จากคดีคนร้ายกระหน่ำยิง น.ส.สวิรโควา ลูโบฟ อายุ 25 ปี และ น.ส.ซือเมร ทาทิอานา อายุ 30 ปี แหม่มสาวชาวรัสเซีย ตายสยองคาเตียงผ้าใบที่ชายหาดจอมเทียน หน้าโรงแรมอนันทยา รีสอร์ท หมู่ 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งตำรวจได้จับกุมนายอนุชิต หรือหนึ่ง ล้ำเลิศ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33/3 หมู่ 4 ต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี คนร้ายไว้ได้ สอบสวนรับสารภาพว่าต้องการชิงทรัพย์ฯ แต่ผู้ตายหันมาเห็นหน้าร้องโวยวาย ประกอบกับเกรงผู้ตายจำหน้าได้ เลยกระหน่ำยิงร่างพรุนเสียชีวิต แต่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการ ผบ.ตร. ยังคาใจไม่เชื่อว่าคนร้ายต้องการชิงทรัพย์ พร้อมกำชับให้เร่งขยายผลต่อ และเร่งกวาดล้างมาเฟียในเมืองพัทยาให้สิ้นซากนั้น
ความคืบหน้าคดีฆ่าโหดแหม่มรัสเซียเมื่อเวลา 09.30 น. วานนี้ (4 มี.ค.) พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.ภ.2 พร้อมชุดสืบสวนสอบสวนคดี เบิกตัวนายอนุชิต ล้ำเลิศ ผู้ต้องหา จากห้องควบคุม สภ.ต.พัทยา เพื่อนำไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณชายหาดจอมเทียน จุดเกิดเหตุ โดยมีตำรวจกว่า 100 นาย คอยดูแลความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด มีสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ตลอดจนประชาชนและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ มาดูเหตุการณ์จำนวนมาก
การทำแผนประทุษกรรมครั้งนี้เริ่มตั้งแต่นายอนุชิต ขี่รถผ่านจุดที่ผู้ตายทั้ง 2 นอนเล่นบนเตียงผ้าใบริมชายหาด แล้ววกรถเข้าไปจอดใต้ต้นหูกวาง ห่างจุดเกิดเหตุ 15 เมตร พร้อมชักปืนขึ้นลำ ปรี่เข้าไปหาแหม่มสาวรัสเซีย ก่อนจะยิงขู่ไป 1 นัด น.ส.สวิรโควาหันหน้ามองไปที่นายอนุชิตแล้วร้องโวยวาย นายอนุชิตฆาตกรเหี้ยมจึงกระหน่ำยิงใส่อีก 5 นัดซ้อน จน น.ส.สวิรโควา กับ น.ส.ซือเมรตายคาที่ เพราะกลัวผู้ตายจำหน้าได้ โดยใช้เวลาทำแผน 30 นาที จึงแล้วเสร็จ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายอนุชิตกลับไปควบคุมที่โรงพัก
นายอนุชิต ล้ำเลิศ โจรอำมหิต เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุเมาเหล้าและเมายา ขี่รถตระเวนหาเหยื่อพบผู้ตายทั้ง 2 นอนอยู่บนเตียงผ้าใบ จึงเข้าไปชิงทรัพย์ แต่เหยื่อร้องโวยวายและเกรงจำหน้าได้ จึงลงมือสังหารแล้วเผ่นหนีโดยไม่ทันแตะต้องทรัพย์สินของผู้ตาย ก่อนจะนำปืนไปฝากไว้กับเพื่อนและหนีไปกบดานย่านนิคมอุตสาหกรรมบ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พร้อมกับย้ำว่าได้ลงมือก่อเหตุเพียงลำพัง ไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง หรือบงการมาฆ่า
ทางด้าน พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.ภ.2 เปิดเผยว่า ตามที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการ ผบ.ตร. ไม่เชื่อว่าเป็นการฆ่าชิงทรัพย์ และสั่งให้สอบสวนขยายผลเพิ่มนั้น ในส่วนนี้ตำรวจก็ยังไม่วางมือ และได้จับกุมผู้ให้การช่วยเหลือคนร้ายกระทำผิด และต้องสอบประวัติแหม่มรัสเซียอย่างละเอียดประกอบด้วย ซึ่งผู้ต้องหายังยืนยันว่าต้องการจะชิงทรัพย์ แต่ด้วยความตกใจ และกลัวผู้ตายจำหน้าได้ จึงลงมือฆ่าเพื่อปิดปาก ในชั้นนี้ได้ตั้งข้อหานายอนุชิต ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พยายามชิงทรัพย์ และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งมีโทษถึงประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต
ผบช.ภ.2 กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังได้จับกุมนายทินกร มีกลี่ อายุ 21 ปี เจ้าของปืน กับนายมลธน หรือบัง บุญมี อายุ 30 ปี เจ้าของรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ ฐานมีส่วนช่วยเหลือให้คนร้ายกระทำความผิด และสั่งการให้ พ.ต.ท.ชนพัฒน์ นวลักษณ์ รอง ผกก.สส.สภ.ต.พัทยา เร่งรวบรวมหลักฐานส่งฟ้องอัยการโดยเร็ว พร้อมกำชับให้ทางโรงพักควบคุมผู้ต้องหาอย่างใกล้ชิดเนื่องจากผู้ต้องหาเริ่มมีอาการเคร่งเครียด เกรงจะฆ่าตัวตาย
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์