<b>สั่งลาชีวิตการค้าแข้งศึกลูกหนัง เว็บนอกชี้เหตุโหม่งใบแดง ?มาเตราซซี่? พูดเหยียด ?ซิซู?</b>
?ซีเนอดีน ซีดาน? เพลย์เมกเกอร์ฝรั่งเศสยังปิดปากเงียบ ไม่ยอมเผยสาเหตุที่ใช้หัวโขก ?มาร์โก มาเตราซซี? กองหลังของอิตาลี จนโดนใบแดงถูกไล่ออกจากสนาม ในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2006 ที่ทีม ?ตราไก่? พ่ายการดวลจุดโทษ ?อัซซูรี? อิตาลี 3-5 ด้านเว็บไซต์ชื่อดังเชื่อว่า ?ซิซู? ต้องถูกยั่วยุด้วยคำพูดที่เหยียดสีผิวแน่นอน แต่ ?ซีดาน? ก็ยังซิวรางวัล ?ลูกบอลทองคำ? ไปครอง เป็นการสั่งลาชีวิตการค้าแข้งตามผลการโหวตของนักข่าวทั่วโลก ส่วน ?เรมงด์ โดเมอเน็ค? กุนซือฝรั่งเศส เสียดายที่กัปตันทีมฝรั่งเศสผู้ยิ่งใหญ่มีจุดจบที่ไม่สวยงามเช่นนี้ ขณะที่สื่ออิตาลีแห่สดุดีขุนพล ?อัซซูรี? กันยกใหญ่
<b>ซีดานทำสถิติยิงนัดชิงบอลโลก</b>
ซีเนอดีน ซีดาน เพลย์เมกเกอร์ ฝรั่งเศส สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักเตะคนที่ 4 ที่สามารถยิงประตูในศึกฟุตบอลโลก นัดชิงชนะเลิศได้ถึง 3 ลูก หลังซัดจุดโทษในนาทีที่ 7 ของเกมที่พบกับอิตาลี ก่อนที่เขาจะถูกใบแดงไล่ออกจากสนามในช่วงต่อเวลาพิเศษ และตราไก่ ต้องปราชัยในการดวลจุดโทษ ชวดแชมป์ไปอย่างน่าเสียดาย
ซีดานยิงคนเดียว 2 ลูกในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 1998 ก่อนจะมายิงได้อีกในรอบชิงปี 2006 โดยนักเตะอีก 3 คนที่ยิงได้ 3 ประตูในรอบชิงฟุตบอลโลก ได้แก่ เปเล่ ตำนานลูกหนังชาวบราซิล (1958 และ 1970), วาว่า กองหน้าบราซิล (ปี 1958 และ 1970) และเจฟ เฮิร์สต์ ดาวยิงอังกฤษ ซึ่งเป็นคนเดียวที่ซัดแฮต ทริกในรอบชิงชนะเลิศปี 1966
<b>โคลเซซิวรองเท้าทองคำ</b>
มิโรสลาฟ โคลเซ กองหน้าจอมโขกของเยอรมนี คว้ารางวัลรองเท้าทองคำไปครอง หลังได้ตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดประจำศึกฟุตบอลโลก 2006 โดยยิงไปได้ทั้งหมด 5 ประตู
โคลเซ ยิงได้ 2 ลูกในเกมชนะ คอสตาริกา 4-2 และชนะ เอกวาดอร์ 3-0 ก่อนจะซัดได้ 1 ลูกในเกมชนะจุดโทษอาร์เจนตินา ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ทำให้เขาเป็นดาวซัลโวประจำศึกฟุตบอลโลก โดยยิงมากกว่านักเตะอีก 8 คนซึ่งซัดไปทั้งสิ้น 3 ประตู อยู่ 2 ลูก อย่างไรก็ตาม โคลเซ เป็นดาวซัลโวที่ยิงประตูได้น้อยที่สุดนับตั้งแต่ปี 1962 เป็นต้น
<b>ซีดานซิวลูกบอลทองคำสั่งลา</b>
ซีเนอดีน ซีดาน กัปตันทีมชาติฝรั่ง เศส คว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำศึกฟุตบอลโลก 2006 หรือรางวัลลูกบอลทองคำมาครอง ตามผลการโหวตของบรรดานักข่าวจากชาติ ต่าง ๆ แม้ว่า ?ซิซู? จะโดนใบแดงไล่ออกจากสนามในนัดชิงชนะเลิศ จากการเอาหัวไปโขก มาร์โก มาเตราซซี กองหลังอิตาลี ก็ตาม
