แหล่งรวม ธุรกิจ บริษัท ห้างร้าน และ ข้อมูล การท่องเที่ยว ในแถบ อันดามัน
 
เข้าสู่ระบบ G! Builder
เลือกจังหวัด
ข่าวสาร ข่าวทั่วไป ภายในประเทศ

ยังไม่เชื่อ ฆ่าแหม่ม ชิงทรัพย์ ( ข่าวทั่วไป )

ภาพประกอบ ข่าวสาร ข่าวทั่วไป : ยังไม่เชื่อ ฆ่าแหม่ม ชิงทรัพย์

ภายหลังที่ชุดคลี่คลายคดีฆ่าโหดสะเทือนขวัญ 2 สาวรัสเซีย น.ส.สวิรโควา ลูโบฟ อายุ 25 ปี กับ น.ส. ซือเมร ทาทิอานา อายุ 30 ปี ตายคาเตียงผ้าใบชายทะเลหาดจอมเทียนหน้าโรงแรมอนันทยา รีสอร์ต ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี บุกรวบตัวนายอนุชิต หรือหนึ่ง ล้ำเลิศ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33/3 หมู่ 4 ต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี อาชญากรตัวฉกาจในเมืองพัทยา มือสังหารและตรวจยึดปืน 9 มม.ทูตสังหารที่นำไปฝากนายทินกร มีคลี่ เพื่อนสนิท ส่วนปมสังหาร นายอนุชิตรับสารภาพอ้างจะชิงทรัพย์ แต่เหยื่อขัดขืนและเกรงจะจำหน้าได้เลยจ่อยิงทิ้งนั้น 

ต่อมาเวลา 10.00 น. วานนี้ (3 มี.ค.) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการ ผบ.ตร. พล.ต.ท.จงรัก จุฑานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. เดินทางโดยเฮลิปคอปเตอร์มาลงที่โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ตพัทยา และไปที่ศูนย์ บัญชาการคลี่คลายคดีฆ่า 2 แหม่มรัสเซียที่โรงแรมอนันทยา รีสอร์ต ชายหาดจอมเทียน โดยมี พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.ภ.2 นายประชา เตรัตน์ ผวจ.ชลบุรี นายนิรันดร์ วัฒนศาสตร์สาธร นายกเมืองพัทยา ตำรวจในสังกัดภูธรภาค 2 สังกัดสอบสวนกลางให้การต้อนรับ 

ขณะเดียวกันมีบรรดานักธุรกิจ ผู้ประกอบการโรงแรม สมาคมท่องเที่ยวในเมืองพัทยาและประชาชนกว่า 300 คนได้มอบกระเช้าดอกไม้ขอบคุณรักษาการ ผบ.ตร.ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีได้ถือเป็นการกู้ภาพพจน์เมืองพัทยากลับคืนมา โดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวกับคณะผู้มาขอบคุณว่า ตั้งใจจะมาพัทยาตั้งแต่วันแรกที่ได้รับรายงาน แต่ไม่มีเวลาเพราะต้องลงไปพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สำหรับคดีนี้ถือว่าคนร้ายมีความโหดเหี้ยมและอุกอาจมาก ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของประเทศเป็นอย่างมาก

“แม้ว่าตำรวจจับกุมคนร้ายได้ แต่ผมยังไม่พอใจ เชื่อว่าน่าจะมีเบื้องหลังมากกว่านี้ ซึ่งผมจะดูแลคดีด้วยตนเอง หากมีความผิดพลาดเกิดขึ้น ผู้บัญชาการภาค 2 รวมไปถึง ผกก.ต้องรับผิดชอบ และถึงเวลาแล้วที่ผมต้องลงมาจัดการกับแก๊งมาเฟียที่ฝังรากลึกอยู่ในเมืองพัทยาเสียที เพราะที่ผ่านมาได้สร้างความเดือดร้อนให้กับนักท่องเที่ยวมาก ต้องจัดระบบและวางมาตรการป้องกันดูแลชีวิต ทรัพย์สินของประชาชนและนักท่องเที่ยวให้มีความปลอดภัย รวมทั้งจะมาดูมาตรการป้องกันและปราบปรามของตำรวจในพื้นที่ด้วย หากยังหย่อนยานในการปฏิบัติหน้าที่ ผมจะจัดการเองทั้งระบบ” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวย้ำ

