ผ่านพ้นไปเรียบร้อยแล้วสำหรับพิธีพระราชทานเพลิงศพอดีตนายตำรวจมือปราบชื่อดัง “พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช” ซึ่งจัดขึ้นที่เมรุชั่วคราว วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมืองนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 22 ก.พ. ที่ผ่านมา ท่ามกลางคลื่นมนุษย์นับแสนคนที่เบียดเสียดแห่กันไปแย่งรับวัตถุมงคลรูปเหมือน พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช จนหวิดเหยียบกันตายกลายเป็นโศกนาฏกรรมหมู่ ทำให้เจ้าภาพต้องยุติการแจกวัตถุมงคลลง กลางคัน เพื่อป้องกันเหตุความวุ่นวาย โดยนำวัตถุมงคลใส่รถยนต์ของตำรวจที่ใช้ควบคุมตัวผู้ต้องหาของ สภ.อ.เมืองนครศรีธรรมราช ไปเก็บไว้ที่โรงพักชั่วคราว ทำให้ประชาชนบางส่วนทยอยเดินทางกลับด้วยความผิดหวัง ในขณะที่บางส่วนยังคงปักหลักอยู่ภายในบริเวณวัดพระ มหาธาตุวรมหาวิหาร อย่างไม่ย่อท้อ เพื่อรอรับวัตถุมงคล
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าว่า หลังจากที่ต้องประสบปัญหาความโกลาหลอลหม่านจากฝูงชนมาตลอดทั้งวันของวันที่ 22 ก.พ. จนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาถึงเวลา 01.00 น. วันที่ 23 ก.พ. เจ้าหน้าที่ได้ทำพิธีเผาจริงศพ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช โดยระหว่างเผาศพกลุ่มชาวบ้านราว 3-4 หมื่นคนที่ยังปักหลักอยู่ภายในบริเวณวัดและนอกกำแพงวัดต่างเฝ้าจับตามองไปที่เมรุตาแทบไม่กะพริบ พร้อมกับวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนานา แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ต่อมาเวลา 04.00 น. ทางเจ้าภาพได้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงว่าจะนำวัตถุมงคลที่เหลือจากการแจกเมื่อช่วงกลางวันออกมาแจกให้กับชาวบ้านอีกครั้ง และขอให้ชาวบ้านอยู่ในความสงบไม่ต้องแย่งชิงกัน รวมทั้งให้เข้าแถวเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเหมือนในช่วงกลางวันขึ้นมาอีก เมื่อชาวบ้านได้ยินเช่นนั้นต่างแสดงสีหน้าดีใจพากันเข้าแถว โดยแต่ละคนไม่แสดงอาการถึงความอ่อนล้าออกมาให้เห็นแต่อย่างใด จากนั้นไม่นานรถยนต์ได้ บรรทุกวัตถุมงคลจากโรงพักมาถึงบริเวณวัด พร้อมกับแจกจ่ายให้กับชาวบ้าน จนกระทั่งถึงเวลา 06.00 น.ของวันเดียวกันการแจกวัตถุมงคลได้เสร็จสิ้นลง ชาวบ้านได้ รับแจกกันถ้วนหน้าทุกรายและพากันทยอยเดินทางกลับ โดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใดๆเกิดขึ้น
ต่อมาในตอนเช้าวันเดียวกัน นายณสรรค์ พันธรักษ์ราชเดช บุตรชายคนโตของ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช พร้อมด้วยญาติพี่น้องช่วยกันเก็บกระดูกรวมทั้งขี้เถ้านำใส่ห่อกลับบ้านในซอยราชเดช ถนนราชดำเนิน ตรงข้ามกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช อ.เมืองนครศรีธรรมราช เป็นที่น่าสังเกตว่ากระดูกทุกชิ้นรวมทั้งขี้เถ้าทางเจ้าภาพเก็บกวาดใส่ห่อจนหมดเกลี้ยงแบบไม่หลงเหลือร่องรอยให้เห็น เกรงว่าบรรดาเซียนพระจะฉกฉวยโอกาสนำกระดูกและขี้เถ้าไปทำวัตถุมงคล เนื่องจาก พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ได้ชื่อว่าเป็นจอมขมังเวท และเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวบ้านโดยทั่วไป โดยนายณสรรค์กล่าวว่า กระดูกของ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช จะนำไปเก็บรวมกับกระดูกของมารดาภายในศาลาที่บ้าน ตามคำสั่งเสียของ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ที่ให้ไว้ก่อนจะเสียชีวิต ส่วนขี้เถ้าทางญาติจะนำไปลอยอังคารในทะเลอ่าวไทย แต่ไม่สามารถระบุเวลาและสถานที่ได้ เกรงว่าชาวบ้านจะตามไปเก็บจนกลายเป็นความโกลาหลอีก ตนและญาติทุกคนต้องขอกราบขอบพระคุณพี่น้องประชาชนทั่วประเทศที่มาร่วมงานและศรัทธาในตัว พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุวุ่นวายขึ้น
ทางด้าน พล.ต.ต.สุดใจ ญาณรัตน์ ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า พิธีพระราชทานเพลิงศพ พล.ต.ต. ขุนพันธรักษ์ราชเดช ได้จัดกำลังตำรวจ ทหาร ถวายความปลอดภัยองค์ประธาน รวมทั้งดูแลความปลอดภัยพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ แต่เนื่องจากประชาชนจากทั่วสารทิศมากันเกินคาด ทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้น บางคนทราบว่ามาปักหลักกันตั้งแต่เช้ามืดของวันที่ 22 ก.พ. ตำรวจได้พูดจาทำความเข้าใจกับประชาชน ซึ่งทุกคนก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์