คมชัดลึก - เจ้าท่ากันตังตรวจสอบเรือประมงที่ลูกเรือประมงก่อเหตุเชือดคอนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ บริเวณเกาะหลีแปะ จ.สตูล พบเป็นเรือเจ้าของธุรกิจใหญ่เมืองตรัง ผกก.ตำรวจน้ำ ภาค 9 ยันตรวจสอบอย่างต่อเนื่องไม่พบการใช้แรงงานบนเรือประมงเยี่ยงทาส
นายสุธี คงสง หัวหน้าสำนักงานการขนส่งทางน้ำที่ 5 ตรัง(สำนักงานเจ้าท่า ภูมิภาค 5) เปิดเผยว่า สำหรับเรือประมงลำดังกล่าวเป็นเรือที่จดทะเบียนในนามบริษัทที่ตั้งอยู่ใน อ.กันตัง จ.ตรัง เจ้าของเป็นนักธุรกิจใหญ่ในพื้นที่ ซึ่งเป็นเรือขนาด 155 ตันกรอส ประเภทเรือเป็นเรือประมงน้ำลึก ชั้น 1 ใช้ทำการประมงเดินเรือโดยไม่จำกัดเขตน่านน้ำ มีลูกเรือไม่เกิน 15 คน โดยที่ผ่านมาเรือลำดังกล่าว จะอยู่ในประเทศอินโดนีเซีย หรือแถวหมู่เกาะอาดัง จ.สตูล
ทั้งนี้เรือประมงทุกลำในพื้นที่ อ.กันตัง ส่วนใหญ่จะมาจดทะเบียนขอใบอนุญาตเกือบทุกลำ แต่ก็ยอมรับว่ามีบ้างบางลำที่ไม่ยอมมาจดทะเบียน ทำให้ยากต่อการตรวจสอบเมื่อมีการกระทำผิด และจากการที่เรือประมงในพื้นที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ยากต่อการดูแลได้ทั่วถึง ส่วนการจะเข้าไปตรวจสอบจำนวนลูกเรือประมงในแต่ละลำว่ามีจำนวนตามที่ได้แจ้งไว้ให้กับกรมแรงงานหรือไม่นั้น เรื่องดังกล่าวทางสำนักงานขนส่งทางน้ำ ไม่มีอำนาจหน้าที่ที่จะเข้าไปตรวจสอบตรงนั้นได้ คงต้องประสานไปยังตำรวจน้ำเข้าตรวจสอบ ซึ่งปัจจุบันองค์มนุษยชนร้องเรียน เกี่ยวกับการใช้แรงงานประมงบ่อย
ด้าน พ.ต.อ.เลิศชาย ถิ่นรัตน์ ผกก.9 กองบังคับการตำรวจน้ำกันตัง ซึ่งดูแลรับผิดชอบพื้นที่ จ.ตรัง และสตูล เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาทางตำรวจน้ำกันตัง มีความเข้มงวดในการตรวจตราเรือประมงที่กระทำผิดกฎหมายอยู่แล้ว แต่สำหรับเรือประมงดังกล่าวนั้น เป็นเรือประมงที่เดินเรืออยู่นอกเขต 12 ไมล์ทะเล ทางตำรวจน้ำจึงไม่สามารถดำเนินการตรวจสอบได้ เพราะอยู่นอกเหนืออำนาจหน้าที่ แต่ถ้าหากเรือประมงที่เข้า-ออกในทะเลระยะ 12 ไมล์ทะเล จะต้องตรวจสอบอยู่แล้ว ส่วนก็ทำประมงนอกน่านน้ำด้วย
ส่วนกรณีที่ลูกเรือแรงงานต่างด้าวชาวพม่าที่ตกเป็นผู้ต้องหาฆ่าคนตาย 2 ศพ เมื่อคืนที่ผ่านมา นั้น และให้การอ้างว่า ที่ผ่านมาถูกนายจ้างใช้แรงงานเยี่ยงทาสและถูกกักขังบนเรือ นั้น ตนเชื่อว่า อาจจะมีการนำลูกเรือไปฝากต่ออีกเรือหนึ่งก็เป็นได้และคงเป็นไปไม่ได้ที่แรงงานจะถูกกักขังอย่างทรมานในเรือ ทั้งนี้จากการตรวจสอบการกระทำในลักษณะดังกล่าวในพื้นที่ จ.ตรัง ยังไม่พบการกระทำดังกล่าว
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์