?พ่อคูณ? ดีขึ้นบ่นขอกลับวัดแต่หมอไม่ให้ ( ข่าวทั่วไป )

“หลวงพ่อคูณ” วอนคนไทยขอให้ดีกันไว้ อย่าทะเลาะแตกแยกแบ่งฝ่าย ตื่นนอนหน้าตาสดชื่น ฉันอาหารได้เยอะเป็นพิเศษ ออกเดินทักท้ายญาติโยมแต่เช้า บ่นอยากกลับวัดแต่แห้ว แพทย์สั่งห้ามกลับวัดระบุต้องให้ยาฆ่าเชื้ออย่างต่อเนื่อง  หมอเจาะเลือดตรวจพบปริมาณน้ำตาลในเลือดลดลงกว่าเดิม  

จากกรณีพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เกิดอาการอาพาธมีไข้ อ่อนเพลีย สับสน และซึม ลูกศิษย์ใกล้ชิดจึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โดยแพทย์ได้ให้ยาปฏิชีวนะและเจาะเลือดไปตรวจหาสาเหตุการติดเชื้อ และนอนพักรักษาตัวที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ 9821 อาคารเฉลิมพระเกียรติ ตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยหลวงพ่อคูณ เริ่มมีอาการดีขึ้นตามลำดับ แต่ยังคงต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 28 เม.ย. หลวงพ่อคูณได้ตื่นจากจำวัดด้วยสีหน้าสดชื่นกว่าทุกวันที่ผ่านมา แต่แพทย์ยังคงให้น้ำเกลืออยู่ตลอดเวลา โดยแพทย์ได้เจาะเลือดไปตรวจระดับน้ำตาลในเลือด ปรากฏว่าระดับน้ำตาลลดลงมาอยู่ที่ระดับ 124 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จากที่เคยมีระดับสูงสุดถึง 280 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
 
จากนั้นลูกศิษย์ได้พาหลวงพ่อคูณลุก   ออกจากเตียงคนไข้ พาเดินออกกำลังกายยืดเส้น ยืดสายบริเวณทางเดินหน้าห้องพักออกนอกห้องพักไปตามบริเวณทางเดินไปกลับระยะประมาณ 100 เมตร โดยหลวงพ่อคูณมีสีหน้าสดชื่น พูดคุยทักทายแพทย์ พยาบาลที่ทำงานอยู่ด้านนอกอย่างเป็นกันเอง พร้อมบอกว่า “ไม่เหนื่อยดอก พอเดินได้” ขณะเดียวกันก็มีผู้ป่วยและญาติที่มาเฝ้าไข้ทราบข่าว พากันออกมากราบนมัสการเพื่อเป็นสิริมงคลด้วย
 
ต่อมาลูกศิษย์ได้นำภัตตาหารเช้ามาถวาย หลวงพ่อคูณสามารถฉันข้าวได้มากเป็นพิเศษ โดยใช้เวลาฉันอยู่นานร่วม 1 ชั่วโมง สำหรับเมนูในวันนี้ประกอบด้วย ข้าวสวยจานใหญ่ ปลาจะละเม็ดทอด น้ำพริก ผักต้ม แตงกวา ผัดผัก แกงจืด และผลไม้ต่าง ๆ ได้แก่ มะละกอสุก มะม่วงสุก นอกจากนี้ยังฉันนมเปรี้ยวยาคูลท์ และยาเม็ดรักษาโรคประจำตัว จากนั้นหลวงพ่อคูณได้ล้างมือด้วยสบู่และน้ำสะอาด ใช้เวลาล้างอยู่นานร่วม 5 นาที ก่อนพูดคุยกับคณะลูกศิษย์ ว่า “ต้องล้างมือให้สะอาด พระเจ้าอยู่หัวชอบคนสะอาด” และบ่นเปรยตลอดว่า “กูอยากกลับวัดวันพรุ่งนี้แล้ว”
 
หลังจากนั้น นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ ผอ.ศูนย์โรคหัวใจและหลอดเลือด ได้เข้าตรวจอาการ ก่อนเปิดเผยว่า อาการโดยรวมดีขึ้นมาก ไม่มีไข้ ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงจนเกือบปกติ หากหลวงพ่อฉันอาหารได้มากแบบนี้แพทย์จะถอดสายน้ำเกลือออก เพราะอาการตอนนี้ไม่น่าเป็นห่วงอะไรมาก ขณะที่ลูกศิษย์ถามว่าหลวงพ่อคูณอยากกลับวัดวันที่ 29 เม.ย. นพ.พินิศจัย รีบตอบปฏิเสธทันทีว่า ไม่อนุญาต เพราะยังต้องรอผลตรวจอาการติดเชื้อในกระแสเลือด และยังต้องให้ยาฆ่าเชื้อต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อย 3-5 วัน แม้อาการโดยรวมจะดีขึ้นมาก แต่ยังต้องให้หลวงพ่อพักฟื้นและพักผ่อนต่ออีกสักระยะหนึ่งไปก่อน
 
ด้าน หลวงพ่อคูณ เปิดเผยด้วยสีหน้าสดชื่นว่า กูไม่เป็นไรแล้ว ฉันข้าวได้มากแล้ว อาการอาพาธก็ดีขึ้นแล้ว ยังไม่ตายดอกลูกหลานเอ้ย
 
ผู้สื่อข่าวถามว่าอยากให้หลวงพ่อเตือนสติคนไทยที่กำลังแตกแยกความสามัคคีกัน หลวงพ่อคูณบอกว่า “คนไทยเรามีความรักความสามัคคีกันมาตั้งแต่โบราณกาลดึกดำบรรพ์ รักสามัคคีกันดี ไม่แตกไม่แยกแบ่งฝ่ายกัน คนไทยอยู่กันอย่างมีสันติสุข อยู่กันแบบพี่แบบน้อง รักกัน และอยู่กันได้มาจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน อยู่กันดีไม่มีแตกแยก มาวันนี้ก็ขอให้ดีกัน อย่าทะเลาะกัน อย่าแตกแยกกันอีกเลย ถ้าแตกแยกก็ลำบาก สุดแสนจะระทมขมขื่น ให้ดีกันไว้เด้อลูกหลานเอ้ย”
 
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังแพทย์ตรวจเรียบร้อยแล้วได้มีกลุ่มนักท่องเที่ยวจากประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ประมาณ 15 คน ขออนุญาตเข้ากราบนมัสการ แม้ทางแพทย์จะประกาศงดเยี่ยม แต่หลวงพ่อคูณก็อนุญาตให้เข้าเยี่ยม เพราะเห็นว่าเดินทางมาไกล โดยนัก ท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวยังขอเช่าบูชาพระยอดธง วัตถุมงคลชื่อดังอีกหลายองค์ด้วย ต่อมาเวลา 16.00 น. วันเดียวกัน นายประจักษ์ สุวรรณภักดี ผวจ.นครราชสีมา และคณะ ยังเข้ากราบนมัสการเยี่ยมหลวงพ่อคูณอีกด้วย.

 

ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์