ซิซู ได้รับเสียงโหวตทั้งสิ้น 2,012 เสียง อันดับ 2 ได้แก่ ฟาบิโอ คันนาวาโร กัปตันทีมอิตาลีซึ่งเป็นทีมแชมป์โลก ได้เสียงโหวต 1,977 เสียง ขณะที่ อันเดรีย ปิร์โล กองกลางอิตาลี ได้ไป 715 คะแนน
สำหรับนักเตะที่ได้รางวัลลูกบอลทองคำในอดีต ประกอบด้วย โอลิเวอร์ คาห์น นายทวารเยอรมนี ปี 2002, โรนัลโด กองหน้าบราซิลปี 1998 และโรมาริโอ กองหน้าบราซิล ปี 1994, ซัลวาตอเร สกิลลาชี กองหน้าอิตาลี ปี 1990 และดีเอโก มาราโดนา จอมทัพอาร์เจนตินา ปี 1986
<b>ลิปปีรับปลื้มอิตาลีซิวแชมป์</b>
มาร์เชลโล ลิปปี กุนซือทีมชาติอิตาลี เปิดเผยว่าการพาอิตาลีคว้าแชมป์โลก ทำให้ตนเองรู้สึกตื้นตันมากกว่าการพายูเวนตุส คว้าแชมป์เสียอีก พร้อมยอมรับว่าฝรั่งเศสเล่นได้ดีกว่าในนัดชิงชนะเลิศ แต่อิตาลีก็แสดงหัวใจที่แข็งแกร่งจนสามารถคว้าแชมป์โลกได้สำเร็จ
?ผมเคยเป็นแชมป์โลกในระดับสโมสรกับยูเวนตุส แต่ความรู้สึกนี้มันเหนือกว่าความรู้สึกที่ผ่าน ๆ มา เป็นความจริงที่ฝรั่งเศสมีคุณภาพมากกว่าเราเล็กน้อย และพวกเขาเล่นได้ดีกว่าเราเมื่อเกมช้าลง แต่ชีวิตมันก็พลิกผันแบบนี้แหละ พวกเขาคว้าแชมป์ยูโร 2000 จากชัยชนะเหนือเราซึ่งพวกเขาไม่สมควรจะชนะ ชัยชนะครั้งนี้ถือเป็นการแก้ไขบทสรุปรายการใหญ่ของเราบ้าง?
พร้อมกันนั้น ลิปปี ซึ่งเคยร่วมงานกับซีดานสมัยอยู่ยูเวนตุส ยังรู้สึกเสียใจที่นักเตะยิ่งใหญ่อย่าง ซิซู ต้องมาจบชีวิตการค้าแข้งด้วยการถูกใบแดงในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก
?ผมเสียใจกับซิซูจริง ๆ ที่เขาต้องยุติชีวิตการค้าแข้งแบบนี้ เขารู้ดีว่าผมให้การชื่นชมเขาอย่างมากมาตลอด ถ้านี่คือบทสรุปซึ่งผมหวังว่ามันจะไม่ใช่ มันก็น่าเสียดาย แต่ผมสามารถให้ความมั่นใจกับคุณได้ว่าเป็นผู้ตัดสินที่ 4 ที่เรียกตัวกรรมการเข้าไปคุย ไม่ใช่มาเตราซซี หรือนักเตะคนอื่นของเรา?
<b>คันนาวาโรชี้แชมป์ที่รอคอย</b>
ฟาบิโอ คันนาวาโร กัปตันทีมชาติอิตาลี ภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่มีส่วนช่วยให้ทีมอัซซูรี คว้าตำแหน่งแชมป์โลกมาครองได้ ชี้เป็นแชมป์ที่ชาวอิตาเลียนเฝ้ารอคอยมานานแล้ว
?นี่คือความรู้สึกที่สุดยอด ลูกชาย ผมขอมานอนที่เตียงผมเมื่อคืนนี้ ผมบอกว่าเขานอนกับผมพร้อมกับโทรฟี่แชมป์ในไม่ช้านี้ อิตาลีต้องการแชมป์มานานแล้ว และจากเหตุ การณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา นี่คือแชมป์ที่เราต้องการอย่างยิ่ง?
