นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และแกนนำกลุ่มสมานฉันท์ ให้สัมภาษณ์ถึงทิศทางการดำเนินการต่อไปทางการเมืองว่า ขณะนี้นาย พินิจ จารุสมบัติ นาย ปรีชา เลาหะพงศ์ชนะ แกนนำกลุ่มสมานฉันท์ ได้เดินทางไปร่วมพิธีสร้างองค์จตุคามรามเทพ ที่ จ.นครศรีธรรมราช คาดว่าจะกลับมาภายใน2-3วันนี้ และจากนั้นคงจะมีการพูดคุยและหารือกันถึงการดำเนินการทางการเมืองต่อไป แต่ทุกคนพร้อมยอมรับการตัดสินอะไรที่ทำไม่ได้ หรือ ห้ามไว้ เราก็จะไม่ทำ แต่ถ้าทำได้และเป็นประโยชน์กับประชาชนเราก็จะทำ อย่างตนก็มีอดีตส.ส.ที่ร่วมทีม ประมาณ 30 คน นายพินิจ และนายปรีชา ก็มีอดีต ส.ส. เช่นกัน ซึ่งในแต่ละกลุ่มก็คงต้องกลับไปหารือกันก่อน เนื่องจากในแต่ละทีมก็เป็นอดีตกรรมการบริหารพรรคที่ถูกเพิกถอนสิทธิแต่บางคนก็ไม่ถูกตัดสิทธิ
“กลุ่มยังคงยึดแนวทางสมานฉันท์ สร้างความเป็นปึกแผ่น สมมติว่าวันนี้ผมนายพินิจ นายปรีชา ไม่โดนเพิกถอนสิทธิภาพการนำทัพคงจะชัดเจนว่าจะไปในทิศทางไหนอย่างไร แต่วันนี้มันเป็นอีกอย่าง ดังนั้นคงต้องหารือกันว่าถามความรู้สึกกันว่ายังยึดแนวทางสมานฉันท์อีกหรือไม่” นายสุวัจน์ กล่าว
เมื่อถามว่า กรณีที่อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เตรียมถวายฎีกากรณีที่ถูกตัดสิทธิเลือกตั้ง นายสุวัจน์ กล่าวว่า ตนได้ออกมาจากพรรคไทยรักไทยแล้ว ถือว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ตนจะไม่ขอพูดในเรื่องนี้ ต่อข้อถามว่า ขณะนี้กลุ่มมัชฌิมาได้เปลี่ยนจุดยืนและประกาศเข้าร่วมต่อสู้กับพรรคไทยรักไทย นายสุวัจน์ กล่าวว่า เราทำงานการเมือง ก็เพื่อบ้านเมือง ปัญหาบ้านเมืองขณะนี้คือความแตกแยก ฉะนั้นเราก็ต้องหยุดสร้างความแตกแยก ส่วนการเรียกร้องให้ยกเลิกประกาศ คปค. ฉบับที่ 15 และ 27 นั้น ตนคิดว่า ถ้ากติกาเปิดเมื่อไหร่ ก็เมื่อนั้น แต่เราคงไม่ไปเรียกร้อง สำหรับความเป็นไปได้ที่จะฟื้นพรรคชาติพัฒนาคงต้องหารือกันก่อน หากเสียงส่วนใหญ่เห็นเป็นอย่างไร ก็คงต้องเป็นไปตามนั้น ซึ่งเราคงไม่ทิ้งพรรคพวกและผู้ที่ให้การสนับสนุนอย่างประชาชน จ.นครราชสีมา
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์