กรณีตำรวจ กก.สส.บก.น.2 จับกุมตัวนายพรเทพหรือนุ พูลผล อายุ 30 ปี อาชีพจัดหาอุปกรณ์ประกอบฉาก ภาพยนตร์และมิวสิกวีดิโอ ผู้ต้องหาคดีกรรโชกทรัพย์ ขู่วาง ระเบิดสังหารนายเปรม บุษราคัมวงษ์ บุตรชายนายบรรจง บุษราคัมวงษ์ นักธุรกิจพันล้าน เจ้าของค่ายมวยแฟร์เท็กซ์ จ.ชลบุรี และ น.ส.อมิตา มาเรีย ยัง หรือทาทา ยัง นักร้อง สาวซุปเปอร์สตาร์ ว่าที่ลูกสะใภ้ เรียกเงิน 5 ล้านบาท เบื้องต้น นายพรเทพให้การรับสารภาพอ้างว่า ต้องการเงินไปเลี้ยง บุตรสาวแฝด 2 คน และเปิดร้านคาราโอเกะ จับกุมผู้ต้องหา ได้ที่ลานจอดรถโรงภาพยนตร์เมเจอร์ สาขารัชโยธิน เมื่อเที่ยง วันที่ 19 ก.พ. ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าในเรื่องนี้ ที่ บช.น. เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 ก.พ. ทาทา ยัง พร้อมคู่หมั้นหนุ่มเปรม บุษราคัมวงษ์ นำกระเช้าดอกไม้ไปขอบคุณ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. ที่จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลรักษาความปลอดภัย ระหว่างถูกนายพรเทพข่มขู่กรรโชกทรัพย์ กระทั่งวางแผน จับกุมตัวคนร้ายไว้ได้ โดย พล.ต.ท.อัศวินได้นำตัวนาย พรเทพผู้ต้องหาออกมาแถลงข่าวอีกครั้งร่วมกับผู้เสียหาย
พล.ต.ท.อัศวินกล่าวว่า หลังจากจับตัวนายพรเทพหรือนุได้แล้ว ฝ่ายสืบสวนของ บก.น.2 นำโดย พ.ต.ท. สมศักดิ์ นิเต็ม สว.สส. นำกำลังไปค้นบ้านพักของผู้ต้องหา ย่านจตุจักร พบบัตรเติมเงินโทรศัพท์มือถือเบอร์ที่ผู้ต้องหา ใช้ติดต่อกับ น.ส.ลาวัลย์ สุขเอื้อ ผู้จัดการส่วนตัวของทาทา ยัง เพื่อข่มขู่เรียกเงินมาตลอด ทั้งนี้ตรวจสอบจากพฤติกรรม ต่างๆ พยานเอกสาร เชื่อว่าผู้ต้องหากระทำการเพียงคนเดียว อยากขอร้องผู้ที่คิดจะเลียนแบบ หรือคิดสนุกแกล้งชาวบ้าน อย่าทำ การตรวจสอบของตำรวจต้องทำอย่างละเอียด การกระทำอย่างนี้ยืนยันได้เลย ไม่มีทางรอดแม้แต่รายเดียว
พ.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบก.จร. หัวหน้าชุดคลี่คลายคดี กล่าวว่า ได้รับคำสั่งจาก พล.ต.ท.อัศวิน ให้ติดตามเรื่องนี้ จึงไปติดต่อพูดคุยกับผู้เสียหาย เมื่อได้ ข้อมูลนำพิจารณา เบื้องต้นท้องที่เกิดเหตุอยู่ที่ สน.พหลโยธิน ความรับผิดชอบของ กก.สส.บก.น.2 จึงประสาน พ.ต.อ. สรรค์หกิจ บำรุงสุขสวัสติ ผกก.สส.บก.น.2 มอบหมายให้ พ.ต.ท.สมศักดิ์ นิเต็ม สว.สส. มาทำงานร่วมกันเกาะติด เหตุการณ์มาตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ. แนวทางการทำงานคือ ติดตามพฤติกรรมของคนร้าย ในช่วงติดต่อพูดคุยกับผู้เสียหาย ผู้ต้องหาใช้โทรศัพท์สาธารณะติดต่อเข้ามา 4 ครั้ง จาก 4 แห่ง เริ่มจากห้างเซ็นทรัล ลาดพร้าว หน้า สยามเฟิร์ส วัดเสมียนนารี ลาเมซอง ซอยพหลโยธิน 24 และบริเวณถนนสุขุมวิท ทุกจุดไม่ได้ภาพวงจรปิด แต่เมื่อถูกจับกุมตัวผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ
ด้าน น.ส.อมิตา มาเรีย ยัง หรือทาทา ยัง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 ก.พ. คนร้ายโทรศัพท์มาที่บริษัท ทาทา เอน เทอร์เทนเม้นต จำกัด อยู่ที่ชั้น 12 เอ อาคารกมลสุโกศล แขวงสีลม เขตบางรัก กทม. น.ส.ลาวัลย์ หรือหนึ่ง รับสาย แจ้งว่า จะจ้างไปเล่นหนัง ก็สอบถามรายละเอียด คนร้ายอ้างว่าเป็นผู้กำกับ จึงให้เบอร์มือถือไป ต่อมาคนร้ายโทรศัพท์ ติดต่อกับพี่หนึ่งอีกรอบ กลับบอกว่าเป็นมือปืน มีคนว่าจ้าง ให้มาฆ่าทาทากับเปรม เป็นเงิน 5 ล้านบาท แต่ไม่อยากทำ จะขอเงินเพื่อแฉตัวผู้บงการฆ่า จากนั้นโทร.ติดต่อนัดหมาย มาตลอด เมื่อสอบถามถึงวิธีฆ่า คนร้ายขู่จะใช้วิธีคาร์บอมบ์ พอถามกลับไปว่าไม่ยิงหรือ คนร้ายก็ตอบว่า นั่นเป็นวิธี สุดท้ายที่จะทำ จากนั้นทาทากับเปรมไปปรึกษานายบรรจง บุษราคัมวงษ์ พ่อของเปรม ซึ่งรู้จักกับ พล.ต.ท.อัศวิน เป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว ติดต่อขอความช่วยเหลือ ทางตำรวจ ก็ส่งทีมบอดี้การ์ดมาปกป้องทาทากับเปรม ตำรวจอีกทีม ก็สืบหาคอยติดตามหาตัวคนร้าย ช่วงนั้นกลัวมากๆ ไม่เคย มีศัตรูที่ไหน เรื่องค่ายมวยก็ไม่มี
ทาทา ยัง เปิดเผยต่ออีกว่า เมื่อตำรวจจับคนร้ายได้แล้ว ก็ปรึกษากับเปรม คงจะไม่เอาผิดอะไรมาก แต่เป็นเรื่องของตำรวจต้องว่ากันไปตามกฎหมาย จะไปเปลี่ยนแปลง อะไรไม่ได้ หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ ต่อไปคงต้องระวังตัวให้มากขึ้น ต้องขอขอบคุณ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง และ เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกท่าน ที่คอยอำนวยความสะดวกตลอดเวลากับทาทากับเปรม ให้เกิดความรู้สึกปลอดภัย คิดว่ายังมีตำรวจที่คอยช่วยเหลืออยู่เสมอ ขณะที่นายเปรมเปิดเผยเพียงสั้นๆว่า ช่วงเกิดเหตุอยู่กับทาทามาตลอด คอยติดต่อตำรวจ คอยสอบถามความคืบหน้า ไม่อยากให้ทาทารู้เรื่องอะไรมาก
ด้านนายพรเทพ ผู้ต้องหากล่าวว่า กราบขอโทษทาทาและคุณเปรม รวมทั้งครอบครัวของคุณทาทา ตนยอมรับผิดทุกอย่าง ที่กุเรื่องขึ้นมาเพราะอยากได้เงิน เนื่องจากตกงานมานานและต้องหาเงินเลี้ยงลูก คิดว่าทาทาเป็นคนใจดี เงิน 4 ล้านกว่าบาท มากมายสำหรับตน แต่สำหรับทาทาคงไม่ทำให้ยากจน
เมื่อเวลา 12.00 น. วันเดียวกัน พ.ต.ต.สมนึก สันติภาตะนันท์ พงส. (สบ 2) สน.พหลโยธิน เจ้าของคดี สอบปากคำ น.ส.ลาวัลย์ สุขเอื้อ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37/594 ม.16 แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา ผู้จัดการสำนักงานทาทา เอ็นเทอเทนเม้นต์ ในฐานะ ตัวแทนที่ได้รับมอบอำนาจจากทาทา ยัง และนายเปรม คู่หมั้น เนื่องจากเป็นผู้ที่ติดต่อพูดคุยกับนายพรเทพ ผู้ต้องหามาตลอด โดยใช้เวลาสอบสวนประมาณ 1 ชม. จึงเสร็จสิ้น พ.ต.ต.