วันนี้ (9 ก.ค.) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เปิดเผยผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง "ทางออกของการเมืองไทยในสายตาประชาชน” พบว่า ประชาชน 28.44% เห็นว่าควรยุบสภาฯ เลือกตั้งใหม่ เพื่อให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใช้หลักประชาธิปไตย ได้รัฐบาลใหม่-คนใหม่เข้ามาทำงานแทนรัฐบาลชุดปัจจุบัน ลดความขัดแย้งและทำให้การประท้วงยุติ
รองลงมา 25.12% เห็นว่าควรปรับคณะรัฐมนตรี เพื่อให้คนใหม่เข้ามาแทนรัฐมนตรีที่ทำงานผิดพลาด-มีข้อเสีย และไม่ต้องการให้มีการเลือกตั้ง เพราะเป็นการสูญเสียงบประมาณ ส่วน 17.54% เห็นว่าคณะรัฐมนตรีควรลาออกเพื่อจัดตั้งรัฐบาลใหม่ เนื่องจากรัฐบาลบริหารงานไม่ได้ แก้ปัญหาไม่ได้ และเมื่อรัฐมนตรีบางคนทำผิดก็ควรช่วยกันรับผิดชอบ ทั้งยังเห็นว่าเป็นรัฐบาลที่ทำงานเพื่อพวกพ้อง การลาออกเป็นการแสดงสปิริต
โพลยังระบุว่า ประชาชน 15.40% เห็นว่า พรรคร่วมรัฐบาลควรถอนตัวไปร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเปิดโอกาสให้พรรคประชาธิปัตย์ได้ทำงานอย่างจริงจัง เป็นวิธีที่จะทำให้ยุติการประท้วงและความรุนแรงของพันธมิตรฯ ได้ และไม่เป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณที่จะต้องเลือกตั้งใหม่ ขณะที่มีเพียง 3.31% ต้องการให้ยึดอำนาจ/รัฐประหาร/รัฐประหารโดยทหาร/มีการปฏิวัติกันเองของรัฐบาล โดยให้เหตุผลว่า บ้านเมืองจะได้สงบสุข ไม่มีปัญหาความขัดแย้ง ดีกว่ายุบสภาฯ เลือกตั้งใหม่ เพราะสิ้นเปลือง
อย่างไรก็ตาม 10.19% เห็นว่าทุกฝ่ายควรหันหน้าเข้าหากัน หรือถอยกันคนละก้าว ทำเพื่อประเทศชาติจริงๆ มิใช่ทำเพื่อตัวเองหรือพวกพ้อง และควรถอดถอนรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์