คมชัดลึก : แกนนำม๊อบเสื้อแดง นำสมาชิกเข้าแจ้งความระบุ ซี 6 เป็นผู้ปาระเบิดปิงปองใส่รถขบวนของรองนายกฯสุเทพ “เสื้อแดง”อาจเลื่อนชุมนุมใหญ่หลังรบ.เปลี่ยนวันอภิปราย
เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 16 มี.ค. นายสมบุญ ขุนทองไทย ประธานกลุ่มปทุมธานีรักประชาธิปไตย และ นายวรชัย เหมะ ประธานชมรมคนเสื้อแดงจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วยสมาชิกกลุ่มเสื้อแดงประมาณ 30 คน ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ธรรมนูญ เชาวะวณิชย์ ผกก.สภ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เพื่อให้ความร่วมมือในการติดตามตัวมือปาระเบิดปิงปองใส่ขบวนรถของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่ามีพยานหลายคนพบเห็นสตรีอายุประมาณ 50 ปีเศษ ซึ่งทำงานอยู่ในวิทยาลัยการปกครอง เป็นผู้ขว้างถุงบรรจุระเบิดปิงปอง
ต่อมา พ.ต.อ.ธรรมนูญ เชาวะวณิชย์ ผกก.สภ.ธัญบุรี ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.ธรรมนูญ วัฒนแสงประเสริฐ สารวัตรเวรสอบสวน เป็นผู้สอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด
น.ส.สุนิสา คำมี อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 86/ 230 ม.5 แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กทม. เปิดเผยว่า ขณะที่กลุ่มเสื้อแดงของพวกตนเดินทางมาถึงยังวิทยาลัยการปกครอง ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ขบวนรถของนายสุเทพออกมาที่ปากทางพอดี ระหว่างนั้นตนเองก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งสวมเสื้อสีฟ้า อายุประมาณ 50 ปีเศษ ซึ่งเดินปะปนอยู่ในกลุ่มเสื้อแดง ได้ขว้างถุงพลาสติกสีขาวไปที่พื้น สักครู่ที่มีเสียงดังคล้ายระเบิดขึ้นมาพร้อมกลุ่มควันสีขาว ซึ่งตนเองจึงได้ทำการสอบถามเพื่อนๆก็ทราบว่าหญิงคนนั้นเป็นข้าราชการระดับซี 6 ของวิทยาลัยการปกครองนั่นเอง
ด้าน นางอัญชลี รอดแจ่ม อยู่บ้านเลขที่ 304/1106 ม.3 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม. กล่าวว่า มีหลายคนที่เห็นผู้หญิงสวมเสื้อสีฟ้าคนดังกล่าวขว้างถุงบรรจุสิ่งของลงกับพื้นแล้วเกิดมีเสียงระเบิดดังขึ้น ซึ่งไม่ใช่การกระทำของคนเสื้อแดงอย่างแน่นอน ซึ่งการเดินทางมาในวันนี้ ก็เพื่อมาให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการติดตามตัวมือปาระเบิดปิงปองคนดังกล่าวมาดำเนินคดี
นายสมบุญ ขุนทองไทย ประธานกลุ่มปทุมธานีรักประชาธิปไตย กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุนั้นทางกลุ่มเสื้อแดง จังหวัดสมุทรปราการ กำลังจะเดิดทางไปยังจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และทราบข่าวว่า นายสุเทพ ไปที่วิทยาลัยการปกครอง จ.ปทุมธานี จึงพากันแวะมาดูเหตุการณ์
โดยเมื่อมาถึงนั้น เป็นช่วงที่ขบวนรถของนายสุเทพ กำลังออกมาพอดี จนมีการชุลมุนกันขึ้น และมีเสียงระเบิดตามมา หลังเกิดเหตุตนเองได้รับการประสานงานจากกลุ่มเสื้อแดงจังหวัดสมุทรปราการ ว่า มีหลักฐานชัดเจนว่า หญิงสวมเสื้อสีฟ้าคนดังกล่าวเป็นผู้ปาถุงระเบิดดังกล่าว จึงพากันเดินทางมายัง สภ.ธัญบุรี ในวันนี้ เพื่อนำหลักฐานมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการติดตามตัวมาดำเนินคดี
