<b>การแข่งขันศึกฟุตบอลโลก 2006 เกิดเหตุการณ์อื้อฉาวขึ้นอย่างมากมาย และหนึ่งในนั้นก็เกิดขึ้นจากการตัดสินของ วาเลนติน อิวานอฟ เชิ้ตดำชาวรัสเซีย ที่สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับมหกรรมลูกหนังโลก
ผู้ตัดสินจากแดนหมีขาว ได้รับมอบหมายให้ลงทำหน้าที่ในเกม เวิลด์ คัพ 2006 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ระหว่าง โปรตุเกส กับ ฮอลแลนด์ ซึ่งถือเป็นบิ๊กแมตช์ประจำรอบที่แฟนบอลทั่วโลกต่างเฝ้าจับตามอง หลังจากที่ทั้ง 2 ทีมทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในรอบแรก</b>
แต่แล้วเกมที่ทุกคนคาดหวังว่าจะออกมาอย่างสนุกตื่นเต้นจากรูปแบบการเล่นที่เน้นเกมรุกของทั้ง 2 ทีม กลับกลายเป็นแมตช์ที่เต็มไปด้วยความรุนแรง และการเล่นอันไร้สปิริตซึ่งทำลายมนต์สเน่ห์ของเกมลูกหนังลงอย่างสิ้นเชิง
แน่นอนว่าหนึ่งในผู้ที่ต้องรับผิดไปเต็มๆ จากแมตช์อัปยศนี้คือ อิวานอฟ ที่ไม่สามารถควบคุมเกมได้อยู่ แถมยังกลายเป็นตัวจุดชนวนให้การแข่งขันร้อนระอุขึ้นจากการแจกใบเหลืองใบแดงแบบไม่มียั้ง
คอสตินญ่า มิดฟิลด์โปรตุเกส กลายเป็นผู้เล่นรายแรกที่ต้องออกจากสนามในนาทีที่ 45 ตามด้าย คาลิด บูลาห์รูซ กองหลังดัตช์ ในนาทีที่ 63 ก่อนที่ เดโก้ และ โจวานนี่ ฟาน บรองค์ฮอร์สท์ 2 ดาวเตะ บาร์เซโลน่า จะโดนอัปเปหิในนาทีที่ 78 และ 90 นอกจากนี้ยังมีที่โดนใบเหลืองอีกหลายราย
จบการแข่งขัน โปรตุเกส ชนะ ฮอลแลนด์ 1-0 โดยทั้ง 2 ฝ่ายเหลือผู้เล่นในสนามเพียงฝั่งละ 9 คนเท่านั้น ซึ่ง 4 ใบแดงกับ 16 ใบเหลืองที่ อิวานอฟ บรรจงมอบให้กับผู้เล่นในเกมนี้ถือเป็นสถิติใหม่ของ ฟุตบอลโลก เลยทีเดียว
<b>ก่อนหน้านี้ในศึกฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย เคยมีใบแดงสูงสุดเพียง 3 ใบ คือเกมคู่ระหว่าง แอฟริกาใต้ กับ เดนมาร์ก เมื่อปี 1998, ฮังการี กับ บราซิล เมื่อปี 1954, เช็กโกสโลวาเกีย กับ บราซิล เมื่อปี 1938 และล่าสุดในฟุตบอลโลก 2006 ที่ สหรัฐอเมริกา เสมอ อิตาลี 1-1 ในรอบแบ่งกลุ่ม</b>
ภายหลังการแข่งขันได้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นอย่างมากมายเกี่ยวกับการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินชาวรัสเซีย ซึ่งไม่เพียงแค่แจกใบเหลืองใบแดงอย่างมากมายเกินกว่าเหตุเท่านั้น เขายังทำผิดพลาดจากการที่ปล่อยให้ หลุยส์ ฟิโก้ กัปตันทีมโปรตุเกส อยู่ในสนามต่อไป ทั้งที่เจตนาใช้ศีรษะโขกใส่ มาร์ค ฟาน บอมเมล มิดฟิลด์ฮอลแลนด์
เซปป์ แบล็ตเตอร์ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ถึงกับออกมากล่าวว่าในอนาคตอาจมีการแจกใบเหลืองให้กับผู้ตัดสินบ้าง หากยังทำหน้าที่บกพร่องเหมือนในเกมนี้ ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่า อิวานอฟ หมดสิทธิ์ลงตัดสินในเกมต่อไป และถูกส่งกลับบ้านเกิดทันที
ขณะที่ มานิเช่ มิดฟิลด์โปรตุเกส ได้ออกมาให้ความเห็นว่า ความจริงแล้วเกมน่าจะไหลลื่นมากกว่านี้ แต่เป็นเพราะกรรมการเป่าหยุดเกมตลอด ซึ่งเขาไม่คิดว่าแมตช์นี้มีความรุนแรงแต่อย่างใด และยอมรับว่าเหลือเชื่อที่เห็นการแจกใบแดงกับผู้เล่นถึง 4 ใบ
ด้าน ?เด เทเลกราฟ? หนังสือพิมพ์ดัตช์ ชื่อดัง ได้ปลอบใจการตกรอบของ ฮอลแลนด์ พร้อมประนามการตัดสินว่า ?เราดีกว่า แต่พวกเขาฉลาดกว่า มันเป็นเรื่องเสื่อมทรามในเกมแห่งความเป็นความตาย ด้วยการที่มีนักเตะ 1 คนต้องออกจากเกมไปอย่างโหดร้ายทารุณ นั่นก็คือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ พร้อมกับใบเหลืองใบแดงปลิวว่อน ผู้ตัดสิน วาเลนติน อิวานอฟ เฮี้ยบจนเกินเหตุ และทำลายการแข่งขันด้วยแนวทางการตัดสินแบบนั้น?
