<b>?ต็อตติ? ซัดลูกจุดโทษเจ้าปัญหาเป็นประตูชัยวินาทีสุดท้าย พา อิตาลี 10 คน เฉือนชนะ ออสเตรเลีย 1-0 เป็นปาฏิหาริย์ลิ่วเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายแล้ว ออสซี่ สุดช้ำคาใจเชิ้ตดำเป่าจุดโทษ</b>
ฟุตบอลโลก 2006 รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดประจำวันจันทร์ที่ 26 มิ.ย. คู่แรกที่สนาม ฟริทซ์ วัลเตอร์ สเตเดี้ยม เมืองไกเซอร์สเลาเทิร์น ประเทศเยอรมัน เป็นการแข่งขันระหว่าง อิตาลี กับ ออสเตรเลีย
เริ่มเกมครึ่ง ออสเตรเลีย ก็มีโอกาสบุกและมีจังหวะหวาดเสียวทันที เมื่อ ทิม เคฮิลล์ ได้โอกาสโหม่งในเขตโทษ แต่เฉียดเสาออกหลังไป
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 20 อิตาลีทำเกมบุกขึ้นมาในฝั่งออสเตรเลีย เป็น อัลแบร์โต จิลาร์ดิโน ที่พักอกลงหนึ่งจังหวะก่อนวอลเลย์เน้น ๆ ด้วยขวาในกรอบเขตโทษ มาร์ค ชวาร์เซอร์ นายทวารออสเตรเลียต้องกระโดดปัดข้ามคานออกไป
นาทีที่ 22 ลูก้า โทนี่ เบียดแผงหลังออสเตรเลียก่อนได้จังหวะกลับตัวยิงเลียดพุ่งเข้าหาประตู แต่ไปติดขา ชวาร์เซอร์ ที่ล้มตัวพุ่งเซฟผิดทางไปแล้ว ช่วยให้ออสเตรเลียรอดพ้นการเสียประตู
นาทีที่ 30 ออสเตรเลีย เกือบได้เฮอีกครั้ง เมื่อ สก็อตต์ ชิพเพอร์ฟิลด์ ได้ยิงลูกส้มหล่นจากการสกัดผิดพลาดของแผงหลังอิตาลีบริเวณหน้าประตูระยะเผาขน แต่ไปตรงตัว จิอันลุยจิ บุฟฟ่อน นายทวารอัสซูรี่ ที่บล็อกกระฉอกก่อนตะครุบบอลติดมือในจังหวะสองไว้ได้อย่างหวุดหวิด ขณะที่ มาร์ค วิดูกา วิ่งเข้าชาร์จพยายามจะเข้าซ้ำ ผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกได้ฟาล์วของอิตาลี
นาทีที่ 34 อิตาลี ทำเกมบุกอีกครั้ง และมีจังหวะลุ้นทำประตู เมื่อบอลมาถึง ซิโมเน่ แปร์รอตต้า บริเวณริมเส้นเขตโทษฝั่งขวา แปร์รอตต้า โหม่งชงให้ ลูก้า โทนี่ โขกจ่อ ๆ หน้าปากประตู แต่ก็ข้ามคานออกไปไกล จบครึ่งแรก เสมอกัน 0-0
เริ่มเกมในครึ่งหลัง อิตาลี เปลี่ยนผู้เล่นสำรองเป็นคนแรก โดยตัดสินใจถอดเอา จิลาร์ดิโน่ ออก และส่ง วินเซนโซ่ ไอควินต้า ลงมาแทน
นาทีที่ 49 ลูก้า โทนี่ ได้โอกาสซัดเต็มข้อ แต่ก็เหินข้ามคานออกไป
แต่แล้วนาทีที่ 50 อิตาลี ต้องเหลือผู้เล่นในสนาม 10 คน เมื่อ <b>มาร์โค มาเตรัซซี่ </b>ล้มตัวเสียบสกัด มาร์โค เบรสเซียโน ชนิดไม่โดนบอล หลุยส์ เมดิน่า คันทาเลโย ผู้ตัดสินชาวสเปนเป่าฟาล์วทันที พร้อมกับชูใบแดงไล่ มาเตรัซซี่ ออกจากสนามไป