ทั้งนี้ตนเองขอยืนยันว่า กลุ่มเสื้อแดง เรานั้นไม่มีอาวุธใดๆทั้งสิ้น เราชุมนุมแบบสันติวิธี ไม่มีการใช้ความรุนแรง แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นคนอื่นทำขึ้นมาแล้วมาโยนให้คนเสื้อแดง ซึ่งถือว่าไม่ให้ความเป็นธรรมกับกลุ่มของเรา
ดังนั้นจึงเดินทางมาให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการติดตามตัวมือปาระเบิดมาดำเนินคดีให้ได้อย่างรวดเร็ว
“เสื้อแดง“อาจเลื่อนชุมนุมใหญ่หลังรบ.เปลี่ยนวันอภิปราย
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวว่า หลังจากที่รัฐบาลเลื่อนวันอภิปรายไม่ไว้วางใจ เข้ามาเป็นวันที่ 19-21 มี.ค.นั้น กลุ่มเสื้อแดงจะมีการหารืออีกครั้งว่าจะเลื่อนวันชุมนุมใหญ่ที่จากเดิมจะชุมนุมในวันที่ 29 มี.ค. อาจจะเลื่อนเข้ามา ส่วนจะเป็นวันที่เท่าไหร่จะแถลงให้ทราบต่อไป อย่างไรก็ตามในการชุมนุมสัญจรของกลุ่มเสื้อแดงที่เชียงใหม่ ในวันที่ 22 มี.ค.จะมีเช่นเดิม
ฝ่ายค้านแบ่ง3ทีมจับรมต.เชือด
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ดีใจมากที่เลื่อนวันพิจารณาญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจขึ้นมา เพราะเข้าล็อกตามที่นักโหราศาสตร์ทำนายไว้ว่า รัฐบาลจะต้องยุบสภาภายในสัปดาห์หน้า เพราะผลของการอภิปรายจะทำให้รัฐบาลอยู่ไม่ได้จนนายกฯประกาศยุบสภา พวกเราเตรียมไวน์ไว้เปิดฉลองได้เลย
นายประเกียรติ นาสิมมา ส.ส.สัดส่วน คณะทำงานด้านกฎหมายพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมว่า ไม่ได้หารือถึงกรณีที่จะเลื่อนวันพิจารณาญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล แต่ยิ่งเลื่อนให้เร็วมากขึ้นเท่าไหร่ยิ่งดี จะได้จับผู้ที่ถูกอภิปรายขึ้นเขียงเร็วขึ้นเท่านั้น เพราะขณะนี้ผู้ที่จะอภิปรายมีความพร้อม ตามกรอบเดิมมีผู้อภิปราย 20 คนบวก ลบ โดยแบ่งทีมอภิปรายออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่ม 1 นายกฯพ่วงรมว.คลังและรมช.คลัง กลุ่ม 2 นายกฯพ่วงรมว.ต่างประเทศ และกลุ่ม3 นายกฯพ่วงรมว.มหาดไทยและรมช.มหาดไทย ทั้งนี้ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน ประธานคณะทำงานอภิปรายไม่ไว้วางใจได้กำชับต้องใช้ผู้อภิปรายน้อยคน ฟันธง และตรงประเด็น
หวั่น “ชัย” ลักไก่เข็นกม.กู้เงินเข้าสภา
นายประเกียรติ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมได้พิจารณาถึงกรณีที่สภาฯได้เลื่อนร่างพ.ร.บ.การทำสัญญาของหน่วยงานรัฐขึ้นมาพิจารณาในที่ประชุมวันที่ 18 มี.ค. โดยอ้างว่าเป็นมติของที่ประชุมสภาฯ โดยเมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่า สภาฯไม่ได้มีมติดังกล่าว แต่เป็นการลักไก่ตามที่สื่อมวลชนวิจารณ์และรีบหยิบยกขึ้นมาพิจารณา โดยที่ประชุมยังได้วิเคราะห์ถึงกรณีนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯ ได้เลื่อนเรื่องดังกล่าวขึ้นมา โดยเห็นว่านายชัยไม่ได้เลอะเลือน แต่เป็นการจับมือกันระหว่างนายชัยและพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อต้องการให้การกู้เงินหรือคำประกันเงินกู้จากต่างประเทศไม่ต้องผ่านการพิจารณาของที่ประชุมรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 190
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์