<b>รถถังเชื่อถ้าไม่ฉาวอาจไม่ได้แชมป์</b>
?ไอ้รถถัง? เจนนาโร กัตตูโซ กองกลางฮาร์ดแมนของอิตาลี เชื่อว่าทีมอัซซูรี อาจจะไม่ได้แชมป์โลกก็เป็นได้ หากว่าวงการลูกหนังอิตาเลียนไม่เผชิญเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการล้มบอลและล็อกผู้ตัดสิน ?ถ้าไม่เกิดเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการล้มบอลและล็อกผู้ตัดสิน ผมคิดว่าเราคงไม่ได้ตำแหน่งแชมป์โลก เรื่องนี้ทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น ทีมเราแสดงให้เห็นถึงหัวใจที่แข็งแกร่ง บางทีเราอาจจะเล่นไม่สวย แต่เราเป็นทีมที่ยากจะเอาชนะ? .
<b>สื่อเลี่ยนรุมพาดหัวสดุดี</b>
หนังสือพิมพ์ในอิตาลี พาดหัวสดุดีผลงานของทีมอัซซูรีกันเป็นแถว หลังโค่นฝรั่งเศส ในการดวลจุดโทษ 5-3 ผงาดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2006 มาครองเป็นสมัยที่ 4 ได้สำเร็จ
?โลกทั้งมวลเป็นของเรา? พาดหัวของ ลา รีพับบิคา ระบุ ส่วนหน้าหนึ่งของ ลา สแตมปา เขียนว่า ?จุดสูงสุดของโลก?
ส่วน เมสซากเกโร พาดหัวว่า ?พวกคุณยอดเยี่ยมมาก ตอนนี้อิตาลีเป็นศูนย์กลางของโลก? ขณะที่ กัซเซตตา เดลโล สปอร์ต นสพ. กีฬายักษ์ใหญ่ พาดหัวว่า ?มันเป็นความจริง เราคือแชมป์โลก อิตาลีที่สุดมหัศจรรย์ โลกเป็นเรา?
<b>โดเมอเน็คซึมซีดานลาไม่สวย</b>
เรย์มงด์ โดเมอเน็ค กุนซือทีมชาติฝรั่งเศส ยอมรับว่ารู้สึกเสียดายมากที่ ซีเนอดีน ซีดาน สุดยอดนักเตะของฝรั่งเศส ต้องมาจบชีวิตการค้าแข้งอย่างไม่สวยหรูด้วยการโดนไล่ออกในเกมรอบชิงชนะเลิศศึกฟุตบอลโลก 2006 พร้อมตำหนิ มาร์โก มาเตราซซี กองหลังคู่กรณีว่าสำออยเกินเหตุจนมีส่วนให้ซิซูต้องถูกใบแดง
?ผมยังไม่ได้เห็นภาพรีเพลย์ แต่ถ้ามันเกิดจากความจงใจ ก็ไม่มีอะไรต้องพูดกันอีก แต่มันน่าเสียดาย มันน่าเสียใจ ผมไม่รู้ว่า มาร์โก มาเตราซซี พูดอะไรกับซีเนอดีน ซีดาน แต่เขาออกท่าทางมากเกินเหตุ และสำหรับคนตัวใหญ่ขนาดเขา ต้องลมพายุนั่นแหละ ถึงจะทำให้เขาโค่นลงได้ มันน่าเสียใจจริง ๆ เราเองก็เสียใจ เขาก็เสียใจ มันน่าเสียใจขนาดไหนที่นักเตะยิ่งใหญ่อย่างเขาต้องมายุติชีวิตการค้าแข้งด้วยการโดนใบแดงในศึกฟุตบอลโลกที่เขาโชว์ฟอร์มได้อย่างเยี่ยมยอด?
<b>กัลลาสฉุนอยากตบมาเตราซซี</b>
วิลเลียม กัลลาส กองหลังฝรั่งเศส สุดเดือดดาลจนถึงขั้นอยากจะตบหน้ามาร์โก มาเตราซซี กองหลังอิตาเลียนสักฉาด หลังพูดจายั่วยุจนซีดาน กัปตันทีมของตัวเอง ตบะแตก ตอบโต้ด้วยการเอาหัวโขกที่หน้าอก จนโดนใบแดงไล่ออกจากสนาม ?ผมไม่ได้เห็นเหตุการณ์ แต่บางครั้งเหตุการณ์ในฟุตบอลมันไม่มีแต่กับลูกบอลเท่านั้น บางครั้งนักเตะหัวหมอบางคนอาจจะพูดอะไรที่ทำให้คุณโกรธและต้องการจะฆ่ามันคนนั้น ตอนที่เขาโดนไล่ออก ผมอยากจะไปตบหน้ามาเตราซซีจริง ๆ?