จากนั้นรักษาการ ผบ.ตร.ได้เข้าประชุมพร้อมเรียกชุดสืบสวนและนายตำรวจที่เกี่ยวข้องในคดีเข้าประชุมโดยมี ผวจ.ชลบุรี และนายกเมืองพัทยาเข้าร่วมหารือด้วย หลังประชุมเสร็จ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ และคณะนำตัวนายอนุชิต หรือหนึ่ง ล้ำเลิศ ผู้ต้องหามาแถลงข่าวโดยรักษาการ ผบ.ตร.กล่าวว่า จากการรายงานของเจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้องยืนยันได้ว่านายอนุชิตเป็นผู้ก่อเหตุจริง พร้อมตรวจยึดของกลางปืน 9 มม. ที่นำไปฝากขายไว้กับเพื่อน จากการตรวจพิสูจน์หัวกระสุนกับปลอกกระสุนพบเป็นกระบอกเดียวกัน ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ตรวจยึดก็เป็นคันเดียวกันกับที่ใช้ก่อเหตุ เบื้องต้นได้ตั้งข้อหานายอนุชิต ว่าพยายามชิงทรัพย์และฆ่าคนตายโดยเจตนา ส่วนนายทินกร มีคลี่ เพื่อนที่รับฝากปืนต้องถูกดำเนินคดี รวมทั้งให้ตามตัวนายบัง ไม่ทราบนามสกุล ที่ให้ยืมรถจักรยานยนต์มาใช้ก่อเหตุมาสอบปากคำด้วย

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวอีกว่า สำหรับคำรับสารภาพของนายอนุชิตว่าต้องการชิงทรัพย์เหยื่อนั้น ยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากพฤติกรรมการลงมือค่อนข้างอุกอาจ อีกทั้งช่วงนั้นผู้ตายมาลงเล่นน้ำคงไม่นำทรัพย์สินติดตัว คาดว่าน่าจะมีเบื้องหน้าเบื้องหลังอย่างแน่นอน ส่วนจะเป็นใครนั้นต้องเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องขยายผล ขณะนี้ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.ภาค 2 รับไปดำเนินการและต้องรายงานให้รับทราบโดยเร็ว และถือว่าเป็นการพิสูจน์ฝีมืออีกครั้ง หากไม่มีความคืบหน้าก็ต้องรับผิดชอบ เพราะโดยส่วนตัวแล้วถือว่าคดีนี้แม้จะจับคนร้ายได้แต่ไม่น่าภูมิใจ เพราะความจริงต้องไม่ให้มีเหตุเกิดขึ้น ทั้งเรื่องฉกชิงวิ่งราว ข่มขืน และทำร้ายร่างกาย ในฐานะเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดจะปรับปรุงแก้ไขเกี่ยวกับกำลังพลใหม่ทั้งหมด ไล่ ตั้งแต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจภูธร และสถานีในพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะพวกที่ชอบใส่เกียร์ว่างไม่ทำงานคงจะมีการปรับเปลี่ยน ไม่ได้เน้นที่คนทำงานเก่ง สืบสวนเก่งที่สามารถติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุได้ แต่ต้องเป็นการบริหารจัดการและมีมาตรการในการป้องกันเหตุที่ดีเป็นสำคัญ 

หลังจากจบการแถลงข่าว พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ พร้อมคณะได้เดินทางไปดูที่เกิดเหตุ จุดสังหารแหม่มรัสเซียทั้ง 2 คน ท่ามกลางนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติกว่า 200 คน มามุงดูด้วยความสนใจ ขณะเดียวกัน มีกลุ่มไทยมุงจำนวนหนึ่งได้ร้องตะโกน “อัศวิน สู้ สู้” จนตำรวจและทหารกว่า 300 นาย ที่มารักษาความสงบต้องคอยกันไม่ให้เข้าใกล้จุดเกิดเหตุ หลังตรวจที่เกิดเหตุเสร็จ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์และคณะเดินทางกลับทันที สำหรับการทำแผนประกอบคำรับสารภาพตามกำหนดการจะทำแผนในวันเดียวกันนี้ แต่เนื่องจากประชาชนมีจำนวนมากเกรงจะเกิดเหตุชุลมุน จึงต้องเลื่อนการทำแผนออกไปก่อน

ทางด้าน พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.ภ.2 กล่าวว่า หลังการจับกุมผู้ต้องหา ได้สั่งการให้ตำรวจ สภ.ต.พัทยา ขยายผลต่อว่ามีขบวนการร่วมก่อเหตุหรือไม่ พร้อมทั้งให้ยื่นคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนผู้ต้องหายังให้การยืนยันว่าลงมือทำคนเดียว ประกอบกับวันเกิดเหตุได้เสพยาบ้า และดื่มสุราจำนวนมาก และเป็นชนวนของการพยายามชิงทรัพย์แล้วฆ่าเหยื่อ “ผมจะเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมอย่างเร่งด่วน รวมทั้งกลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาอาศัยในประเทศไทยแล้วทำตัวเป็นมาเฟีย และกลุ่มคนไทยทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลจะเร่งกวาดล้างให้เร็วที่สุด เพื่อความสงบสุขของประชาชน” ผบช.ภ.2 กล่าว

ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์

Valid XHTML 1.0 Transitional Valid CSS!
ทะเบียนพาณิชย์อีเลคทรอนิคส์ เลขที่ 8373549000215