วันนี้ (21 ก.พ.) พระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี กล่าวเนื่องในวันมาฆบูชา ว่า อยากให้เน้นไปที่คำสอนของพระพุทธเจ้าที่ให้ความสำคัญกับการละบาปก่อนไปทำบุญ เหมือนคนที่จะแต่งตัวต้องอาบน้ำก่อน คนทำบุญแต่ไม่ได้ละบาป เหมือนคนแต่งตัวแต่ไม่ได้อาบน้ำ พระพุทธเจ้าจึงเริ่มต้นให้ละบาปก่อน
"วันนี้ถ้าใครไม่ได้ไปวัด ไม่ได้ทำบุญ ไม่ถือว่าเสียหาย แต่ถ้าใครไม่ละบาปในวันนี้ ต้องถือว่าชั่วและเลวร้ายสำหรับคนที่เป็นชาวพุทธ ดังนั้น ขอให้ทำทั้ง 3 อย่าง ตั้งแต่วันนี้และตลอดไปยิ่งดี คือ ละบาป ทำบุญทำความดี และมีจิตใจที่ผ่องแผ้ว เป็นความหมายสำคัญที่สุดในโอวาทของพระพุทธเจ้า" พระพยอม กล่าว และว่าถ้าใครยังตีรันฟันแทง ลุ่มหลงเต็มไปด้วยบาปทั้งกาย วาจา และใจ ปากพูดอะไรไม่สร้างสรรค์ ด่าทอ สาปแช่ง หยาบคายเพ้อเจ้อ ต้องถือว่ายังเป็นคนที่บาปอยู่ ถ้าจะไปที่วัดทำบุญก็จะไปทะเลาะเบาะแว้งกัน ขัดแย้งกับเขาตลอด บาปทางกายยังคึกคะนอง คิดอกุศล ใจคิดแต่จะเบียดเบียนปองร้าย หากใครยังคิดอยู่ วันนี้จะไม่มีความหมายอะไรสำหรับคนนั้น
พระพยอม กล่าวต่อว่า วันนี้ ใครไม่ไปวัดก็ไม่เป็นอะไร แต่ขอให้ตั้งใจว่าจะไม่ให้บาปเกิดขึ้นในใจ วาจา และกาย ตลอดทั้งวัน ขอให้นึกทบทวนว่าเป็นวันละบาปดีกว่าทำบุญ เพราะบางคนไปวัดกลับมาแล้วกินเหล้า เล่นไพ่ต่อ ลักขโมย โกง คอร์รัปชั่น ตกลงบาปไม่ได้ละเลย หรือละบาปแล้วไม่ต่อยอดไม่ต่อบุญ เหมือนคนอาบน้ำแต่ไม่แต่งตัว
พระพยอม กล่าวด้วยว่า วันนี้ที่วัดสวนแก้วมีงานวันมาฆบูชา ฟังเทศน์ฟังธรรม ที่แปลกคือ วันนี้ต้นมะปรางที่วัดสุกเป็นจำนวนมากถึง 1,000 กิโลกรัม และยังมีมะขามเทศอีกเป็นหลายร้อยกิโลกรัม ดังนั้น ใครที่มาวัดสวนแก้ววันนี้จะได้ 3 อิ่ม คือ อิ่มปากท้อง อิ่มสมอง เพราะจะได้หนังสือและซีดีธรรม และอิ่มอกอิ่มใจที่ได้เห็นวัดทำประโยชน์ช่วยเหลือคนพิการ คนชรา และกำพร้า
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์