รัฐบาลภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเติมเงินในกระเป๋าด้วยมาตรการระยะสั้น แจกเช็คช่วยชาติ มูลค่า 2,000 บาท สำหรับคนที่มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาท โดยได้เริ่มแจกมาตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา อีกทั้งผู้ประกอบการที่เป็นห้างสรรพสินค้า ไฮเปอร์มาร์เก็ต ดีสเคาน์สโตร์ รวมทั้งซัพพลายเออร์หรือผู้ผลิตสินค้าได้จัดแคมเปญเพิ่มมูลค่าให้เช็คตั้งแต่ 2 เท่าตัวไปถึง 3 เท่า เพื่อจูงใจให้ผู้บริโภคนำเงินมาแลกซื้อสินค้าและบริการนั้น
มาตรการดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากน้อยแค่ไหน มีคำตอบจากทั้งผู้จำหน่ายสินค้า และซัพพลายเออร์ ดังต่อไปนี้
นายดามพ์ สุคนธทรัพย์
รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเท็ม จำกัด
ผู้บริหารห้างเทสโก้ โลตัส ในประเทศไทย
“ที่ผ่านมาโลตัสสนับสนุนนโยบายของรัฐโดยมีแคมเปญให้แลกเช็คช่วยชาติเป็นสินค้าอุปโภคบริโภคคิดเป็นเงินมูลค่ารวม 6,000 บาท หรือ 3 เท่าตัวของมูลค่าหน้าเช็คเพื่อกระตุ้นให้คนที่ได้รับแจกเช็คช่วยชาติ ได้นำเงินออกมาซื้อสินค้าแทนการเก็บเงินเอาไว้ เพราะเห็นว่าภาวะเศรษฐกิจแบบนี้จำเป็นต้องกระตุ้นด้วยการใช้จ่ายภายในประเทศเนื่องจากในช่วงเดือนที่แล้วรัฐบาลจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ได้ลดลงถึง 30% ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีการบริโภคในประเทศลดลง
อย่างไรก็ตาม ช่วงที่รัฐบาลแจกเช็คช่วยชาติ เป็นช่วงต้นเดือน และก่อนเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งปกติช่วงนี้ผู้บริโภคจะมีการใช้จ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคสูงกว่าปกติอยู่แล้วเมื่อเทียบกับช่วงอื่นของเดือน เพราะฉะนั้นยังไม่มีความชัดเจนว่าการใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเป็นการใช้จ่ายจากเช็คช่วยชาติหรือไม่ จึงต้องรอดูหลังสงกรานต์อีกครั้งว่ามีการใช้จ่ายอย่างต่อเนื่องหรือไม่ ซึ่งหากมีการใช้จ่ายอย่างต่อเนื่องเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง
จากการทำวิจัยพฤติกรรมผู้บริโภคของทางโลตัสเองพบว่าคนที่ได้รับแจกเช็คช่วยชาติ อยากถือเงินสด และไม่อยากใช้จ่ายเต็มจำนวน ต้องการเก็บเงินไว้ส่วนหนึ่งเพื่อใช้จ่ายด้านอุปกรณ์การเรียนให้กับบุตรหลานในช่วงเปิดเทอมกลางเดือนพฤษภาคม แต่ก็ถือว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่มีทัศนคติที่ดีขึ้นกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวม”
นายสุวิทย์ กิ่งแก้ว
รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ซีพี ออลล์
ผู้บริหารร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น
“คิดว่าช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้บ้าง แต่ไม่มากนัก เนื่องจากกลุ่มคนที่ได้รับแจกเช็คช่วยชาตินำเงินออกมาใช้แค่บางส่วนไม่ได้ใช้เต็มจำนวน เพราะยังไม่มั่นใจกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจโดยรวมในวันข้างหน้าว่าจะเป็นไปในทิศทางไหน
สำหรับสาเหตุที่มองว่าเช็คช่วยชาติไม่ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจมากนัก เนื่องจากภาวะการเมืองที่ไม่มีเสถียรภาพมีผลกับความเชื่อมั่นในการตัดสินใจซื้อสินค้าของผู้บริโภค แต่อย่างไรก็ตาม ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว ยอดขายยังคงเติบโตได้ดีขึ้นกว่าเดิมเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้านี้ เพราะราคาน้ำมันมีผลทำให้คนตัดสินใจซื้อสินค้าใกล้บ้านกันมากขึ้น และร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคนี้ได้เป็นอย่างดี
