<dd>?สิงโตน้ำเงินคราม? เชลซี ลงสนามอุ่นเครื่องเป็นนัดสุดท้ายก่อนเกมคอมมิวนิตี้ ชิลด์ ทำได้เพียงแค่เสมอ กลาสโกว์ เซลติก 1-1 เป็นเซลติกที่ขึ้นนำก่อนจาก สตีเฟ่น คัลด์เวลล์ น.10 ก่อนที่ อาร์เยน ร็อบเบน จะตีเสมอได้สำเร็จช่วงท้ายครึ่งแรก ขณะที่ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ทีมดังของอังกฤษ บุกมาเสียท่า สปาร์ต้า ร็อตเตอร์ดัม จากฮอลแลนด์ 0-1 ในศึกกระชับมิตร เมื่อคืนที่ผ่านมา
<dd><b>ฟุตบอลกระชับมิตร</b>
<dd><b>วันพุธที่ 9 สิงหาคม 2549</b>
<dd><b>เชลซี (อังกฤษ) 1 - กลาสโกว์ เซลติก (สกอตแลนด์) 1</b>
<dd>ที่สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ เชลซี ลงสนามอุ่นเครื่องเป็นนัดสุดท้ายก่อนเกมคอมมิวนิตี้ ชิลด์ พบกับ กลาสโกว์ เซลติก
<dd>นัดนี้เจ้าถิ่นมีการเปลี่ยนแปลงพอสมควรจากเกมล่าสุด ด้วยการพัก มิชาเอล บัลลัค และ อังเดร เชฟเชนโก้ เป็นสำรอง ส่วนทีมเยือนจัดทัพชุดใหญ่ลงเล่นเต็มที่ นำโดย เคนนี่ มิลเลอร์
<dd>เชลซี เป็นฝ่ายครองเกมได้ในช่วงแรก แต่กลับเป็นฝ่ายพลาดเสียประตูไปก่อนในนาทีที่ 10 จากจังหวะเตะมุมทางขวา ชุนสุเกะ นากามูระ เปิดโด่งมาตรงกลาง สตีเฟ่น คัลด์เวลล์ วิ่งสอดเข้ามาแหย่เท้าจิ้มบอลพุ่งเสียบตาข่าย ทีมเยือนนำ 1-0
<dd>เชลซี พลาดโอกาสตีเสมอไปในอีกห้านาทีถัดมา เมื่อ คัลด์เวลล์ ทำพลาดลื่นหน้ากรอบโทษตนเอง ดิดิเย่ร์ ดร็อกบาฉกมาลากเข้าไปในกรอบโทษทางขวา แล้วกดมุมแคบไปติด อาเธอร์ โบรุค เด้งออกมา หัวหอกไอวอรี่โคสต์ตามซ้ำข้ามคาน
<dd>นาทีที่ 25 อาร์เยน ร็อบเบน เปิดจากทางกราบซ้ายให้ ดร็อกบา พักอกเอาบอลลงระยะแค่ 8 หลา ก่อนวอลเลย์ไปโดน สตีเฟ่น แม็คมานัส บล็อกจังหวะแรก ก่อนที่ อาเธอร์ โบรุค จะตามไปคว้าไว้ได้
<dd>นาทีที่ 32 เชลซี ก็หวิดเสียประตูเพิ่ม เมื่อ สตีเฟ่น เพียร์สัน บรรจงโยนจากทางซ้ายไปในกรอบโทษ เคนนี่ มิลเลอร์ เบียดคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟเจ้าถิ่นเข้าไปดีดด้วยขวา บอลลอยเบียดเสาแรกน่าหวาดเสียว
<dd>จอห์น โอบี มิเกล พาบอลลุยขึ้นมาจากกลางสนาม แล้วต่อให้ ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์ ตัดเข้ากลางหนีตัวประกบหาจังหวะส่องหน้ากรอบโทษ บอลพุ่งเรียดไปเข้าซอง โบรุค ในนาทีที่ 40
<dd>นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก ไรท์ ฟิลลิปส์ แก้ตัวสำเร็จเมื่อรับบอลลูกแทงจาก อาร์เยน ร็อบเบน แล้วล็อกบอลเข้ากลางก่อนตะบันตรงเส้นกรอบโทษผ่านมือ อาเธอร์ โบรุค เสียบเสาแรก ให้ เชลซี ตีเสมอ 1-1 สำเร็จก่อนที่ผู้ตัดสินจะเป่านกหวีดยาว
