สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน การปิดการซื้อขายตลาดหุ้น สหรัฐ เมื่อวันที่ 20 มี.ค. ดัชนีปรับลดลงหลังข้อมูลระบุว่า จำนวนผู้ว่างงานที่มายื่นเรื่องรับความช่วยเหลือจากรัฐบาลในสัปดาห์ที่ผ่าน มาเพิ่มขึ้นจนแตะ 5.47 ล้านคนแล้วในปีนี้ ขณะที่นักลงทุนไม่สบายใจต่อกรณีธนาคารกลางสหรัฐ อเมริกา หรือ เฟด เตรียมทุ่มเงิน 1.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการซื้อหนี้เสียของรัฐบาลและพันธบัตรรัฐบาล เนื่องจากเกรงว่าจะทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่า และทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อมากยิ่งขึ้น
ด้านราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ พุ่งขึ้น 3.47 ดอลลาร์สหรัฐ ฯ ไปปิดที่ระดับ 51.61 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล สูงสุดในรอบปีนี้ ทำให้หลังปิดตลาด ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ 7,400.80 จุด ลดลง 85.78 จุด หรือ 1.15% ดัชนีหุ้นแนสแดคปิดที่ 1,483.48 จุด ลดลง 7.74 จุด หรือ 0.52% และดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี ปิดที่ 784.04 จุด ลดลง 10.31 จุด หรือ 1.30%
รายงานระบุต่อว่า ในส่วนของ ตลาดหุ้นสำคัญของยุโรป ดัชนีหุ้นเอฟทีเอสอี 100 ( FTSE 100 ) ตลาดลอนดอน ประเทศอังกฤษ ปิดที่ 3,816.93 จุด ปรับขึ้น 11.94 จุด หรือ 0.31% ดัชนีหุ้นแด็กซ์ ( DAX ) ตลาดแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี ปิดที่ 4,043.46 จุด ปรับขึ้น 47.14 จุด หรือ 1.18% และดัชนี หุ้นซีเอซี 40 (CAC 40) ตลาดปารีส ประเทศฝรั่งเศส ปิดที่ 2,776.99 จุด ปรับขึ้น 16.65 จุด หรือ 0.60% ส่วนน้ำมันดิบเบรนต์ ตลาดลอนดอน ประเทศอังกฤษ ปิดที่ 50.67 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล ปรับขึ้น 3.01 ดอลลาร์สหรัฐฯ ด้านราคาทองคำตลาดนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ปิดที่ 958.30 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ออนซ์ ปรับขึ้น 69.60 ดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนตลาดลอนดอน ประเทศอังกฤษ ปิดที่ 958.95 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ออนซ์ ปรับขึ้น 66.55 ดอลลาร์สหรัฐฯ
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์