ส่วนแคมเปญเช็คช่วยชาติที่จัดที่ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น ถือว่าคึกคักและได้รับความสนใจจากผู้บริโภคพอสมควร เพราะมีโปรโมชั่นซื้อสินค้าครบ 40 บาท และสามารถซื้อสินค้ารายการอื่นได้อีกหนึ่งชิ้นในราคาพิเศษ อีกทั้งสินค้าที่นำมาจัดโปรโมชั่นเป็นสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน”
นายบุญฤทธิ์ มหามนตรี
กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด
“การประเมินผลในการกระตุ้นเศรษฐกิจของเช็คช่วยชาติในเชิงจุลภาคในเวลานี้ยังประเมินไม่ออกว่าช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากน้อยแค่ไหน คงต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง แต่หากจะประเมินในเชิงมหภาคพบว่า ช่วยได้ในแง่เติมเงินในกระเป๋าได้ช่วงระยะเวลาหนึ่ง สามารถช่วยยืดผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจไปได้ระยะหนึ่งเพื่อให้คนได้ตั้งหลัก และมาตรการนี้ถูกนำมาใช้ในหลายประเทศ เช่น ออสเตรเลียก็มีการแจกเงินให้กับประชาชนคิดเป็นมูลค่าถึง 20,000 บาทต่อคนเช่นเดียวกัน แต่เมื่อยืดเวลาไปแล้ว รัฐบาลต้องมีมาตรการอื่นๆ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมมารองรับด้วย
สำหรับประเทศไทยขณะนี้ การเมืองที่ไม่มีเสถียรภาพ เป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้สิ่งที่กำลังจะเดินหน้าไปได้หยุดถอยอยู่กับที่ เหมือนเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจก็เช่นเดียวกัน เช็คช่วยชาติคือ สิ่งที่จะผลักดันให้เราเดินหน้าไปได้ แต่กลับมีเรื่องภาวะการเมืองที่ไม่มีเสถียรภาพ เป็นตัวฉุดให้กลับมาอยู่ที่เดิม ถือว่าเราโชคร้ายที่มีการเมืองเป็นตัวถ่วงสำคัญ ทำให้เราต้องเผชิญกับศึกสองด้านคือ ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ถดถอยและยังถูกซ้ำเติมด้วยปัญหาทางการเมืองอีก
ในส่วนของยอดขายร้านสินค้าอุปโภคบริโภคของกลุ่มบริษัทไลอ้อนนั้น เชื่อว่า เช็คช่วยชาติสามารถช่วยกระตุ้นยอดขายได้ส่วนหนึ่ง ถึงแม้จะยังไม่ชัดเจนนักเพราะคนที่ได้รับแจกเช็คช่วยชาติส่วนใหญ่ทยอยใช้จ่ายซื้อสินค้าไม่ได้ใช้เต็มจำนวนเพียงครั้งเดียว”
นายอาชว์ เตาลานนท์
รองประธานกรรมการ บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี)
“เช็คช่วยชาติ 2,000 บาท มีผลช่วยกระตุ้นได้ระดับหนึ่ง จากการที่มีเงินหมุนเวียนในเศรษฐกิจ แม้จะยังไม่สามารถบอกได้ว่าเงินจะหมุนได้กี่รอบเพราะบางส่วนนำเงินออกมาใช้ แต่มีบางส่วนที่เก็บเงินไว้ก่อน ซึ่งต้องรออีกระยะหนึ่งประมาณ 1-2 เดือน จึงจะรู้ว่าเช็คช่วยชาติจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากน้อยแค่ไหน อย่างไรก็ตาม หากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยเช็คช่วยชาติได้ผลจริง และรวมกับมาตรการอื่นๆ ที่รัฐบาลได้นำออกใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ คิดว่าปีนี้เศรษฐกิจจะขยายตัวติดลบ 2-3% ตามที่นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ประเมินไว้ อย่างไรก็ตาม ในส่วนร้านค้าปลีกของซีพีอาจได้ประโยชน์บ้าง แต่ก็ไม่ได้ถือว่าทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ”
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์