พิษวิกฤตศก.?ทริส?เล็งหั่นเรตติ้งบจ. ( ข่าวทั่วไป )

“ทริส”จับตาวิกฤต ศก. จี้ติดฐานะการเงิน 100 บจ. เชื่อปีนี้หั่นอันดับมากสุด เผย 4 เดือนลดเครดิตแล้ว 4 ราย จาก 4 ปีก่อน ลดเรตติ้งปีละ 3-4 ราย ด้าน”เจซีอาร์”เฝ้าระวังใกล้ชิด ชี้ปัญหาการเมืองยังไม่จบ

นายวรภัทร โตธนะเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้ทริสและสถาบันจัดอันดับอื่นๆ เช่น มูดส์ดี้ และเอสแอนด์พี ยังไม่ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ (เรตติ้ง) ของประเทศไทย โดยยังคงเรตติ้งประเทศไว้ที่ BBB+ แต่ให้แนวโน้ม (Out look) ในช่วง 6-12 เดือน ยังเป็นลบ หรือ BBB เหมือนเดิม หลังจากปรับลดลงตั้งแต่การปิดสนามบินสุวรรณภูมิเมื่อปลายปีที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีสถานการณ์การชุมนุมอย่างต่อเนื่องของกลุ่มคนเสื้อแดง เพราะการปรับเรตติ้งไม่ได้ดูจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ ประกอบกับสถาบันการจัดอันดับจะพิจารณาปัจจัยด้านเศรษฐกิจเป็นหลัก มากกว่าปัจจัยทางการเมือง

“เรตติ้งของประเทศคงไม่ปรับลดลงในช่วงเวลาอันใกล้ เว้นแต่ว่าจะมีเหตุการณ์ที่รุนแรงมากๆ เกิดขึ้น เห็นได้จากที่มีปัญหาการเมือง 2-3 ปีที่ผ่านมา เรตติ้งประเทศยังไม่ถูกลด เพราะยังประคองเศรษฐกิจไปได้ แต่ขณะนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี โดยทริสประเมินเศรษฐกิจไทยทั้งปีเลวร้ายสุดอยู่ที่ประมาณลบ 4-4.5% ก็เป็นห่วง ซึ่งหากการเมืองยังคงไม่แน่นอนต่อไป มีการชุมนุม ใช้ความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ก็มีความเป็นไปได้ที่สถาบันจัดอันดับ จะออกเรตติ้งระยะสั้นมาก่อน คล้ายเป็นการจับตามองสถานการณ์ของประเทศใดประเทศหนึ่งอย่างใกล้ชิด เป็นการเตือนว่า ภายใน 1-2 เดือนอาจจะมีการปรับเรตติ้ง” นายวรภัทรกล่าว

นายวรภัทรกล่าวว่า หลังจากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลก ทริสได้มีการจับตา ตรวจฐานะทางการเงินของบริษัทลูกค้าที่มีอยู่กว่า 100 บริษัทใกล้ชิดมากขึ้นเป็นรายเดือน ติดต่อกันเป็นเวลา 6 เดือนแล้ว โดยในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ได้ปรับลดอันดับของลูกค้าลง 4 รายแล้ว จากฐานะทางการเงินที่ไม่ค่อยดี จากช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา มีการปรับลดเพียง 3-4 รายต่อปีเท่านั้น จึงมีแนวโน้มว่าปีนี้จะต้องปรับลดอันดับของลูกค้าลงมากกว่าทุกปี

นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 7 เมษายน สถาบันจัดอันดับ JCR (เจซีอาร์) ได้ถอนการเฝ้าระวังระดับเครดิตที่เป็นลบของประเทศไทยออกจากระดับเครดิตตราสารหนี้ระยะยาว เนื่องจากเห็นว่าความไม่สงบทางการเมืองและสังคมของไทย ที่เกิดจากปิดล้อมสนามบินเริ่มผ่อนคลายลง ดุลการค้าการชำระเงินระหว่างประเทศของไทยยังแข็งแกร่ง ฐานะการคลังของรัฐบาลมีเสถียรภาพมากพอที่จะสนับสนุนระดับเครดิตของประเทศไทยได้ อย่างไรก็ตาม JCR ยังคงเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ในประเด็นการบริหารงานของรัฐบาลเพื่อให้มีเสถียรภาพทางการเมืองและสังคม เพราะมองปัญหาทางการเมืองและสังคมของไทยยังไม่หมดไป มีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลอาจสูญเสียการสนับสนุนจากประชาชน

ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์