แหล่งรวม ธุรกิจ บริษัท ห้างร้าน และ ข้อมูล การท่องเที่ยว ในแถบ อันดามัน
 
เข้าสู่ระบบ G! Builder
เลือกจังหวัด
ข่าวสาร ข่าวทั่วไป ภายในประเทศ

ถล่มต่ออีกยกที่มาป.ป.ช. จตุพรจวกวุฒิภาวะ?วิชา? ( ข่าวทั่วไป )

ภาพประกอบ ข่าวสาร ข่าวทั่วไป : ถล่มต่ออีกยกที่มาป.ป.ช. จตุพรจวกวุฒิภาวะ?วิชา?

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายการ “ความจริงวันนี้” ทางสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT วันนี้ (22 ก.ค.) นายวีระ มุสิกพงศ์ ผู้ดำเนินรายการ และมีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน เป็นผู้ร่วมรายการ

โดยประเด็นวันนี้ยังคงเป็นการโจมตีที่มาของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งทางผู้ดำเนินรายการเห็นว่า ป.ป.ช.เป็นองค์กรที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง แม้จะมีการอ้างความเป็นรัฎฐาธิปัตย์ของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่ได้แต่งตั้งกรรมการ ป.ป.ช.ชุดนี้ขึ้นมาก็ตาม

 

นายจตุพร กล่าวว่า หนังสือตอบกลับของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอ้างถึงการได้รับแจ้งความเห็น คำถามก็คือเป็นความเห็นของใคร และสำนักราชเลขาธิการได้แจ้งความเห็นดังกล่าวกับสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีในรูปแบบใด แจ้งด้วยวาจา หรือแจ้งเป็นหนังสือ หากเป็นหนังสือ ถ้อยคำเต็มๆ เป็นอย่างไร และความเห็นของบุคคลผู้นั้นมีผลให้เป็นกฎหมายหรือไม่ และมีผลให้พระราชอำนาจแห่งองค์พระมหากษัตริย์ไม่มีผลในทางปฏิบัติในการแต่งตั้งกลุ่มบุคคลที่เรียกตัวเองว่า ป.ป.ช. มาปฏิบัติหน้าที่หรือไม่

 

ทางด้านนายณัฐวุฒิ ได้ยกองค์กรมาเปรียบเทียบกรณีดังกล่าวคือ ศาลรัฐธรรมนูญที่ถูกคำสั่งของ คปค.ยุบหลังยึดอำนาจ และมีการตั้งตุลาการรัฐธรรมนูญขึ้นมา 1 ชุด โดยไม่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ซึ่งประชาชนทุกคนคงจะจำได้ ว่าในวันที่ตุลาการรัฐธรรมนูญชุดนั้น ตัดสินคดียุบพรรคไทยรักไทย จะเห็นได้ว่าองค์คณะตุลาการที่ไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ไม่มีสิทธิ์สวมเสื้อครุย ในฐานะองค์คณะผู้พิพากษาในคดีนั้น

 

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ในส่วนของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) นั้น ต่างไปจาก ป.ป.ช. และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นองค์กรที่ตั้งขึ้นใหม่โดยอาศัยคำสั่ง คปค. ซึ่งไม่มีกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญรองรับเหมือน ป.ป.ช. และ กกต. เพราะฉะนั้นจึงเป็นอำนาจขององค์รัฎฐาธิปัตย์ ที่จะกล่าวอ้างได้ แต่จะมาใช้กับกรณีของ ป.ป.ช. และ กกต.ไม่ได้

 

นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวถึงการแถลงของนายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. ที่บอกว่าการได้รับการโปรดเกล้าฯ ไม่ได้เป็นเครื่องยืนยันว่าผู้ที่ได้รับโปรดเกล้าฯ นั้นจะทำงานด้วยความซื่อสัตย์ตามที่ได้ปฏิญาณตนไว้ ว่า เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงวุฒิภาวะของนายวิชา

 

“การพูดของคุณวิชา ทำให้เข้าใจว่า คุณวิชากำลังคิดเอาเองการได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนั้นเป็นเครื่องยืนยันความซื่อสัตย์สุจริตหรืออย่างไร ซึ่งจริงๆ ไม่ใช่ การซื่อสัตย์สุจริตของแต่ละบุคคลที่เข้ามาทำงาน เป็นเรื่องของตัวบุคคล ที่จะต้องรู้ว่าตัวเองมีความสง่างาม มีคุณค่า และความชอบธรรมเพียงพอที่จะดำรงตำแหน่ง แต่การทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนั้น เป็นเรื่องของพระราชอำนาจ และเป็นบทบัญญัติของกฎหมาย ตราบใดที่บทบัญญัติของกฎหมายไม่ถูกยกเลิก คุณจะทำตามสนุกไม่ได้” นายณัฐวุฒิกล่าว

 

ขณะที่นายจตุพร กล่าวเสริมว่า นายวิชา กำลังใช้ทฤษฎีโต้วาที มันสะท้อนถึงวุฒิภาวะของนายวิชา ว่าการมาหักล้างประเด็นที่ไม่ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ว่าคนที่ผ่านพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ผ่านการถวายสัตย์ฯ ไม่ได้บอกว่าจะเป็นคนสุจริตไม่ได้ เพราะตำแหน่ง ป.ป.ช.จะต้องได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง จึงจะเริ่มทำหน้าที่ได้ การที่คนจะมาทำหน้าที่ ป.ป.ช.ใช้เหตุผลดังกล่าวมาหักล้างจึงเป็นเรื่องไม่เหมาะสมทางวุฒิภาวะ

 

ทั้งนี้ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า จะขอตั้งคำถามกลับถึงนายวิชา ว่า พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ที่นายวิชา อ้างว่าเป็นรัฎฐาธิปัตย์ลงนามแต่งตั้ง เป็นคนซื่อสัตย์สุจริตมากน้อยเพียงใด

 

นอกจากนี้ ผู้ดำเนินรายการทั้ง 3 คน ยังกล่าวโจมตีการทำหน้าที่ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในเรื่องการผ่านร่างกฎหมายจำนวน 217 ฉบับ แต่มีถึง 177 ฉบับ หรือกว่า 85% ที่เป็นโมฆะ เนื่องจากไม่ครบองค์ประชุม และว่าในวันพรุ่งนี้ (23 ก.ค.) จะกล่าวถึงการทำงานของ สนช.อย่างละเอียด

 

ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์

Valid XHTML 1.0 Transitional Valid CSS!
ทะเบียนพาณิชย์อีเลคทรอนิคส์ เลขที่ 8373549000215