<b>เทรเซเกต์จวกมาเตราซซี</b>
ดาวิด เทรเซเกต์ กองหน้าฝรั่งเศส ตำหนิมาร์โก มาเตราซซี เช่นกันฐานมีส่วนสำคัญทำให้ซีดานต้องโดนไล่ออกจากสนาม เชื่อในอนาคตมาเตราซซีต้องเสียใจแน่ ที่ทำให้ซิซูต้องจบชีวิตค้าแข้งแบบนี้
?เขาสามารถอำลาสนามไปอย่างภาค ภูมิใจ ส่วนมาเตราซซีไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ แม้ว่าเขาจะคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกก็ตาม เพราะในชีวิตมีเรื่องราวอื่น ๆ อีกเยอะนอกเหนือจากฟุตบอล?
<b>โบ้ยโชคร้ายซัดจุดโทษพลาด</b>
ขณะเดียวกัน เทรเซเกต์ ยังเชื่อว่าตนเองซัดจุดโทษได้ดีแล้ว เพียงแต่โชคไม่เข้าข้างทำให้ลูกยิงของตนเองสูงเกินไปจนพุ่งไปชนคานและกระดอนตกลงนอกเส้น
?ฟุตบอลก็เป็นแบบนี้แหละ ผมวางตำแหน่งดีแล้ว แต่ผมโชคร้าย ฟุตบอลโลกหนนี้ถือเป็นฟุตบอลโลกที่ยากสำหรับผม ผมหวังที่จะได้ลงเล่นมากกว่านี้ แต่มันก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้น มันเป็นการตัดสินใจของโดเมอเน็ค สไตล์การเล่นที่โดเมอเน็คเลือกใช้ไม่เหมาะกับผม แต่ผมสามารถอำลาฟุตบอลโลกหนนี้ได้อย่างภาคภูมิ ใจ? เทรเซเกต์ กล่าว
<b>อองรีไม่เศร้าแม้ได้รองแชมป์</b>
เธียร์รี อองรี กองหน้าสตาร์ดังของฝรั่งเศส ยืนยันไม่รู้สึกเสียใจแต่อย่างใดที่ทีม ?ตราไก่? พ่ายอิตาลี ในการดวลจุดโทษ 3-5 ชวดคว้าแชมป์โลกมาครอง ชี้การได้รองแชมป์ก็ถือว่าประสบความสำเร็จพอสมควรแล้ว เนื่อง จากก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์นี้แทบไม่มีใครคาดคิดว่า ?ตราไก่? จะทะลุเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ
?การที่แพ้เพราะยิงจุดโทษเป็นอะไรที่รับได้ยาก ไม่มีใครคาดคิดว่าเราจะมาไกลขนาดนี้ เราเริ่มต้นไม่ดี แต่การมาถึงรอบชิงชนะเลิศถือว่าไม่ได้เลวร้ายนัก ผมรู้สึกภูมิใจมาก เราชนะด้วยกัน แพ้ด้วยกัน นั่นคือสิ่งที่เราต้องระลึกไว้?
<b>ปั๊ตรับทำใจลำบากแพ้จุดโทษ</b>
ปาทริก วิเอรา กองกลางชื่อดังของฝรั่งเศส ยอมรับว่าทำใจได้ยากลำบากมากที่ทีม ?ตราไก่? ต้องพ่ายแพ้อิตาลี ในการดวลจุดโทษ ในรอบชิงชนะเลิศศึกเวิลด์คัพ 2006 ทั้งที่เล่นได้ดีกว่าตลอดทั้ง 120 นาที ?เราผิดหวังมากเพราะเราทำงานหนักเพื่อเข้ารอบชิงชนะเลิศ แต่เรากลับมาแพ้ในการดวลจุดโทษ นั่นทำให้เราทำใจได้ยากลำบากมากยิ่งขึ้น แต่เมื่อมันเป็นไปแล้ว เราต้องทำใจยอมรับมัน?
