แหล่งรวม ธุรกิจ บริษัท ห้างร้าน และ ข้อมูล การท่องเที่ยว ในแถบ อันดามัน
 
เข้าสู่ระบบ G! Builder
เลือกจังหวัด
ข่าวสาร ข่าวทั่วไป ภายในประเทศ

บึมรถฮัมวีพลิก ทหารพลีชีพ 4 ศพ ( ข่าวทั่วไป )

ภาพประกอบ ข่าวสาร ข่าวทั่วไป : บึมรถฮัมวีพลิก ทหารพลีชีพ 4 ศพ

เมื่อเวลา 06.15 น. วันที่ 21 เม.ย. ร.ต.ต.เฮรามาน เจ๊ะดี ร้อยเวร สภ.อ.ระแงะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีคนถูกยิงบนถนนกลางหมู่บ้านโคกเนียง หมู่ 3 ต.ตันหยงลิมอ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.มาโนช อนันต์ฤทธิ์กุล ผกก.สภ.อ.ระแงะ นำกำลังรุดไปตรวจสอบ

พบเพียงกองเลือดและรถ จยย.ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ล้มตะแคงอยู่ข้างทาง มีปลอกกระสุนปืนอาก้าตกอยู่ 4 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้บาดเจ็บถูกนำส่ง รพ.ระแงะ ไปก่อนหน้าแล้ว จึงตามไปสอบสวนทราบชื่อนายฮารือมัน หะยีฮอเต๊ะ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/3 หมู่ 6 ต.บางปอ อ.เมืองนราธิวาส มีบาดแผล ถูกยิงที่หน้าอก ราวนมซ้ายและศีรษะ รวม 3 นัด อาการ สาหัส ต้องส่งต่อไปรักษาที่ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ สอบสวนทราบว่าถูก 2 คนร้ายขี่รถ จยย.ตามประกบยิงก่อนจะหลบหนีไป คาดเป็นการสร้างสถานการณ์รายวัน

รายต่อมาเวลา 06.30 น. วันเดียวกัน ร้อยเวรคนเดิมรับแจ้งมีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามดักซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ทหารสังกัดร้อย ร.1512 ฉก.38 จำนวน 4 นาย ทำหน้าที่ชุดคุ้มครองพระวัดสังฆสิทธาราม ที่ออกรับบิณฑบาต เหตุเกิดบนถนนเลียบทางรถไฟ หมู่ 7 ต.ตัน-หยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ห่างจากสถานีรถไฟตันหยงมัส ประมาณ 500 เมตร จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ

พบปลอกกระสุนปืนอาก้าและเอ็ม 16 ตกอยู่ ประมาณ 10 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนทหารและพระไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด สอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุทหารร้อย ร.1512 ฉก.38 รวม 4 นาย ทำหน้าที่คุ้มกันพระกลับจากบิณฑบาต เดินเท้ามาถึงจุดเกิด เหตุ มีคนร้ายเป็นชาย 3 คน ดักซุ่มอยู่ในป่าละเมาะข้างทาง ใช้ปืนอาก้ายิงถล่มเข้าใส่จนเกิดการยิงปะทะกันขึ้นนาน 2 นาที ก่อนที่คนร้ายจะหลบหนีไป คาดว่าน่าจะเป็นฝีมือโจรกลุ่มอาร์เคเคที่เคลื่อนไหวในพื้นที่

ก่อนหน้านี้ ช่วงสองทุ่ม คืนวันที่ 20 เม.ย. ขณะที่นายอับดุลเลาะ สาแม อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ 7 ต.บาโงสะโต อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ขี่รถ จยย.กลับจากทำธุระ ถึงบ้านกาลิซา หมู่ 2 ต.กาลิซา อ.ระแงะ ได้ มีคนร้าย 2 คน ขี่รถ จยย.ไล่ตามประกบยิงถูกลำตัวรวม 3 นัด นายอับดุลเลาะกระเด็นตกจากรถ จยย.บาดเจ็บพลเมืองดีช่วยนำส่ง รพ.ระแงะ อาการสาหัส

