ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ปักหลักชุมนุมยืดเยื้อบริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ถนนราชดำเนิน ตั้งแต่กลางดึกวานนี้ (15 ก.ค.) ต่อเนื่องจนถึงช่วงเช้ามืดวันนี้ (16 ก.ค.) แกนนำพันธมิตรฯ ยังคงผลัดกันขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีรัฐบาล ในประเด็นเรื่องการปล่อยให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกเพียงประเทศเดียว
นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงกรณีที่ทางการกัมพูชาจับตัวคนไทย 3 คน ที่ข้ามแดนเข้าไปยังเขตกัมพูชา โดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ เรียกร้องให้ทหารไทยแสดงจุดยืนให้พี่น้องประชาชนเห็น ว่าจะไม่ยอมถอยแม้แต่ก้าวเดียว และจะเดินหน้าเพื่อเอาดินแดนที่เป็นของไทยกลับคืน
นายสนธิ ยังอ้างว่าวานนี้ พล.อ.เตีย บัญ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชา ได้โทรศัพท์ถึง พล.อ.วิชิต ยาทิพย์ อดีตรองผู้บัญชาทหารบก คนสนิทของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ช่วยแจ้งกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ให้ถอนกำลังทหารไทยออกจากบริเวณพื้นที่โดยรอบปราสาทพระวิหาร แต่ พล.อ.อนุพงษ์ ไม่ยอม และสั่งเสริมกำลังเต็มที่ ซึ่งต้องขอชื่นชม พล.อ.อนุพงษ์ และว่า ทหารมีหน้าที่ 2 อย่าง คือ รักษาราชบัลลังก์และรักษาชาติ หากนักการเมืองสั่งให้ถอยก็ให้ทหารเอาพานท้ายปืนตบปากให้ฟันร่วง
ก่อนหน้านี้ นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยังได้กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลออก “6 มาตรการ 6 เดือน ฝ่าวิกฤติเพื่อคนไทยทุกคน” ว่ามาตรการดังกล่าวชัดเจนว่า เป็นมาตรการประชานิยม โดยหลักการถือเป็นประโยชน์กับคนยากจน แต่ต้องการตั้งข้อสังเกตว่า มีวาระอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ รัฐบาลอาจจะยุบสภา ใน 2-3 เดือนข้างหน้า จึงเลือกใช้มาตรการนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อเวลา 18.00 น. วานนี้ พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ ประธานคณะที่ปรึกษากองบัญชาการทหารสูงสุด ได้ขึ้นเวทีปราศรัยพันธมิตรฯ เป็นครั้งที่ 3 แต่ไม่ได้แต่งเครื่องแบบทหาร โดยย้ำจุดยืนถึงการทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติ และมั่นใจว่าการขึ้นเวทีปราศรัยเป็นการชี้แจงข้อเท็จจริง
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์