แหล่งรวม ธุรกิจ บริษัท ห้างร้าน และ ข้อมูล การท่องเที่ยว ในแถบ อันดามัน
 
เข้าสู่ระบบ G! Builder
เลือกจังหวัด
ข่าวสาร ข่าวทั่วไป ภายในประเทศ

โจรป่วนใต้ฆ่าอุกอาจ ยิงหัวตร. 2ศพคาตลาดนัด ( ข่าวทั่วไป )

ภาพประกอบ ข่าวสาร ข่าวทั่วไป : โจรป่วนใต้ฆ่าอุกอาจ ยิงหัวตร. 2ศพคาตลาดนัด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.30 น. วานนี้ (24 มี.ค.) ร.ต.ท.สุระชัย ขำทับน้ำ ร้อยเวร สภ.อ. บาเจาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ รับบาดเจ็บ 2 นาย ภายในตลาดนัดต้นไทร ริมถนนเพชรเกษม สายนราธิวาส-ปัตตานี หมู่ 1 ต.ปะลุกาสาเมาะ ไปสอบสวนที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.สมชาย สวัสดิศักดิ์ ผกก.สภ.อ.บาเจาะ พ.ต.ท.สมชาย พนมอุปการ รอง ผกก. (สส.) ร.ต.อ.สานิตย์ สุวรรณโณ หัวหน้า สภ.ต.ปะลุกาสาเมาะ กำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่วิทยาการ จ.นราธิวาส  

บริเวณพื้นหน้าแผงขายข้าวโพดต้มในตลาดนัดมีกองเลือดและปลอกกระสุนปืน .45 ตกอยู่ 2 ปลอก หัว กระสุนชนิดเดียวกัน 2 หัว และหัวกระสุนปืน .38 อีก 1 หัว ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกยิง พลเมืองดีช่วยนำส่ง รพ. บาเจาะ แต่เสียชีวิตระหว่างทางทั้งสองนาย ทราบชื่อคือ ส.ต.ต.ธีระยุทธ ยังสังข์ อายุ 30 ปี และ ส.ต.ต.อัศวิน ไชยศักดิ์ อายุ 28 ปี ทั้งคู่มีตำแหน่งเป็น ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.ต.ปะลุกาสาเมาะ ถูกยิงที่ศีรษะทั้ง 2 นาย 

สอบสวนทราบว่า ขณะตำรวจทั้ง 2 นาย เดินรักษาความปลอดภัยให้กับชาวบ้านที่มาซื้อสินค้าและพ่อค้าแม่ค้าภายในตลาด จังหวะที่เดินผ่านแผงขายข้าวโพดต้ม ถูกคนร้าย 2 คนซึ่งเดินปะปนกับชาวบ้านได้ตามประกบ จังหวะเผลอชักปืน .45 กับปืน .38 คนละกระบอก จ่อยิงศีรษะทั้งสอง 2-3 นัด จนเหยื่อร่างทรุดฮวบลงกองกับพื้น จากนั้น 2 โจรได้คว้าเอาปืน 9 มม.ของ ส.ต.ต.ธีระยุทธ กับปืน .38 ของ ส.ต.ต.อัศวิน ที่พกติดเอววิ่งหลบหนีไป ท่ามกลางความตกตะลึงของชาวบ้านร่วม 100 คน นอกจากนี้ กระสุนปืนของคนร้ายยังไปถูกนางอัสนะ ซาโด อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 182 หมู่ 5 ต.ลุโบะสาวอ ได้รับบาดเจ็บไปด้วย  

ส่วน จ.ยะลา ร.ต.ต.วิรกิจ แก้วนวลจริง ร้อยเวร สภ.อ.เมืองยะลา พ.ต.ท.สักรินทร์ บำเพ็ญสมัย รอง ผกก. (ป.) พ.ต.ท.จิรสิทธิ์ ลอแม รอง ผกก.(สส.) พร้อมกำลังไปสอบสวนเหตุคนร้ายยิงถล่มปั๊มน้ำมัน 2 แห่งที่ตลาดสามแยกบ้านเนียง หมู่ 4 ต.เปาะเส้ง จุดแรกคือปั๊มเอสโซ่ตั้งอยู่ริมถนนสายยะลา-บ้านเนียง พบหัวจ่ายน้ำมันกับกระจกสำนักงานถูกยิงได้รับความเสียหาย ห่างกันประมาณ 50 เมตร เป็นปั๊มซัสโก ถูกยิงที่หัวจ่ายน้ำมันและกระจกสำนักงานเสียหายเช่นกัน 

สอบปากคำนายแวอับดุลรอซะ แวยูโซ๊ะ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 83-87 ถนนโรงเหล้า อ.เมืองปัตตานี เจ้าของปั๊?มเอสโซ่ ให้การว่า ปิดปั๊มตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของเย็นวันที่ 23 มี.ค. กระทั่งตอนเช้ามาเปิดปั๊มพบร่องรอยถูกยิง คาดว่าคนร้ายลงมือยิงถล่มทั้งสองปั๊มช่วงกลางคืนที่ผ่านมา เชื่อเป็นฝีมือแนวร่วมโจรใต้สร้างสถานการณ์ 