ที่ จ.ปัตตานี เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 21 เม.ย. พ.ต.อ.วัชรินทร์ อมราพิทักษ์ ผกก.สภ.อ.มายอ จ.ปัตตานี รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้ภายในโรงเรียนบ้านเกาะจันทร์ หมู่ 4 ต.เกาะจันทร์ อ.มายอ จึงประสานขอรถดับเพลิงรวม 2 คัน รุดไประงับเหตุ พบว่าต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณโรงอาหารสร้างด้วยไม้ชั้นเดียว ต้นเพลิงเกิดขึ้นภายในห้องครัวก่อนจะลุกลามออกมาด้านนอกอย่างรวดเร็ว ต้องใช้เวลาฉีดน้ำนานกว่า 30 นาที เพลิงจึงสงบ เผาเฉพาะห้องครัวเสียหาย ตรวจสอบในเบื้องต้นพบเศษผ้าชุบน้ำมัน เบนซินวางอยู่มุมห้องครัวด้านใน คาดถูกลอบวางเพลิงเผาโดยฝีมือกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่เพื่อสร้างสถานการณ์รายวัน

ถัดมาเวลา 11.30 น. วันเดียวกัน พ.ต.ต.วิพัฒน์ สุวรรณรัตน์ สารวัตรเวร สภ.อ.ยะรัง จ.ปัตตานี รับแจ้งมีเหตุระเบิดบนถนนสายปัตตานี-ยะลา ม.4 บ้านต้น-มะขาม ต.เมาะมาวี จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี นำกำลังรุดไปที่เกิดเหตุ พบรถฮัมวีติดปืนกลเอ็ม 214 พลิกหงายท้องล้อชี้ฟ้าอยู่กลางถนน สภาพพังยับเยิน มีทหารเสียชีวิตคาที่ 1 นาย เนื่องจากถูกตัวรถทับศีรษะ ทราบชื่อ จ.ส.อ.สุภาพ เชื้อจีน อายุ 47 ปี สังกัด ร.8033 ฉก.23 จ.เลย ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าชุดลาดตระเวน และเป็นพลขับรถคันดังกล่าว นอกจากนี้ ยังมีทหารได้รับบาดเจ็บอีก 3 นาย ทราบชื่อ ส.อ.ธนโชติ แก้ววงศ์ษา อายุ 35 ปี พลฯสนธยา จันทร์ศรี อายุ 22 ปี นำส่ง รพ.ศูนย์ยะลา ส่วนพลฯคงเขต สุขเจริญ อายุ 22 ปี นำส่ง รพ.ยะรัง ปรากฏว่าทั้ง 3 นาย เสียชีวิตในเวลาต่อมา รวมเป็นผู้เสียชีวิตถึง 4 นาย

จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุพบหลุมระเบิดขนาดใหญ่กว้าง 3 เมตร ลึก 1 เมตร อยู่ริมถนนสายดังกล่าวห่างจากตัวรถไปประมาณ 10 เมตร พบชิ้นส่วนถังเคมีดับเพลิงชนิด 15 กก.ต่อสายไฟลากเข้าไปในป่าข้างทางลึกจากถนนเข้าไปประมาณ 15 เมตร จุดชนวนด้วยแบตเตอรี่รถยนต์แบบ 12 โวลต์ คาดว่าคนร้ายแอบฝังระเบิดไว้ในช่วงกลางคืน และเฝ้ารอจังหวะที่รถของชุดทหารลาดตระเวนจะวิ่งผ่านมาจึงกดระเบิด ทำให้ทหารประจำรถเสียชีวิตหมดทั้ง 4 นายดังกล่าว สำหรับศพทหารทั้ง 4 นายที่เสียชีวิตถูกส่งไปเก็บรักษาไว้ที่ รพ.ศูนย์ยะลา เพื่อรอส่งกลับภูมิลำเนาในวันที่ 22 เม.ย.นี้

ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 00.10 น.คืนวันที่ 21 เม.ย. พ.ต.อ.ภูมิเพ็ชร พิพัฒน์เพ็ชรภูมิ ผกก.สภ.อ.เมืองยะลา พร้อมกำลังนำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 266/47 ซอยพงศ์เจริญ หมู่ 9 ต.สะเตงนอก หลังสืบทราบว่านายแวซาฟีดี แวดูยิ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77 หมู่ 3 บ้านลีมาปูโละ ต.บาโงยซิแน อ.ยะหา และนายอาหะมะ แลเมาะ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14/1 หมู่ 6 บ้านบ่อเจ็ดลูก ต.ยุโป แกนนำกลุ่มโจรใต้แอบมาหลบซ่อนตัวเพื่อวางแผนก่อความไม่สงบอยู่ในพื้นที่ สามารถจับกุมได้ทั้งคู่พร้อมของกลาง กระสุนปืนเอ็ม 16 จำนวน 3 นัด ใบกระท่อมสดหั่นฝอยเตรียมคั้นเป็นน้ำอีก 500 กรัม คุมตัวส่งให้ ร.ต.ท.สมพร ฤทธิรัตน์ ร้อยเวร สภ.อ.เมืองยะลา สอบสวน ดำเนินคดีข้อหาร่วมกันมีเครื่องกระสุนปืนที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถออกใบอนุญาตไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 ไว้ใน ความครอบครอง ก่อนจะส่งต่อให้ฝ่ายความมั่นคงนำตัวไปสอบขยายผลเพิ่มเติม