นาทีที่ 56 อิตาลี เปลี่ยนตัวสำรองโดยถอดเอา ลูก้า โทนี่ ออก และส่ง อังเดร บาร์ซัคลี่ ลงมาแทน
ด้วยความได้เปรียบเรื่องจำนวนผู้เล่น ทำให้ ออสเตรเลีย เริ่มโหมเกมบุกมากขึ้น นาทีที่ 59 ชิพเพอร์ฟิลด์ ได้จังหวะสับไกด้วยซ้ายบริเวณมุมกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย แต่ บุฟฟ่อน ก็เซฟป้องกันประตูไว้ได้อีกครั้ง
นาทีที่ 66 อังเดร เปียโล ของอิตาลี ยิงลูกฟรีคิกระยะ 30 หลา บอลลอยโค้งเข้าหาประตู ชวาร์เซอร์ ต้องออกแรงปัดข้ามคานไปอย่างหวุดหวิด
จากนั้น ทั้งสองทีมผลัดกันมีโอกาสบุกไปในแดนฝั่งตรงกันข้าม โดยอิตาลี ยังคงมีจังหวะลำเลียงไปหน้าประตูออสเตรเลีย ถึงแม้จะมีผู้เล่นน้อยกว่าก็ตาม
นาทีที่ 81 มาร์โค เบรสเซียโน่ เปิดลูกเตะมุมฝั่งขวา ไปที่หน้าประตู ถึง ทิม เคฮิลล์ ที่ขึ้นโขกเดี่ยว ๆ แต่ข้ามคานออกไป ก่อนออสเตรเลียจะเปลี่ยนตัวสำรอง โดยส่ง จอห์น อลอยซี่ ลงมาแทน ไมล์ สเตอร์ยอฟสกี้
นาทีที่ 87 อิตาลี มีโอกาสลุ้นประตูอย่างสุด ๆ จากลูกขลุกขลิกในเขตโทษของออสเตรเลีย เมื่อแผงหลังเตะสกัดไปติดตัว วินเซนโซ่ ไอควินต้า ที่ได้ส้มหล่นยิงระยะเผาขน แต่โดนไม่เต็มเท้า บอลปลิ้นไปเข้ามือ ชวาร์เซอร์ ที่รับไว้ได้สบายมือ
เกมดำเนินมาถึงนาทีสุดท้ายของช่วงทดเวลาบาดเจ็บ และทำท่าว่าจะจบด้วยผลเสมอ แต่แล้วเหตุการณ์สำคัญก็เกิดขึ้น เมื่อ<b> ฟาบิโอ กรอสโซ</b> ของอิตาลี ได้บอลที่ริมเส้นกราบซ้าย และพาบอลมาถึงเส้นหลัง ก่อนกระชากหลบแผงหลังออสเตรเลียมาได้หนึ่งคน ลุยเข้าไปถึงในกรอบเขตโทษ เป็น <b>ลูคัส นีลล์ </b>แผงหลังอีกคนของออสซี่ ที่พยายามเข้าสกัดจนตัวเองล้มลงไป ขวาง กรอสโซ จนล้มลงไปกองกับพื้นอีกคน ผู้ตัดสินชาวสเปนไม่รอช้า เป่าให้เป็นจุดโทษของอิตาลีทันที ขณะที่ ลูคัส นีลล์ พยายามเข้าไปท้วงผู้ตัดสินว่าตัวเองไม่ได้ฟาล์วแต่อย่างใด แต่ไม่เป็นผล และเป็น <b>ฟรานเชสโก ต็อตติ</b> อาสารับหน้าที่สังหารโดยเลือกยิงฉีกไปทางซ้ายมือ สุดที่ ชวาร์เซอร์ จะพุ่งเซฟถึง แม้จะพุ่งถูกทางแล้วก็ตาม เสียบตาข่ายเป็นประตูชัยให้ อิตาลี ชนะไปอย่างโชคช่วย 1-0 ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายไปอย่างหวุดหวิด.
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์