แบงก์เข้มงวดสินเชื่อหนัก ( ข่าวทั่วไป )

ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์อ่วม ยอดปฏิเสธสินเชื่อพุ่ง แบงก์เรียกซีโอโอแจงโครงการ จากเดิมแค่ซีเอฟโอ

ร.อ.กรี เดชชัย ประธานเจ้าหน้าที่ด้านปฏิบัติการ (ซีโอโอ) บริษัท เอสซี แอสเเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจของบริษัทในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมามียอดขายเป็นยอดขายแนวราบ หรือบ้านเดี่ยวทาวน์โฮม ประมาณ 800 ล้านบาท ส่วนแนวสูง หรือคอนโดมิเนียมมียอดขายประมาณ 200 ล้านบาท ในจำนวนนี้มีอัตราการปฏิเสธสินเชื่อจากธนาคาร ส่วนใหญ่เกิดในโครงการแนวราบ 250 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50% เทียบกับช่วงไตรมาสแรกของปีที่แล้วที่มีลูกค้าถูกปฏิเสธสินเชื่อเพียง 10% เท่านั้น เนื่องจากธนาคารพาณิชย์เข้มงวดการปล่อยสินเชื่อสูงมาก มีความเข้มงวดมาตั้งแต่ไตรมาสแรก จากปีที่แล้วเริ่มเข้มงวดในช่วงไตรมาส 4 การปฏิเสธสินเชื่อของธนาคารไม่ใช่เฉพาะสินเชื่อรายย่อยเท่านั้น แต่ยังมีอุปสรรคอื่น เช่น ต้องใช้ระยะเวลาตรวจสอบรายละเอยดนาน รู้ผลการอนุมัติเงินกู้จากเดิม 20 วัน เพิ่มเป็น 30 วัน นอกจากนี้ยังมีความเช้มงวดในส่วนสินเชื่อสำหรับการพัฒนาโครงการหรือพรีไฟแนนซ์ เห็นจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับบริษัท ปีนี้เป็นครั้งแรกที่ธนาคารให้ซีโอโอ ไปอธิบายความเป็นไปได้โครงการรวมทั้งกลุ่มเป้าหมายกับธนาคารด้วยจากเดิมผู้ที่ไปอธิบายจะเรียกไปประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการเงินหรือซีเอฟโอเท่านั้น

“จากการพุดคุยผู้ประกอบการอสังหา ไม่ว่าจะเป็นแลนด์แอนด์เฮ้าส์ ควอลิตี้เฮ้าส์ หรือพฤกษาเรียลเอสเตทา ประสบปัญหาเดียวกัน คือขายได้แต่มียอดรับรู้รายได้น้อยลง เนื่องจากมียอดการปฏิเสธสินเชื่อจากแบงก์สูงมาก ปัญหานี้ในปีนี้ถือว่ามีความรุนแรงจากที่ผ่านมามาก และจะเป็นปัญหาหลักสำหรับภาคอสังหาฯในปีนี้”

ร.อ.กรี กล่าวว่า ยอดปฏิเสธสินเชื่อของเอสซีฯปีที่แล้ว ทั้งปีอยู่ที่ประมาณ 600 ล้านบาท แต่หลังจากไตรมาสแรกของปีนี้มียอดปฏิเสธสินเชื่อเพิ่มขึ้นสูง ทางบริษัทจึงต้องปรับกลยุทธ์การดำเนินงาน จะต้องเร่งการขายให้มากขึ้น รวมทั้งมีการจัดกิจกรรม ทั้งที่เป็นโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย และกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า เช่น แทงก์กิ้ว ปาร์ตี้ หรือ เอสซี คิด แคมป์ โดยนำลูกบ้านที่มีบุตรศึกษาในระดับประถมศึกษามาทำกิจกรรมร่วมกันที่อาคารชินวัตร 3 และจัดคอร์สสอนว่ายน้ำให้ลูกค้าในโครงการฟรี อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงเป้าหมายการรับรู้รายได้ในปีนี้ไว้ที่ 4.2 พันล้าน เพิ่มจากปีที่แล้ว 5% ตามเป้าหมายเดิม เพราะช่วงปลายปียังมียอดรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดมิเนียม เซ็นทริค สุขุมวิท 64 อีกจำนวนหนึ่ง (กรอบบ่าย)

ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์