<dd>ครึ่งหลัง โชเซ่ มูรินโญ่ จัดการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นหลายราย พร้อมส่ง อังเดร เชฟเชนโก้ และ มิชาเอล บัลลัค ลงมา
<dd>นาทีที่ 58 สองสตาร์ใหม่ก็ประสานกันจนเกือบช่วยให้ทีมได้ประตู จากลูกเปิดยาวทางซ้ายของ เวย์น บริดจ์ ลอยไกลไปเสาสอง เชฟเชนโก้ โขกเข้ากลางตั้งให้ บัลลัค เข้ามาวอลเลย์แต่โดนกองหลังเข้ามาเบียดเลยโดนไม่เต็ม ลูกกระดอนพื้นออกหลังไป
<dd>จากนั้น เชฟเชนโก้ ก็ลากขึ้นไปทางขวาแล้วโยนมาตรงกลางให้ แลมพาร์ด ลอยตังวอลเลย์ลูกพุ่งเบียดโคนเสาแรกออกเพียงนิดเดียวในนาทีที่ 63
<dd>สองนาทีถัดมา เซลติก ก็มีโอกาสเช่นกันเมื่อ สตีเฟ่น เพียร์สัน ได้โขกแบบเน้นๆไม่มีตัวประกบไม่ถึง 10 หลา ทว่า คูดินิชี่ ยังเหนียวไม่ยอมพลาดเสียอีกลูกพุ่งปัดมือเดียวออกหลัง
<dd>นาทีที่ 73 ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ กระชากขึ้นไปทางขวาแล้วตบเข้ากลาง ซาโลมอน กาลู ตวัดยิงด้วยขวาทันที บอลพุ่งแฉลบโคนเสาขวาออกไปอีก
<dd>จากนั้น ยังมีจังหวะหวาดเสียวเป็นระยะ แต่ไม่มีใครยิงประตูเพิ่มได้ หมดเวลาเสมอกันไป 1-1
<dd><b>รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม </b>
<dd><b>เชลซี</b> : คาร์โล คูดิชินี่, เปาโล แฟร์ไรร่า, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่, จอห์น เทอร์รี่, เวย์น บริดจ์, จอห์น โอบี มิเกล, ลาสซาน่า ดิอาร์ร่า, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์, ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา, อาร์เยน ร็อบเบน
<dd><b>เซลติก</b> : อาเธอร์ โบรุค, มาร์ค วิลสัน, สตีเฟ่น แม็คมานัส, แกรี่ คัลด์เวลล์, รอสส์ วัลเลซ, ชุนซุเกะ นากามูระ, นีล เลนน่อน, ยิริ ยาโรซิค, สตีเฟ่น เพียร์สัน, อีแวนเดอร์ สโน, เคนนี่ มิลเลอร์
<dd><b>สปาร์ต้า ร็อตเตอร์ดัม (ฮอลแลนด์) 1 - แบล็คเบิร์น (อังกฤษ) 0</b>
<dd>แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ทีมดังของอังกฤษ บุกมาอุ่นเครื่องกับ สปาร์ต้า ร็อตเตอร์ดัม ที่สนาม สปาร์ต้า สเตเดี้ยม โดยที่เจ้าถิ่นส่ง ยานนิส อนาสตาซิอู กองหน้าตัวเก่งชาวกรีซ ลงยืนคู่กับ ราชิด บูอูซาน ในแดนหน้า
<dd>ขณะที่ทีมเยือนจากแดนผู้ดี มาร์ค ฮิวจ์ส ส่ง เจสัน บราวน์ นายทวารดาวรุ่งลงเฝ้าเสา และให้สองตัวใหม่ เบนเนดิก แม็คคาร์ธี่ กองหน้าทีมชาติแอฟริกาใต้ กับ จอร์จ อคุนญ่า มิดฟิลด์ทีมชาติชิลี ลงสนามในเกมนี้ด้วย
