สยองด.ญ.วัย 5 ขวบ ลูกสาวพ.ต.ต. เจอประตูเหล็กอัลลอยหน้าบ้านตัวเอง หลุดทับอย่างจังสลบเหมือดคาที่ แม่แทบหัวใจวาย พาลูกส่งร.พ.เข้ารักษาชีวิตในห้องไอซียู ผลการเอกซเรย์ น้ำหนักประตูร่วม 100 ก.ก.ทับจนเลือดออกในสมองไม่หยุด พร้อมกับอาการสมองบวม ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา นายตำรวจผู้เป็นพ่อจี้เจ้าของหมู่บ้านจัดสรรรับผิดชอบ โวยสร้างบ้านไม่ได้มาตรฐาน มีปัญหาเยอะแยะไปหมด ส่วนประตูปัญหา เกิดจากเชื่อมเหล็กไว้เพียงบางๆ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 เม.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากพ.ต.ต.ชัชพงษ์ พงษ์สุวรรณ์ พนักงานสอบสวน(สบ2) สภ.อ.เมืองขอนแก่น วัย 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 535/1 หมู่บ้านแก่นทองธานี 2 ถ.มิตรภาพ ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่นว่า ด.ญ.สิริวิมล พงษ์สุวรรณ์ หรือน้องเพียวเพียว ลูกสาววัย 5 ขวบ นักเรียนชั้นอนุบาล 3 ร.ร.พระกุมารเยซู จ.ขอนแก่น ถูกประตูรั้วเหล็กอัลลอยหน้าบ้านพัก ภายในหมู่บ้านจัดสรรแก่นทองธานี 2 ตั้งอยู่หน้าค่าย ร.8 ล้มทับหน้าหงาย ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนสมองบวม ปอดข้างขวาช้ำ นัยน์ตาช้ำบวม ต้องนอนอยู่ห้องไอซียู
ผู้สื่อข่าวได้ไปที่บ้านหลังเกิดเหตุ ซึ่งอยู่ภายในหมู่บ้านดังกล่าว พบว่า บ้านหลังเกิดเหตุเป็นบ้านปูน 2 ชั้น มีพ.ต.ต.ชัชพงษ์ พร้อมญาติหลายคนยืนรออยู่ที่หน้าบ้าน พร้อมกับชี้ที่ประตูรั้วเหล็กอัลลอย น้ำหนักกว่า 100 กิโลกรัมขึ้นไป ที่ล้มทับร่างด.ญ.สิริวิมลจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ญาติพี่น้องต้องรีบนำส่งร.พ.ศรีนครินทร์ มข. ให้แพทย์ช่วยเหลือรักษา ส่วนประตูรั้วเหล็กพบว่า มีการอ๊อกเหล็กติดกับเสานิดเดียวเพียง 2 จุด แบบบางๆ ทำให้หักหลุดออกมา
พ.ต.ต.ชัชพงษ์ กล่าวว่า เหตุเกิดเมื่อบ่ายวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา เวลา 16.00 น. ก่อนเกิดเหตุตนกำลังเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก ส่วนนางพรพิมล พงษ์สุวรรณ์ ภรรยาวัย 31 ปี ซึ่งทำงานเป็นพยาบาลวิชาชีพ 7 ร.พ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น ได้ขับรถยนต์ออกไปรับด.ช.สุพัทธ์ หรือน้องไทเกอร์ ลูกชายคนโตวัย 6 ขวบ ที่โรงเรียนสอนเทคควันโดในเขตเทศบาลนครขอนแก่น โดยมีน้องเบนซ์หลานชายวัย 9 ขวบ และด.ญ.สิริวิมลนั่งรถไปด้วย
หลังจากรับลูกชายขึ้นรถแล้ว นางพรพิมลได้ขับรถมุ่งหน้ากลับบ้านพัก และจอดรถที่หน้าบ้าน ด.ช.สุพัทธ์ลงจากรถไปเปิดประตูรั้วเหล็กอัลลอยเดินเข้าบ้านไป ขณะเดียวกันน้องเบนซ์เดินตามนางพรพิมลที่รีบเข้าไปทำอาหารเย็นในบ้าน ส่วนด.ญ.สิริวิมลหรือน้องเพียวเพียวลงรถเป็นคนสุดท้าย มองเห็นประตูรั้วเหล็กหน้าบ้านยังเปิดแง้มไว้ จึงเข้าไปปิดประตูรั้ว ปรากฏว่าประตูเหล็กได้หลุดออกมาทั้งแผง และล้มมาฟาดใส่ร่างน้องเพียวเพียวจนหน้าหงาย พร้อมกับล้มทับร่างเข้าใส่ศีรษะเสียงดังสนั่น นางพรพิมลได้ยินเสียงประตูล้มรีบวิ่งออกมาจากห้องครัว มองไปเห็นน้องเพียวเพียวถูกประตูรั้วเหล็กอัลลอยล้มทับร่างตกใจสุดขีด รีบวิ่งไปยกเอาประตูรั้วเหล็กออกจากร่างลูกสาวที่นอนสลบเหมือดไม่ได้สติ พาไปวางไว้ที่สวนหน้าบ้านแทน แล้วรีบนำลูกสาวขึ้นรถส่งโรงพยาบาลเวชประสิทธิ์ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด
พ.ต.ต.ชัชพงษ์กล่าวว่า เบื้องต้นทางคณะแพทย์ได้ใส่ท่อช่วยหายใจ ก่อนส่งรักษาตัวต่อที่ห้องซีซียู ภายในหออภิบาลผู้ป่วยโรคหัวใจเด็ก ร.พ.ศรีนครินทร์ ที่มีอุปกรณ์การแพทย์พร้อมกว่าในเวลาต่อมา อาการน้องเพียวเพียวนอนไม่ได้สติมาโดยตลอด จากการเอกซเรย์สมองพบว่ามีเลือดในสมองไหลออกอย่างต่อเนื่อง สมองบวม เกิดเลือดอุดตันทางเดินน้ำในสมอง ทำให้ความดันในสมองผิดปกติ ส่งผลให้ปอดซีกขวาช้ำมากจนตาข้างขวาเหล่ ทางคณะแพทย์ มีน.พ.อำนาจ กิจควรดี เป็นแพทย์เจ้าของไข้ได้ให้การรักษาอย่างสุดความสามารถ จนกระทั่งเวลา 02.00 น.วันที่ 20 เม.ย. น้องเพียวเพียวมีปฏิกิริยาตอบรับเริ่มรู้สึกตัว สามารถลืมตาขึ้นมามองเห็นคนที่มาเฝ้าดูอาการข้างเตียงได้ แต่อาการยังไม่พ้นขีดอันตราย ต้องเฝ้าดูอาการเป็นลำดับต่อไป
พ.ต.ต.ชัชพงษ์ กล่าวว่า ตนต้องการให้เจ้าของโครงการหมู่บ้านจัดสรรรับผิดชอบ บ้านนี้ตนซื้อเพิ่งเข้ามาอยู่ได้ 4 เดือน แต่มีปัญหาตลอด ทั้งเรื่องหลังคาบ้านรั่ว พื้นห้องครัวทรุด แจ้งไปยังเจ้าของโครงการหมู่บ้านก็รับเรื่องไว้ แล้วให้ช่างมารื้อฝ้าเพดานออกเพื่อซ่อมแซมปรับปรุง แต่จนป่านนี้เวลาผ่านไปเกือบ 2 เดือน ยังไม่มาดำเนินการให้แล้วเสร็จ เพดานยังรื้อเปิดโล่งอยู่ กระทั่งมาเกิดเหตุประตูรั้วเหล็กอัลลอยล้มทับลูกสาว เนื่องจากความสะเพร่าของเจ้าของโครงการ ไม่ก่อสร้างประตูรั้วให้แข็งแรงมั่นคง ไม่ได้มาตรฐานจนเกิดเหตุดังกล่าว
หลังรับร้องเรียน ผู้สื่อข่าวได้ไปดูอาการด.ญ.สิริวิมล ที่ร.พ.ศรีนครินทร์ พบนางพรพิมล มารดา เฝ้าดูอาการลูกสาวอย่างใกล้ชิด โดยน้องเพียวเพียวนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยในสภาพต้องใส่ท่อเครื่องช่วยหายใจอยู่ตลอดเวลา มีบาดแผลที่บริเวณศีรษะและใบหน้า ต้องใช้ผ้ากอซพันรอบศีรษะ และตามลำตัวแขน ขามีรอยบวมช้ำ และตาข้างขวาเหล่อย่างเห็นได้ชัด
นางพรพิมล เล่าว่า น้องเพียวเพียวกำลังจะเปิดประตูบ้าน ประตูอัลลอยที่มีน้ำหนักมากก็ล้มลงมาทับ จนคนในบ้านได้ยินเสียง จึงวิ่งออกมาดู เห็นลูกในสภาพหงายท้อง มีประตูทับอยู่ข้างบน ตนพยายามจะยกประตูขึ้น แต่ไม่สามารถยกไหว จึงเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโครงการเข้ามาช่วย จนสามารถยกประตูขึ้นมาได้ ทั้งนี้เหล็กยึดคานบนประตูบ้านเคยหลุดแล้วครั้งหนึ่ง ทางโครงการได้ซ่อมให้แต่ไม่แข็งแรง และได้แจ้งทางโครงการก็ไม่ได้รับความสนใจ จึงเรียกร้องให้โครงการแสดงความรับผิดชอบ ไม่เช่นนั้นจะดำเนินคดีตามกฎหมาย
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์