สมนึกเปิดเผยว่า วันนี้สอบปากคำตัวแทนผู้เสียหาย สำหรับนายพรเทพ ผู้ต้องหา สอบปากคำเสร็จหมดแล้ว พร้อมแจ้งข้อหาดำเนินคดีกับนายพรเทพรวม 3 ข้อหา คือ พยายามกรรโชกทรัพย์ ข่มขืนใจผู้อื่นให้ กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายแก่ชีวิต และปลอมและใช้เอกสารทางราชการปลอม โดยนายพรเทพให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา หลังจาก พาตัวผู้ต้องหาไปตรวจค้นบ้านเลขที่ 36/3 ถนนกำแพงเพชร 2 แขวงและเขตจตุจักร ไม่พบหลักฐานอะไรสำคัญเพิ่มเติม หรือมีหลักฐานว่าจะมีผู้กระทำผิดรายอื่นร่วมด้วย ส่วนเรื่องการสรุปสำนวนคาดว่าจะใช้เวลาไม่นานและในช่วงบ่ายจะนำตัวนายพรเทพไปฝากขังที่ศาลอาญา
ต่อมาที่ศาลอาญา พ.ต.ต.สมนึก สันติภาตะนันท์ คุมตัวนายพรเทพ หรือนุ ผู้ต้องพยายามกรรโชกทรัพย์ไปฝากขังต่อศาลผัดแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ.-2 มี.ค.51 เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบพยานเพิ่มเติมอีก 4 ปาก รอผลตรวจลายนิ้วมือ และอื่นๆ
คำร้องระบุว่า ผู้ต้องหาโทรศัพท์ข่มขู่นายเปรม บุษราคัมวงษ์ และ น.ส.อมิตา หรือทาทา ยัง ว่าเป็นมือปืนรับจ้างได้รับว่าจ้างให้ลงมือสังหารทั้งสองคน ในราคา 5 ล้านบาท แต่ผู้ต้องหาไม่อยากทำ จึงขอเงิน 5 ล้านบาท จากทั้งสอง ซึ่งหากได้รับเงินแล้วจะให้หลักฐานเกี่ยวกับผู้จ้างวาน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น. 2 ได้วางแผนจับกุม โดยออกอุบายให้ผู้ต้องหาไปรับเงินที่โรงภาพยนตร์เมเจอร์ สาขารัชโยธิน และจับกุมตัว ผู้ต้องหาได้เมื่อวันที่ 19 ก.พ. 51 เวลา 12.30 น. พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ และแผ่นป้ายทะเบียนปลอม 1 แผ่น โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง โดยพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาพยายามกรรโชกทรัพย์ ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้เกิดอันตรายแก่ชีวิต และปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80 337 (1) 309 265 และ 268 โดยในชั้นจับกุมและสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ตลอดข้อกล่าวหาศาลพิจารณาคำร้องแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้ฝากขังได้
พ.ต.ต.สมนึกกล่าวว่า พนักงานสอบสวนคาดว่าจะสามารถรวบรวมผลการสอบสวน ตลอดจนพยานหลักฐานต่างๆ ให้แล้วเสร็จภายในการฝากขังครั้งที่ 3 เพื่อทำความเห็นให้พนักงานอัยการสั่งฟ้องตามกระบวนการยุติธรรม หลังจากพนักงานสอบสวนควบคุมตัวนายพรเทพไปฝากขังแล้ว ปรากฏว่า ไม่มีญาติของผู้ต้องหายื่นขอประกันตัวแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงนำตัวนายพรเทพ ไปควบคุมตัวไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯต่อไป
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์