การเมือง-เศรษฐกิจฟาดหาง โทร.ต่างประเทศทรุดอีก 15% ทรูเร่งปรับตัวหันเน้นต้นทุนโครงข่ายถูกฝ่าปัจจัยลบ
นายเจน จูฑา ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจทั่วโลกถดถอย ขณะที่ประเทศไทยต้องประสบกับปัญหาทางการเมือง ส่งผลให้ตลาดการใช้งานโทรศัพท์ระหว่างประเทศโดยรวมทั้งผ่านอินเตอร์เน็ต (วีโอไอพี) และผ่านรหัส 3 หลักหดตัวลงอีก 15% หลังจากไตรมาสแรกที่ผ่านมาการใช้งานในส่วนนี้หายไปแล้ว 15% โดยเฉพาะปริมาณการใช้งานในส่วนของลูกค้าองค์กร ทั้งในไทยที่ติดต่อกับลูกค้าต่างประเทศ และธุรกิจต่างประเทศที่โทร.เข้ามาในไทย จึงคาดการณ์ว่าตลาดรวมการใช้งานโทร.ต่างประเทศในปีนี้อาจไม่เติบโต หรือติดลบ จากปัจจุบันที่มีมูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ ปัจจัยการเมืองถือเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ประเทศไทยแย่กว่าประเทศอื่นๆ ทั่วโลก เมื่อสถานการณ์ทางการเมืองไม่นิ่ง ทำให้ทรูไม่สามารถประเมินรายได้ หรือการเติบโตของตลาดส่วนนี้ได้เลย
นายเจนกล่าวว่า เพื่อปรับตัวรองรับกับสถานการณ์ดังกล่าว บริษัทพยายามเน้นเรื่องการจัดการต้นทุนด้านโครงข่ายการให้บริการ เช่น การเช่าใช้วงจรเชื่อมต่อต่างประเทศ (เกตเวย์) ที่มีราคาถูกลง การนำเสนอบริการที่หลากหลาย และเน้นกลุ่มลูกค้าเฉพาะ (นิช มาร์เก็ต) เพื่อให้สามารถผ่านปัจจัยลบนี้ไปได้ เชื่อว่าครึ่งปีหลังตลาดส่วนนี้จะเริ่มกลับคืนสู่ปกติ อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงเน้นทำตลาดวีโอไอพีเพิ่มขึ้น เพราะถือเป็นแนวโน้มทั่วโลกที่กำลังได้รับความนิยม เนื่องจากราคาค่าบริการถูกกว่าการใช้งานแบบธรรมดา เนื่องจากไม่ต้องผ่านเกตเวย์ ทำให้ผู้ให้บริการสามารถคิดราคาถูกกว่าได้
นายสุพจน์ เธียรวุฒิ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมโทรคมนาคม สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) กล่าวว่า ตลาดวีโอไอพีทั่วโลกจะเติบโต 100% เห็นได้ชัดเจนจากประเทศญี่ปุ่น ที่เริ่มให้เลขหมายการใช้งานวีโอไอพีกับผู้ใช้มือถือเพื่อทดแทนการใช้งานระบบวอยซ์เพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ การที่ผู้ให้บริการโทรคมนาคมอย่าง ทีโอที ทรู และ กสท โทรคมนาคม กำลังเปลี่ยนสู่โครงข่ายยุคหน้า (เอ็นจีเอ็น) จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้วีโอไอพีกลายเป็นบริการที่ได้รับความนิยมมากขึ้นด้วย
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์