คมชัดลึก-กองปราบฯเชื่อลูกสาว“ปิยะ”เล็งโกงบริษัทประกันหลังพบทำกรมธรรม์ชื่อปลอมไว้อื้อเผยวงเงินร่วมสิบล้านแฉเอกสารประวัติผัวสุดหรูเรียนจบนอกแถมเป็นอดีตที่ปรึกษาปธ.สภากทม.เตรียมขอข้อมูลปตท.ถูกเชิดเงินกว่า5พันล้าน
เมื่อวันที่29มีนาคมที่กองบังคับการกองปราบปรามพล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ฉายาพันธุ์ผบก.ป.กล่าวถึงความคืบหน้าคดีจับกุมนางกันต์กนิษฐ์อังกินันทน์หรือปานจิตชิ้นศิริลูกสาวนายปิยะอังกินันทน์หรือแป๋งอดีตส.ส.เพชรบุรีพรรคชาติไทยและนายชาญชัยชิ้นศิริสามีว่าชุดสืบสวนยังดำเนินการตรวจสอบหาข้อมูลอย่างต่อเนื่องโดยชุดสืบสวนของพ.ต.อ.กิตติศักดิ์สุขวัฒน์ธนกุลผกก.5บก.ป.ได้ลงไปหาพยานหลักฐานเกี่ยวกับการแจ้งตายเท็จของนางปานจิตที่จ.ระนองได้ข้อมูลเอกสารและพยานอันเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเป็นจำนวนมาก
ผบก.ป.กล่าวต่อว่าส่วนผู้เสียหายที่ถูกกลุ่มผู้ต้องหาฉ้อโกงมีมูลค่านับหมื่นล้านบาทโดยเฉพาะบริษัทปตท.ในฐานะผู้เสียหายรายใหญ่ที่ข้อมูลจากศาลล้มละลายกลางมีมูลค่าความเสียหายถึง5,200ล้านบาทนั้นในวันที่30มีนาคมจะสั่งการให้พนักงานสอบสวนกองปราบปรามทำหนังสือสอบถามข้อมูลจำนวนตัวเลขความเสียหายที่แท้จริงอีกครั้งนอกจากนี้จะดำเนินการตรวจสอบไปยังสถาบันการเงินต่างๆที่ตรวจพบข้อมูลว่านายชาญชัยปลอมชื่อไปกู้เงินอีกหลายแห่งเพื่อรวบรวมหลักฐานประกอบการพิจารณาอีกครั้งว่าการกระทำของนางกันต์กนิษฐ์และนายชาญชัยจะเข้าข่ายร่วมกันฉ้อโกงประชาชนหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการตรวจยึดเอกสารต่างๆจากบ้านพักนางสุมลฑาเพื่อนสาวของนายชาญชัยภายในซอยวิภาวดีรังสิต20นั้นมีรายงานว่าเอกสารส่วนหนึ่งระบุชื่อนายพงศวิทย์ศรีวิทยพงศ์ซึ่งเป็นอีกชื่อหนึ่งของนายชาญชัยและจากเอกสารที่ตรวจยึดมาพบว่านายชาญชัยได้ทำกรมธรรม์ประกันชีวิตไว้อีก4ฉบับในชื่อของนายพงศวิทย์โดยทำไว้กับบริษัทเมืองไทยประกันชีวิต2ฉบับในวงเงิน2ล้านบาทและอีกฉบับวงเงิน4ล้านบาทเมื่อปี2550ส่วนกรมธรรม์ที่เหลือทำไว้กับบริษัทอเมริกันอินเตอร์แนชชั่นแนลแอสชัวรันส์จำกัดหรือเอไอเอในวงเงิน3ล้านบาทและบริษัทไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิตแต่ยังไม่ทราบวงเงิน
นอกจากนี้ในเอกสารของกลางที่ยึดมานั้นยังพบเอกสารระบุชื่อนายพงศวิทย์ไปขอกู้เงินจำนวน10ล้านบาทจากธนาคารกรุงเทพสาขาคลองตันเมื่อวันที่21ธันวาคม2550และเอกสารการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนในชื่อห้างหุ้นส่วนคริสเทคจำกัดในปี2545ซึ่งนายชาญชัยใช้ชื่อพงศวิทย์ไปจดทะเบียนไว้กับพรรคพวกมีที่ตั้งสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯส่วนสำนักงานสาขาอยู่ที่ตั้งเดิมของบริษัทปิยะจิตที่จ.เพชรบุรีโดยประกอบธุรกิจหลากหลายประเภทอาทิโรงงานฉีดพลาสติกค้าปลีกและค้าส่งน้ำมันเชื้อเพลิงรวมถึงการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทุกประเภทในตราสินค้าของสถานีบริการน้ำมันปตท.ทั้งแบบค้าปลีกและค้าส่งฯลฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าเจ้าหน้าที่ได้พบเอกสารประวัติบุคคลโดยย่อของนายชาญชัยในชื่อพงศวิทย์ศรีวิทยพงศ์โดยเอกสารดังกล่าวระบุว่าจบการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาBacherlorofScinceInManagementจากมหาวิทยาลัยโกลเดนท์เกตเมืองซานฟรานซิสโกรัฐแคลิฟอร์เนียประเทศสหรัฐอเมริกาจบปริญญาโทด้านบริหารการจัดการจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต
นอกจากนี้ยังมีประวัติทางสังคมว่าเคยมีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาประธานสภากรุงเทพมหานคร(นายวิสูตรสำเร็จวาณิชย์)เป็นคณะกรรมการแก้ไขปัญหาแรงงานเนื่องจากผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีเป็นกรรมการโรงเรียนบางกะปิกรุงเทพมหานครเป็นผู้ประสานงานด้านชายแดนฝั่งตะวันตกของกองพลทหารราบ(รักษาพระองค์)กองทัพภาคที่1จ.กาญจนบุรีฯลฯ
ส่วนประวัติการทำงานในเอกสารดังกล่าวมีรายละเอียดเริ่มตั้งแต่ปี2535-2550โดยระบุว่าเคยผ่านการเป็นผู้ช่วยผู้จัดการและเป็นที่ปรึกษาบริษัทต่างๆหลายแห่งซึ่งปัจจุบันระบุว่าดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบริษัทอีก2แห่งหนึ่งในนั้นคือบริษัทคริสเทคจำกัดของนายชาญชัยที่ใช้ชื่อพงศวิทย์เป็นเจ้าของอย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่กำลังเร่งตรวจสอบเอกสารทั้งหมดที่ยึดมาได้ว่านายชาญชัยหรือนายพงศวิทย์ได้ปลอมชื่อเป็นบุคคลอื่นอีกหรือไม่รวมทั้งจะตรวจสอบด้วยว่ามีการปลอมเอกสารเหล่านี้ไปฉ้อโกงคดีอื่นๆอีกหรือไม่อย่างไร
รายงานข่าวแจ้งว่าชุดสืบสวนกำลังขยายผลการตรวจสอบไปถึงเรื่องการทำประกันชีวิตของคนทั้งสองด้วยโดยเฉพาะของนายชาญชัยเนื่องจากพฤติกรรมที่ผ่านมาทำให้เชื่อว่าอาจจะมีการทำกรมธรรม์ประกันชีวิตอีกหลายฉบับด้วยกันที่น่าจะมีปัญหาไม่ว่าจะเป็นเรื่องการใช้ชื่อบุคคลอื่นหรือการทำเรื่องขอสินไหมทดแทน
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์