้าตัวใหม่ที่เพิ่งย้ายมาจาก อินเตอร์ มิลาน ลงเล่นเป็นตัวจริงทันที

เริ่มเกมได้แค่ 2 นาที กองเชียร์สิงห์ผงาดก็ได้เฮกันลั่นสนาม เมื่อมาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว จากจังหวะโยนฟรีคิกเข้าไปในเขตโทษ บอลตกที่ โอลอฟ เมลล์เบิร์ก แต่ถูก ไตตัส บรัมเบิ้ล แหย่เท้าสกัดเข้าทาง ลุค มัวร์ เก็บตกได้หน้าเขตโทษ ก่อนแต่งเข้าเท้าขวาแล้วสับไกผ่าน เชย์ กิฟเว่น เข้าไปอย่างสวยงาม

ให้หลังไปได้ 2 นาที นิวคาสเซิ่ล มาได้ลูกฟรีคิกระยะ 25 หลา โนลเบอร์โต้ โซลาโน่ ปั่นไปติดกำแพงออกหลัง และจากลูกเตะมุม โซลาโน่ ปั่นไปให้ เคร็ก มัวร์ โหม่งเช็ดต่อไปทางเสาสองให้ เจมส์ มิลเนอร์ จับบอลลงแล้วพลิกยิงจากระยะแค่ 3 หลาโด่งข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย

จากนั้นเป็นทีมเยือนที่เปิดเกมรุกเข้าใส่เกือบตลอด แต่ไม่มีจังหวะใกล้เคียงกับการเป็นประตูมากนัก มีเพียงลูกยิงไกลของ เดเมี่ยน ดัฟฟ์ ในนาทีที่ 24 แต่ก็หลุดกรอบออกไปไม่ได้ลุ้น

ขณะที่ วิลล่า ใช้จังหวะโต้กลับได้ลุ้นเป็นประตูหลายครั้ง กระทั่งนาที 38 กาเบรียล อั๊กบอนลาฮอร์ ลากบอลเข้าหาเขตโทษ แล้วแทงทะลุช่องให้ ฮวน ปาโบล อังเกล หลุดเข้าไปแตะหนี เชย์ กิฟเว่น ก่อนแปเข้าสู่ก้นตาข่ายโล่งๆ ให้ แอสตัน วิลล่า หนีห่าง 2-0

หลังเสียประตูแผงหลังทีมเยือนดูเหมือนจะเสียกระบวนไปไม่น้อย และเกือบจะเสียลูกที่ 3 อีกในนาทีต่อมา โดย อั๊กบอนลาฮอร์ ซึ่งดูจะเป็นตัวแสบของเกมนี้ กระชากบอลอยู่บริเวณกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนสับไกหลุดเสาสองออกไป

ก่อนหมดครึ่งแรกนาทีเดียว นิวคาสเซิ่ล ได้โอกาสยิงไกลอีกครั้งจาก เดเมี่ยน ดัฟฟ์ แต่ก็ไปตรงตัว โธมัส โซเรนเซ่น

ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก สตีเฟ่น คาร์ แย่งบอลจาก ปีเตอร์ วิตติ้งแฮม ได้ในเขตโทษ แล้วถูกดึงล้มลงไป แต่ผู้ตัดสินก็ยังใจแข็งไม่เป่าให้ลูกจุดโทษแก่ทีมเยือนอีก จบครึ่งแรก แอสตัน วิลล่า นำ นิวคาสเซิ่ล อยู่สบายๆ 2-0

ครึ่งหลัง นิวคาสเซิ่ล เปลี่ยนผู้เล่นทีเดียว 2 คนรวดส่ง ชาร์ลส์ เอ็นซ็อกเบีย กับ อัลเบิร์ต ลูเก้ ลงมาแทน เซเลสติน บาบายาโร่ และ โนลเบอร์โต้ โซลาโน่

เกมรุกของทีมเยือนดูดุดันมากขึ้น นาทีที่ 49 สก็อตต์ ปาร์คเกอร์ หลุดไปถึงสุดเส้นหลัง ก่อนเปิดมาที่เสาแรกให้ อัลเบิร์ต ลูเก้ ตัวสำรอง พยายามยิงไขว้หลัง แต่บอลดันไปติดแข้งติดขาเอง พลาดโอกาสทองไปอย่างน่าเสียดาย

ถึงนาทีที่ 56 เกล็น โรเดอร์ ส่งไพ่ใบสุดท้าย นิคกี้ บัตต์ ลงมาเล่นแทน เอ็มเร่ เบโลโซกลู

สภาพทีมของนิวคาสเซิ่ล ดูจะย่ำแย่ลงไปอีก เมื่อ โอบาเฟมี่ มาร์ตินส์ ได้รับบาดเจ็บบริเวณหัวเข่า ต้องถูกหามออกจากสนามไปอีกในนาทีที่ 61 ทีมเยือนต้องเล่นเพียงแค่ 10 คน ในช่วงเวลาที่เหลือ

ช่วง 20 นาทีสุดท้ายเลยกลายเป็นเกมยำใหญ่ของทางฝั่ง วิลล่า นาที 75 เจ้าบ้านใช้จังหวะโต้กลับขึ้นมาหลายคน ก่อนที่ อังเกล จะยิงไปติดบล็อคกองหลังทีมเยือนไปเข้าทางแกเร็ธ แบร์รี่ ตวัดต่อให้ เดวิส ที่รออยู่ทางซ้าย แต่ก็ยิงไม่ผ่านมือ กิฟเว่น

ถัดมา 2 นาที แบร์รี่ ลากบอลจากกลางสนาม แล้วปาดต่อไปให้ อั๊กบอนลาฮอร์ กระชากเข้าไปซัดในเขตโทษ แต่ติดบล็อคกองหลังนิวคาสเซิ่ลอีก

วิลล่า คุมเกมเอาไว้ได้หมด และเกือบได้ลูกที่ 3 ในช่วงทดเจ็บนาที แบร์รี่ จ่ายบอลให้ มัวร์ ซัดด้วยซ้ายไปชนคานอย่างจัง หมดเวลาการแข่งขัน แอสตัน วิลล่า เอาชนะ นิวคาสเซิ่ล ไปได้ 2-0

<b>รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม</b>
<b>แอสตัน วิลล่า :</b> โธมัส โซเรนเซ่น, แอรอน ฮิวจ์ส, โอลอฟ เมลล์เบิร์ก, เลียม ริดจ์เวลล์, ปีเตอร์ วิตติ้งแฮม, สตีเฟ่น เดวิส, เกวิน แม็คแคนน์, แกเร็ธ แบร์รี่, ลุค มัวร์, ฮวน ปาโบล อังเคล, กาเบรียล อั๊กบอนลาฮอร์
<b>นิวคาสเซิ่ล :</b> เชย์ กิฟเว่น, สตีเฟ่น คาร์, ติตัส บรัมเบิ้ล, เคร็ก มัวร์, เซเลสติน บาบายาโร่, โนลเบอร์โต้ โซลาโน่, สก็อตต์ ปาร์เกอร์, เอ็มเร่ เบโลโซกลู, เดเมี่ยน ดัฟฟ์, เจมส์ มิลเนอร์, โอบาเฟมี่ มาร์ตินส์

ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์

Valid XHTML 1.0 Transitional Valid CSS!
ทะเบียนพาณิชย์อีเลคทรอนิคส์ เลขที่ 8373549000215