อีกรายกลางดึกวันเดียวกัน ร.ต.ท.สัญชัย สินค้า ร้อยเวร สภ.อ.กาบัง จ.ยะลา พร้อมกำลังไปสอบสวนคนถูกยิงบาดเจ็บเข้ารักษาตัวที่ รพ.กาบัง ทราบชื่อนายหามะ สาแม อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109 หมู่ 8 บ้านคลองชิง ต.บาละ ถูกยิงด้วยปืนอาก้าที่แขนซ้ายกระดูกหัก บาดเจ็บสาหัส สอบสวนทราบว่า ขณะที่นายหามะขี่ จยย.จากละหมาดจะกลับที่พัก ก่อนถึงบ้านเพียงเล็กน้อยถูกคนร้ายซุ่มยิงแล้วหลบหนีไป

ด้าน พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ โฆษกกองทัพบก ในฐานะ หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ พตท.43 เปิดเผยว่า หลังจากการประกาศเคอร์ฟิวพื้นที่ อ.ยะหา อ.บันนังสตา จ.ยะลา ทำให้สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 66 ราย ในจำนวนนี้กว่า 10 คน ให้การรับสารภาพหมดแล้วว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความรุนแรงในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะเหตุการณ์ ยิงรถตู้โดยสารเบตง-หาดใหญ่ เหตุระเบิดปูพรม 56 จุดในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนใต้เมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา และลอบวางระเบิดชุด รปภ.ครูอีกหลายพื้นที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ พตท. 43 กล่าวอีกว่า ส่วนผู้ต้องหาที่ยังให้การปฏิเสธ เนื่องจากยังขาดหลักฐานที่ชัดเจนทำให้แบ่งรับแบ่งสู้ เจ้าหน้าที่ต้องเร่งหาหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อพิสูจน์ความผิดให้ได้ เนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหาเหล่านี้หากไม่มีหลักฐานมัดตัวจะไม่ยอมรับสารภาพอย่างเด็ดขาด ในทางตรงกันข้ามหากต้องจำนนด้วยหลักฐานที่ชัดเจนผู้ต้องหาก็จะให้การแบบหมดเปลือก “ผู้ต้องหา 66 ราย ที่ควบคุมตัวไว้ จากการตรวจสอบพบว่ามีทั้งหมด 4 กลุ่ม ประกอบด้วย 1. กลุ่มอูลามะ (ผู้นำศาสนาที่ชักจูง) 2. กลุ่มแกนนำแนวร่วม 3. ชุดปฏิบัติ การอาร์เคเค และ 4. กลุ่มเปอร์มูดอร์ ทำหน้าที่ตัดต้นไม้ขวางถนน โปรยตะปู แจกใบปลิว ซึ่งทั้ง 4 กลุ่ม มีความเกี่ยวโยงกันทั้งสิ้น โดยเฉพาะการแตะมือก่อเหตุข้ามพื้นที่เพื่อหลบการตรวจสอบ” พ.อ.อัครกล่าว 

โฆษกกองทัพบกกล่าวด้วยว่า สำหรับอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ตรวจยึดได้ ในกลุ่มอาวุธปืนพบว่าเป็นปืนที่ถูกปล้นมาจากค่ายทหารกองพันพัฒนาที่ 4 กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ส่วนอาวุธอื่นๆ เช่น ระเบิดชนิด ต่างๆ ปุ๋ยเคมี เป็นการผลิตขึ้นมาเองทั้งสิ้น โดยหาวัสดุที่ซื้อหาได้ตามท้องตลาด ขณะนี้เจ้าหน้าที่พยายามขยายผลการซุกซ่อนอาวุธตามที่ต่างๆแล้ว เพื่อป้องกันแนวร่วมที่ยังหลงเหลืออยู่ในพื้นที่ไหวตัวแอบเปลี่ยนที่ซุกซ่อนใหม่ สำหรับในช่วงใกล้เทศกาลสงกรานต์ได้กำชับเจ้า หน้าที่ให้เข้มงวดกวดขันเป็นพิเศษ ส่วนในพื้นที่เคอร์ฟิว ขณะนี้ถูกเจ้าหน้าที่ตรึงกำลังคุมเข้มจนฝ่ายตรงข้ามหยุดการเคลื่อนไหวชั่วคราว ทำให้มีความเป็นไปได้ที่แนว ร่วมทะลักออกนอกพื้นที่ใกล้เคียงแทน จึงต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด

นายเมธี กาญจนภูวะ นอภ.บันนังสตา จ.ยะลา กล่าวถึงสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่หลังมีการประกาศเคอร์ฟิว ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม ที่ผ่านมาว่า สามารถลดความรุนแรงในพื้นที่ลง เนื่องจากสามารถควบคุมการเคลื่อนไหวอย่างอิสระของฝ่ายตรงข้ามได้ ขณะนี้พบว่าแนวร่วมหัวรุนแรงจำนวนมากได้เดินทางออกนอกพื้นที่ไปแล้ว เหลือเพียงบางส่วนกับเยาวชนที่เพิ่งเข้าขบวนการไม่กี่คน ฝ่ายปกครองได้ใช้งานมวลชนในการปรับทัศนคติของคนกลุ่มนี้เพื่อไม่ให้ถูกชักจูงและปลุกปั่นให้หลงผิดอีกต่อไป

ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์

Valid XHTML 1.0 Transitional Valid CSS!
ทะเบียนพาณิชย์อีเลคทรอนิคส์ เลขที่ 8373549000215