จับแก๊งต่างชาติค้ายาไอซ์ 5 ล้านบาท ( ข่าวทั่วไป )

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 4 พ.ค.52 พล.ต.อ.จุมพล    มั่นหมาย  รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.อดิเทพ  ปัญจมานนท์  รอง ผบช.ปส. พร้อมด้วย พล.ต.ต. สรศักดิ์ เย็นเปรม  ผบก.ปส.1 บช.ปส. ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม นาย Kingsley และ นาย Agostinho Ca สัญชาติ ไนจีเรีย พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษ ประเภทยาไอซ์ จำนวน 1.5 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 4.5 ล้านบาท โดยจับกุมได้ที่อาคารศรีวรา แมนชั่น ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม.

พล.ต.ต.อดิเทพ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ บช.ปส.ได้ทำการสืบสวนเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด ชาวอัฟริกันตะวันตก ของนาย Kingsley ที่มีพฤติกรรมขนยาเสพติด มาอย่างต่อเนื่อง โดยเครือข่ายของนาย Kingsley มีพฤติการณ์จัดหาคนขนยาเสพติด ประเภทเฮโรอีนและโคเคนไปต่างประทศ โดยการว่าจ่างหญิงไทยเป็นผู้ขน กลุ่มผู้ต้องหาจะนำยาซุกซ่อนไว้ภายในช่องที่ทำขึ้นในกระเป๋าเดินทางไปประเทศมาเลเซีย แล้วส่งต่อไปประเทศออสเตรเลีย ไต้หวัน และญี่ปุ่น ซึ่งทำมานานกว่า 5 ปี ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2548 ทางเจ้าหน้าที่ บช.ปส.จึงได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดของประเทศมาเลเซีย  จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาขนยาเสพติดและผู้ที่ทำหน้าที่ติดต่อได้ จำนวนกว่า 10 คน ซึ่งมีทั้งคนไทย ฟิลิปปินส์ ไนจีเรีย เปรู กานา และแทนซาเนีย 

พล.ต.ต.อดิเทพ กล่าวต่อว่า จากการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆในคดีดังกล่าว ทำให้ทราบว่า ยังมีชาวอัฟริกันตะวันตกอีกหลายคนที่อยู่ในเครือข่ายการค้ายาเสพติดร่วมกับนาย Kingsley และเป็นพ่อค้ายารายสำคัญ ส่วนนาย Kingsley มักจะรอดพ้นการจับกุมมาตลอดโดยหนีไปกบดานที่ประเทศไนจีเรีย แต่ก็ยังไม่เลิกส่งยาเสพติดเข้ามาในไทย จนกระทั่งเมื่อวันที่ 8 ม.ค. 52 เจ้าหหน้าที่ตำรวจ บช.ปส. ได้ทำการจับกุม นาง เก็จมณี ทองทับ พร้อมของกลางยาไอซ์ จำนวน 23 กรัม ซึ่งนางเก็จมณีให้การรับสารภาพว่า ได้ซื้อมาจากนาย Kingsley เพื่อนำมาขายให้กับลูกค้ารายย่อย และยังให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของนาย Kingsley จนในที่สุดเจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัวนาย Kingley และ นาย Agostinho Ca ชาวไนจีเรีย ได้เมื่อวันที่ 2 พ.ค.52 พร้อมของกลาง ซึ่งนาย Kingsley ได้รับสารภาพว่าเป็นเจ้าของ และร่วมกับนาย Agostinho Ca จัดการซุกซ่อนไว้ในผนังกระเป๋าเดินทางเพื่อส่งต่อให้กับลูกค้าที่ประเทศไต้หวัน

“นาย Kingsley ได้เข้ามาอยู่ในประเทศไทยเป็นเวลานานกว่า 10 ปี ตอนแรกเป็นเพียงแค่คนแพ็คยาเสพติด แต่ต่อมาได้ตั้งองค์กรเครือข่ายยาเสพติดชาวอัฟริกันตะวันตก จนได้เป็นหัวหน้าเครือข่าย นาย Kingley สามารถแพ็คของได้อย่างดี มีกรรมวิธีที่แยบยล อีกทั้งจะไม่ค่อยทำการส่งสินค้าด้วยตนเองจึงทำให้รอดพ้นการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ได้ตลอดมา จากพฤติการณ์การขนยาเสพติดของนาย Kingsley ในช่วง 4-5 ปี ที่ผ่านมามักจะลักลอบลำเลียงยาเสพติดมาจำหน่ายในประเทศไทยและอีกหลายๆ ประเทศ ซึ่งมีเครือข่ายที่สำคัญอยู่ในประเทศกัมพูชาและลาว โดยจะเดินทางไปติดต่อกับเครือข่ายดังกล่าวด้วยตนเอง ไม่ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป”พล.ต.ต.อดิเทพ กล่าว

 

ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์