<b>สื่อน้ำหอมจวกซีดานเสียค่าโง่</b>
หนังสือพิมพ์แดนน้ำหอมหลายฉบับ ออกโรงจวกซีเนอดีน ซีดาน ยอดเพลย์เมกเกอร์ของทีมยกใหญ่หลังทำผิดพลาดโง่ ๆ ด้วยการ เอาหัวไปโขก มาร์โก มาเตราซซี จนโดนใบแดงไล่ออกจากสนามในนัดชิงชนะเลิศศึกฟุตบอลโลก 2006
?สิ่งที่ยากที่สุดไม่ใช่การค้นหาว่าทำไม ฝรั่งเศสถึงแพ้ในศึกฟุตบอลโลก แต่เป็นการอธิบายต่อเด็ก ๆ นับ 10 ล้านคนทั่วโลก ว่าคุณเอาหัวไปโขกมาเตราซซีได้อย่างไร นี่เป็นการกระทำที่โง่เขลามากและไม่สามารถแก้ไขอะไรได้อีก นี่คือภาพสุดท้ายของคุณในฐานะนักเตะ คุณปล่อยให้มันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้อย่างไร? เลอ กิ๊ป นสพ. เบอร์ 1 แดนน้ำหอม ระบุ
ขณะที่หนังสือพิมพ์ ?เดอะ ฟิกาโร? เขียนว่า ?นัดสุดท้ายกับหัวโขกที่น่าเกลียด เราพูดไม่ออกเลยกับการกระทำที่โง่เช่นนี้? ส่วน เลอ ปารีเซียง เขียนว่า ?จากเทวดาสีน้ำเงินกลายเป็นปิศาจ?
อย่างไรก็ตาม บางฉบับก็กล่าวขอบคุณซีดานเช่นกันสำหรับผลงานของซิซูในช่วงเวลานับ 10 ปีที่ผ่านมา เลอ ปารีเซียง พาดหัวว่า ?ขอบคุณ? ขณะที่บทบรรณาธิการของ เลอ ฮูมานิเต เขียนว่า ?ซิซู ขอบคุณ ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง?
<b>รมว.กีฬาน้ำหอมป้องซีดาน</b>
ฌอง ฟรังซัวส์ ลามูร์ รัฐมนตรีกระทรวงกีฬาของฝรั่งเศส ออกโรงปกป้อง ซีเนอดีน ซีดาน จอมทัพของทีมชาติฝรั่งเศส ที่ฟิวส์ขาดไปโขกใส่ มาร์โก มาเตราซซี กองหลังอิตาลี จนโดนไล่ออกจากสนาม โดยเชื่อว่าซีดาน น่าจะถูกพูดยั่วยุก่อน แม้ว่าตนเองจะไม่รู้ว่ามาเตราซซีพูดอะไรก็ตาม
?เราสามารถจินตนาการได้ว่ามีการยั่วยุเกิดขึ้น นี่คือการไล่ออกที่ประหลาดมากสำหรับนักเตะที่เป็นแชมป์ผู้ยิ่งใหญ่? ลามูร์ กล่าว
<b>เผยซีดานโดนเหยียดผิว</b>
จากกรณีที่ ซีเนอดีน ซีดาน เพลย์เมก เกอร์คนดังของฝรั่งเศสเอาหัวไปโขก มาร์โก มาเตราซซี กองหลังของอิตาลี จนโดนไล่ออกจากสนามในเกมนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2006 ทำให้ยุติชีวิตการค้าแข้งไม่สวยหรูนั้น จนกระทั่งถึงบัดนี้ ซีดาน ยังไม่ได้ออกมาเปิดเผยว่าถูกมาเตราซซีพูดจายั่วยุอย่างไร แต่ ?wikipedia. org? เว็บสารานุกรมชื่อดัง รายงานว่าสาเหตุที่ซีดานตบะแตกนั้นน่าจะมาจากการถูกมาเตราซซีพูดจาดูหมิ่นเรื่องเชื้อชาติ เนื่องจากซีดานนั้นเป็นคนเชื้อสายแอลจีเรีย ประเทศทางแอฟริกาตอนเหนือ ซึ่งพ่อแม่ของเขาเป็นคนแอลจีเรียก่อนที่จะย้ายรกรากมาอยู่ฝรั่งเศส.
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์