ส่วนกรณีนายนิรันดร์ คงแสน อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123/1 หมู่ 2 ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา จ.ยะลา คนงานขับรถแทรกเตอร์และนายดำรงค์ ทองรมย์ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99 หมู่ 4 ต.สุไหงปาดี อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส เพื่อนร่วมงาน ถูกคนร้ายแต่งชุดดำคลุมหมวกไหมพรมปิดหน้าใช้ปืนสงครามยิงเข้าใส่ ขณะกำลังทำงานตัดถนนเข้าสวนลองกองเสียชีวิตคาที่ทั้งคู่ ก่อนที่คนร้ายจะตัดเอาศีรษะนายนิรันดร์หลบหนีไปด้วยเหตุเกิดเมื่อตอนเย็นวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมานั้น ล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 20 เม.ย. เจ้าหน้าที่พบศีรษะของนายนิรันดร์ ที่ถูกใส่ไว้ในกระสอบปุ๋ยวางอยู่ริมลำธาร ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 300 เมตร จึงนำศีรษะนายนิรันดร์มาที่ รพ.ศรีสาคร และแจ้งให้ญาติมารับกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

สำหรับความคืบหน้าอาการบาดเจ็บของ พ.ต.อ. นพดล เผือกโสมณ รอง ผบก.ภ.จ.นราธิวาส ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการเหยียบกับระเบิดของคนร้ายในพื้นที่บ้านโคกกระดูกหมู ม.5 ต.ไพรวัลย์ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส โดยเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 21 เม.ย. รศ.นพ.สุเมธ พีรวุฒิ ผอ.โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.) หาดใหญ่ จ.สงขลา เปิดเผยว่า วันนี้ทีมแพทย์ได้เปิดและล้างแผล ตัดเนื้อเยื่อส่วนที่ตายบางส่วนออกเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการทำศัลยกรรมสร้างเสริมและนำเนื้อส่วนอื่นมาปะติด พบว่าบาดแผลที่ได้รับบาดเจ็บจากระเบิดมีการติดเชื้อน้อยมาก อาการทั่วไปยังคงมีไข้ต่ำๆ สัญญาณชีพปกติ แพทย์ถอดท่อช่วยหายใจและสายให้อาหาร ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายมากยิ่งขึ้น สามารถทักทายผู้มาเยี่ยมได้

รศ.นพ.สุเมธกล่าวต่อว่า พ.ต.อ.นพดลได้มอบหมาย ให้ พ.ต.ท.เล็ก มียัง สวป.สภ.อ.หาดใหญ่ เป็นตัวแทนนำกระเช้าดอกไม้สดที่มีบุคคลต่างๆนำมาเยี่ยมไข้ไปแจกจ่ายให้แก่คนชราที่มูลนิธิสงเคราะห์คนชราอนาถาหาดใหญ่ จำนวน 52 กระเช้า สามารถรับประทานอาหารเองได้บ้างเล็กน้อย และบอกกับญาติๆว่าอยากจะดื่มน้ำอัดลม ซึ่งแพทย์ก็อนุญาตให้ดื่มได้ โดยมี ด.ญ.กฤตวรรณ หรือน้องพลอย ลูกสาว คอยให้กำลังใจและอยู่เป็นเพื่อนตลอดเวลา ขณะที่นางถนอมจิตร์ เผือกโสมณ ภรรยาของ พ.ต.อ. นพดลต้องเข้ารับการผ่าตัดรักษาดวงตาด้านขวาด้วยแสงเลเซอร์ เนื่องจากกระจกตาเลื่อนจากตำแหน่งทำให้มองเห็นไม่ชัดที่โรงพยาบาลฯ ในเวลาประมาณ 15.00 น. โดยมีสาเหตุมาจากความเครียด ทาง พ.ต.อ.นพดลก็รับรู้ พร้อมทั้งเขียนข้อความให้กำลังใจภรรยาด้วย คาดว่านางถนอมจิตร์จะต้องใช้เวลารักษาตัวอย่างน้อย 2 สัปดาห์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.30 น. พล.ท.พิศาล วัฒนวงศ์คีรี อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษประจำสำนักปลัดกระทรวงกลาโหม ได้เดินทางมาเยี่ยม พ.ต.อ.นพดลในห้องไอซียู ก่อนจะออกมาให้สัมภาษณ์ว่าทางฝ่ายความมั่นคงกำลังตรวจสอบชนิดของกับระเบิดที่คนร้ายใช้ในครั้งนี้และได้มีการหารือพูดคุยกับ พล.ท.วิโรจน์ บัวจรูญ แม่ทัพภาคที่ 4 เกี่ยวกับการปรับแผนการทำงานเรื่อยๆ และเห็นด้วยที่แม่ทัพภาคที่ 4 เสนอให้ มีการนิรโทษกรรมกับผู้หลงผิด เพราะในอดีตก็เคยมีการนิรโทษกรรมและมีบุคคลต่างๆที่รู้ตัวว่าถูกหลอกหรือหลงผิดออกมามอบตัวพร้อมกับให้ความร่วมมือกับภาครัฐ ในการทำงานด้านความมั่นคงมากขึ้น ซึ่งการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องใช้เวลา