<dd>เกมในครึ่งแรก แบล็คเบิร์น ทำได้ดีกว่า ในนาทีที่ 18 โจนาธาน ดั๊กลาส ได้สับไกยิงจากนอกเขตโทษ แต่ไม่ผ่านมือ เรน ปองค์ นายทวารสปาร์ต้า
<dd>รูปเกมเป็นกุหลาบไฟที่บุกเข้าใส่ตลอด แต่คู่กองหน้า เบนนี่ แม็คคาร์ธี่ กับ เชฟกี้ คูกี้ ดูจะประสานงานกันไม่ค่อยดีนัก จบครึ่งแรกเลยยังเสมอกันอยู่ 0-0
<dd>ครึ่งหลัง แบล็คเบิร์น เปลี่ยน 2 คนรวด โดยส่ง เจมส์ แม็คอีฟลี่ย์ กับ เดวิด เบนท์ลี่ย์ ลงมาแทน โดมินิก มัตเตโอ กับ พอล กัลลาเกอร์
<dd>ถึงนาทีที่ 51 กลับเป็นเจ้าถิ่นที่ขึ้นนำ 1-0 จากลูกเปิดฟรีคิกทางริมเส้น กองหลังแบล็คเบิร์นไม่มีใครเข้าถึงบอล ปล่อยให้ ยูริ โรส วิ่งเข้าสไลด์บอลเสียบตาข่ายเข้าไปง่ายๆ
<dd>ถัดมาอีก 5 นาที สปาร์ต้า น่าจะได้ประตูที่ 2 เมื่อ แดนนี่ เชนเคล ได้โหม่งลูกเตะมุมโล่งๆ แต่บอลหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย
<dd>เกมมาถึง 1 ชั่วโมงเต็ม ทีมเยือนจากอังกฤษต้องเปลี่ยนอีก 2 โดยส่งทั้ง มอร์เท่น แกมส์ท พีเดอร์เซ่น และ สตีเฟ่น รีด ลงเล่นแทน โจนาธาน ดั๊กลาส กับ เซอร์จิโอ ปีเตอร์
<dd>ช่วงเวลาที่เหลือ แบล็คเบิร์น พยายามบุกหนัก แต่ไม่อาจทวงประตูคืนได้ จบเกม สปาร์ต้า ร็อตเตอร์ดัม เอาชนะ แบล็คเบิร์น ไปได้ 1-0
<dd><b>รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม</b>
<dd><b>สปาร์ต้า</b> : เรน ปองค์, เซ็ปป์ เดอ รูเวอร์, สตีฟ โอลเฟอร์ส, แดนนี่ เชนเคล, ซาค โพลัค, อันโธนี่ โอโบได, ฮาริส เมดุนยานิน, โดมินิก ฟาน ดิจ์ค, ยูริ โรส, ราชิด บูอูซาน, ยานนิส อนาสตาซิอู
<dd><b>สำรอง</b> : มาร์ค สมิธ, ซานี่ ไกต้า, เจสัน ออสต์, มาร์วิน เอ็มเนส, มาร์เซียโน่ บรูม่า, วูเตอร์ กัดเด้, ไอเดอร์ลินโด้ ไฟรเร่
<dd><b>แบล็คเบิร์น</b> : เจสัน บราวน์, ลูคัส นีลล์, อารอน โมโคเอน่า, แอนดี้ ท็อดด์, โดมินิก มัตเตโอ, จอร์จ อคุนญ่า, โจนาธาน ดั๊กลาส, พอล กัลลาเกอร์, เซอร์จิโอ ปีเตอร์, เชฟกี้ คูกี้, เบนเนดิก แม็คคาร์ธี่
<dd><b>สำรอง </b>: แบร๊ด ฟรีเดล, ไมเคิ่ล เกรย์, ร็อบบี้ ซาเวจ, มอร์เท่น แกมส์ท พีเดอร์เซ่น, เจมส์ แม็คอีฟลี่ย์, สตีเฟ่น รีด, เดวิด เบนท์ลี่ย์
<b>ส่วนผลคู่อื่นมีดังนี้</b>
? ญี่ปุ่น ชนะ ตรินิแดดฯ 2-0
? โรเซนบอร์ก แพ้ วีแกน 1-2
? แม็คเคเลน เสมอ โรด้า เจซี 0-0
? ลอมเมล - อาร์เคซี วาลไวค์ (ยกเลิกการแข่งขัน)
? เฮอร์คูเลส แพ้ รีล ซาราโกซ่า 0-3
? โอลิมเปียกอส ชนะ รีล มายอร์ก้า 2-1
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์