อย่างไรก็ตาม วาเลนติน อิวานอฟ ซีเนียร์ คุณพ่อของเปาฉาว ซึ่งเคยผ่านการเล่นให้กับทีมชาติสหภาพโซเวียต ในศึกฟุตบอลโลก 1958 และ 1962 มาแล้ว ก็ได้ออกมาปกป้องลูกชายหลังโดนโจมตีอย่างหนัก โดยชี้ว่า อิวานอฟ ได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว
?มันเป็นเกมที่ยากลำบากมากๆ สำหรับผู้ตัดสิน ผมคิดว่าลูกชายของผมทำหน้าที่ได้ดีแล้ว เมื่อพิจารณาจากสภาพแวดล้อม มันเป็นเกมที่ตึงเครียด ทั้ง 2 ทีมต่างเป็นตัวเต็งที่จะลุ้นแชมป์ ดังนั้น จึงไม่มีทีมไหนที่ต้องการพ่ายแพ้ และกลับบ้านก่อนเวลาอันควร?
<b>?ผู้ตัดสินพยายามควบคุมเกมตั้งแต่เริ่มต้นด้วยการแจกใบเหลืองให้นักเตะ ถ้าเขาไม่ทำอย่างนั้นแมตช์นี้อาจจบลงด้วยความวุ่นวายก็ได้ ผมได้ยินว่า เซปป์ แบล็ตเตอร์ วิจารณ์ลูกชายผม แต่มันเป็นเพราะฟีฟ่าเองที่ต้องการให้กรรมการเข้มงวดในการลงโทษนักเตะ เขาแค่พยายามทำตามคำสั่งของฟีฟ่าเท่านั้น? อดีตสตาร์หมีขาว กล่าว</b>
เช่นเดียวกับ วิตาลี่ มุตโก้ ประธานสหภาพฟุตบอลรัสเซีย ระบุว่า คำวิจารณ์จาก แบล็ตเตอร์ ซึ่งเปรยว่าผู้ตัดสินน่าจะโดนแจกใบเหลืองตักเตือนด้วยเหมือนกันนั้นไม่เป็นธรรมกับ อิวานอฟ แต่อย่างใด ?หาก อิวานอฟ ควรจะได้รับใบเหลืองสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ของเขา ถ้าอย่างนั้นผู้ตัดสินอีกหลายรายซึ่งลงทำหน้าที่ใน ฟุตบอลโลก หนนี้ก็สมควรจะโดนใบแดงเลยด้วยซ้ำ?
ขณะที่ อิวานอฟ ได้ออกมาเผยว่า ตั้งแต่ทำหน้าที่ผู้ตัดสินมาตอนนี้คือช่วงเวลาที่เขาทุกข์ทรมานที่สุดในชีวิตแล้ว และเชิ้ตดำวัย 45 ปีก็เตรียมที่จะแขวนนกหวีดในปีนี้ เนื่องจากฟีฟ่าได้กำหนดอายุผู้ตัดสินสูงสุดเอาไว้ที่ 45 ปีเท่านั้น โดยกล่าวผ่าน ?อิซเวสเตีย? หนังสือพิมพ์รายวันรัสเซีย ว่า ?มันเป็นเกมที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่ผมเคยลงทำหน้าที่มาเลยทีเดียว?
พร้อมกันนั้น อิวานอฟ ก็ยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองด้วยว่า<b> ?ผมไม่รู้เหมือนกัน ผมยังไม่ได้ดูวีดิโอเทปเลย แต่ผมตัดสินไปตามเหตุการณ์ที่เห็น คุณคาดว่าจะพบลูกเล่นสกปรกจากนักเตะโปรตุกีส พวกเขาขึ้นชื่อเรื่องชอบถ่วงเวลา หรือการเสียบสกัดจากด้านหลัง แต่ผมรู้สึกประหลาดใจมากที่เห็นเรื่องเหล่านั้นจากนักเตะดัตช์ มากกว่า พวกเขาเป็นฝ่ายยั่วยุ?</b>
แม้ อิวานอฟ จะไม่ได้ลงตัดสินในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก และอาจไม่มีโอกาสทำหน้าที่ในเกมสำคัญอีกแล้ว แต่แน่นอนว่าชื่อของเขาจะถูกบันทึกลงในประวัติศาสตร์ลูกหนัง และอยู่ในความทรงจำของแฟนบอลทุกคนตลอดไป
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์