ต่อมาเวลา 16.30 น. นายสนธิ เตชานันท์ ผวจ. สงขลา อัญเชิญแจกันดอกไม้พระราชทานเยี่ยมของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เข้าเยี่ยมอาการบาดเจ็บของ พ.ต.อ.นพดล โดยมี ด.ญ.กฤตวรรณ หรือน้องพลอย เป็นผู้รับพระราชทานบริเวณหน้าห้องไอซียู จากนั้น ผวจ.สงขลาได้เข้าไปเยี่ยมและแจ้งให้ พ.ต.อ.นพดลทราบว่ามีแจกันดอกไม้พระราชทานมา ซึ่ง พ.ต.อ.นพดลพยายามยกมือขึ้นไหว้ พร้อมกับเขียนข้อความลงในกระดาษว่า “ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้” และตลอดทั้งวันก็มีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ทั้งทหาร ตำรวจ และประชาชนทยอยเดินทางมาเยี่ยมเป็นกำลังใจเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็รวมทั้ง พล.ท.วิโรจน์ บัวจรูญ แม่ทัพภาคที่ 4 และ พล.ต.ท.เจตนากร นภีตะภัฏ ผบช.ภ.9

โดยแม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวภายหลังจากเยี่ยมอาการของรอง ผบก.ภ.จ.นราธิวาส ว่า ในส่วนของการนิรโทษกรรมแก่ผู้หลงผิดที่เข้าไปร่วมขบวนการกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องคุยกันหลายฝ่ายและคาดว่าจะต้องมีการประชุมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่กรุงเทพฯ คาดว่าสภาความมั่นคงแห่งชาติจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุม ซึ่งข้อมูลหรือมาตรการต่างๆต้องรอผลการประชุมว่าจะพิจารณาออกมาในรูปแบบไหน ในส่วนการทำงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ได้สั่งการให้แต่ละหน่วยเพิ่มความระมัดระวังและปรับยุทธวิธีให้เข้ากับแต่ละพื้นที่และสถานการณ์ ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่สามารถจับกุม ตรวจค้นและยึดของกลางจากกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบได้มาก ย่อมเป็นธรรมดาที่คนร้ายต้องการเอาคืนและเป้าจะอยู่ที่เจ้าหน้าที่เป็นหลัก ถือเป็นส่วนหนึ่งในการตอบโต้ของคนร้าย

“ส่วนแผนการปรับกำลังเพื่อความเหมาะสมในการทำงานของแต่ละพื้นที่และเหตุการณ์ อยู่ในการตัด สินใจของ พล.ต.สำเร็จ ศรีหร่าย ผบ.พตท. ส่วนเรื่องการดูแลคุ้มครองขบวนรถไฟจากสถานีรถไฟยะลา ไปสิ้นสุดที่สถานีรถไฟ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส นั้นได้มอบให้แต่ละหน่วยในพื้นที่ดูแลกวดขัน คาดว่าภายในวันหรือสองวันนี้รถไฟขบวนเส้นทางดังกล่าวก็จะสามารถให้ บริการได้เป็นปกติ ส่วนเรื่องที่มีกระแสออกมาเรียกร้องให้ประกาศเคอร์ฟิวครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัด คือ ปัตตานี นราธิวาส ยะลา และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา นั้น ยังไม่ได้ตัดสินใจ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น” แม่ทัพภาคที่ 4 สรุป

ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์

Valid XHTML 1.0 Transitional Valid CSS!
ทะเบียนพาณิชย์อีเลคทรอนิคส์ เลขที่ 8373549000215