คมชัดลึก - รมว.วธ.เผย รู้ชื่อเจ้าของเว็บแพร่คลิป นารูโตะภาคพิศดาร เตรียมให้ไอซีทียื่นฟ้องศาล ลงโทษ พร้อมผุดไอเดียตั้งสายด่วนรับเรื่องร้องเรียน 24 ชั่วโมง ด้านนักวาดการ์ตูนชื่อดัง ชี้ การ์ตูนญี่ปุ่นมีอิทธิพลต่อเด็กไทย แนะทางแก้ต้องส่งเสริมผลงานดี กลบสื่อลามก
เมื่อวันที่ 30 มี.ค. นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีที่ผู้ปกครองร้องเรียนให้ วธ. ตรวจสอบคลิปวิดีโอเรื่อง”นารูโตะภาคพิสดาร” ที่นำเสนอเนื้อหาแสดงการมีเพศสัมพันธ์ของเด็กชายและเด็กหญิงเผยแพร่ผ่านเว็บไซตชื่อดังว่า ขณะนี้ วธ. ได้ประสานงานไปยังกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดต่อเด็ก เยาวชน และสตรี(ปดส.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)ให้ร่วมกันตรวจสอบคลิบวิดิโอดังกล่าว และทราบชื่อเจ้าของเว็บไซต์ต้นตอ และลิงค์ต่างๆ ที่มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอแล้ว
ส่วนของการดำเนินคดีกับผู้ประกอบการเครือข่ายอินเตอร์เน็ตที่เผยแพร่คลิปวิดีโอนั้น สามารถดำเนินการยื่นส่งฟ้องศาลได้ทันที ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (4) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะ อันลามก ผิดศีลธรรม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายธีระ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ตนยังมีแนวคิดที่จะตั้งศูนย์รับร้องเรียนความไม่เหมาะสมทางวัฒนธรรม พร้อมทั้งเปิดสายด่วนให้ประชาชนแจ้งข่าวสารต่างๆ มายังศูนย์ดังกล่าวตลอด 24 ชั่วโมงด้วย ซึ่งเรื่องราวที่ประชาชนร้องเรียนเข้ามาจะได้รับการรายงานข้อมูลไปยังศูนย์เฝ้า
ระวังทางวัฒนธรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้รับการแก้ไข อย่างไรก็ตาม การจัดตั้งศูนย์ดังกล่าว วธ.จะดำเนินการศึกษาและดำเนินการจัดตั้งให้เร็วที่สุด
ด้าน นายโอม รัชเวทย์ นักวาดการ์ตูนอิสระ กล่าวถึงกรณีที่มีการพบการเผยแพร่คลิปวีดีโอการ์ตูนนารูโตะภาคพิศดาร ว่า การที่มีคนนำการ์ตูนดังกล่าวมาทำในลักษณะเช่นนี้ ถือว่าไม่เหมาะสม เนื่องจากการ์ตูนส่งผลต่อเด็กและเยาวชนอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหว จะมีอิทธิพลอย่างสูงต่อจิตใจของเด็กและเยาวชนทั้งสิ้น และเป็นที่น่าสังเกตว่า ปัจจุบันการ์ตูนญี่ปุ่นเข้ามามีผลชักจูงเด็กและเยาวชนไทย ถือว่าเป็นปัญหาอย่างหนึ่งของวงการการ์ตูนและนักเขียนไทย ซึ่งตนและนักวาดการ์ตูนจะร่วมมือกันสร้างสรรค์ผลงานที่ดีให้มีมากขึ้น
”การที่มีผู้นำการ์ตูนดีๆดัดแปลงเป็นการ์ตูนลามกอนาจาร เพราะเขาเห็นว่า จะได้ประโยชน์ทางธุรกิจจากตรงนี้มหาศาล ซึ่งผู้บริโภคส่วนใหญ่จะเป็นเด็กและเยาวชน ดังนั้น ควรมีการควบคุมการ์ตูนลามากให้ดี และควรส่งเสริมการ์ตูนสร้างสรรค์ให้มากๆ ซึ่งหากมีสื่อดีๆเพิ่มขึ้น ผมคิดว่า สื่อลามกเหล่านี้ก็จะน้อยลง”นายโอม กล่าว
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์