ที่ จ.ปัตตานี เมื่อเวลา 19.15 น. วันที่ 18 ก.พ. เกิดระเบิดขึ้นที่เสาไฟฟ้าแรงสูง ตั้งอยู่ริมถนนสายปัตตานี-ยะลา ตรงข้ามการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคปัตตานี หมู่ 1 ต.ตะลุโบะ อ.เมืองปัตตานี หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบพบเปลวไฟลุกไหม้อย่างรุนแรง โดยเจ้าหน้าที่ใช้ถังดับเพลิงฉีดสกัดไว้ได้ จากการตรวจสอบพบวัตถุต้องสงสัยแขวนไว้ที่เสาไฟฟ้า ห่างจุดแรกประมาณ 20 เมตร เจ้าหน้าที่ใช้ปืนลูกซองยิงทำลาย ตรวจสอบเป็นระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในกล่องเหล็กสี่เหลี่ยม ภายในมีดินระเบิดพาวเวอร์เจล น้ำหนัก 5 กิโลกรัม นอกจากนี้ ยังพบเสาไฟฟ้า ซึ่งอยู่ใกล้กันถูกระเบิดแต่ไม่ได้รับความเสียหาย อย่างไรก็ตาม การลอบวางระเบิดครั้งนี้ ทำให้ไฟฟ้าในตัวเมืองปัตตานีดับทั้งหมด เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฯ ใช้เวลา 3 ชั่วโมง จึงสามารถแก้ไขเข้าสู่ภาวะปกติ
ต่อมาเกิดเหตุคนร้าย 6 คน ใช้รถ จยย. 3 คันขี่เข้ามาบริเวณโชว์รูมเชฟโรเลต ตั้งอยู่พื้นที่หมู่ 3 ต.ปะกาฮารัง อ.เมืองปัตตานี จับตัวนายสุไลมาน ยาเงาะ รปภ. แล้วมัดด้วยสกอตเทป ใช้ปืนอาก้าข่มขู่ไม่ให้ขัดขืนก่อนยิงกระจกโชว์รูมก่อนเข้าไปราดน้ำมันรถยนต์ แล้วจุดไฟเผารถเสียหายประมาณ 10 คัน ก่อนพากันหลบหนีไป จากนั้นคนร้ายยังใช้อาวุธปืนยิงถล่มสถานียุทธศาสตร์รูสะมิแล ต.รูสะมิแล อ.เมืองปัตตานี แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ขณะเดียวกัน คนร้ายอีกกลุ่มได้เผารถพ่วงที่จอดข้างทาง หมู่ 3 ต.บานา วอดทั้งคัน นอกจากนี้ คนร้ายได้โปรยตะปูเรือใบบนถนนสายหลัก และในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี เป็นเหตุให้รถยนต์ประชาชนเสียหายหลายสิบคัน
ต่อมาคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้รถยนต์กระบะจอดบริเวณหน้าสถานียุทธศาสตร์ภูมี ริมถนนสายปัตตานี-นราธิวาส ต.ยามู อ.ยะหริ่ง แล้วใช้อาวุธปืนสงครามถล่มยิง และเกิดปะทะกับเจ้าหน้าที่อย่างรุนแรง ก่อนคนร้ายหลบหนีไปได้โปรยตะปูเรือใบเอาไว้ ส่วน ที่ อ.ยะรัง คนร้ายได้เผาอาคารสำนักงานเมืองโบราณ อ.ยะรัง ได้รับความเสียหายและเผาศาลาที่พักริมทางสายปัตตานี-ยะลาวอดทั้งหลัง ขณะที่ อ.ปะนาเระ คนร้ายได้เผาสำนักงานปลัดตำบลบ้านกลาง หมู่ 1 ต.บ้านกลาง ได้รับความเสียหายพร้อมรถยนต์ จำนวน 1 คัน นอกจากนี้ คนร้ายได้บุกเข้าไปยิงนางเซ็ก แซ่อุ่ย อายุ 82 ปี เสียชีวิตในบ้านเลขที่ 26/1 หมู่ 1 ต.บ้านกลาง และยิงนายบุ้นจิน อายุ 71 ปี กับนางเมาะ แซ่ต่าง อายุ 65 ปี สองสามีภรรยา จากนั้นราดน้ำมันจุดไฟเผาจนเสียชีวิตภายในบ้านพักซึ่งตั้งอยู่ใกล้กัน
ส่วนที่ อ.กะพ้อ เกิดเหตุคนร้ายซุ่มโจมตีชุดลาดตระเวนของทหาร แต่ไม่มีใครได้รับอันตราย ขณะที่ อ.โคกโพธิ์ เกิดเหตุคนร้ายเผาศาลาที่พักบริเวณถนนสายโคกโพธิ์-สะบ้าย้อย หมู่ 3 ต.โคกโพธิ์ พร้อมวางระเบิด 2 ลูก ใกล้ศาลาดังกล่าว จนเกิดระเบิดขึ้นแต่ไม่มีใครได้รับอันตราย อีกจุดที่หมู่ 3 ต.ทุ่งครา คนร้ายเผาบ้านพักภายในสวนของนายนิคม จันทร์จุติ วอดทั้งหลัง และยังได้วางเพลิงเผาโรงงานไทยยูเนียนรับเบอร์ ต.นาประดู่ได้รับความเสียหาย ส่วนที่หมู่ 5 บ้านตุปะ ต.ควนโนรี คนร้ายกราดยิงใส่ชาวบ้านแต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
หลังเกิดเหตุ นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผวจ.ปัตตานีได้นำรถยนต์อออกประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่ไม่ให้ตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งให้ประชาชนพยายามอยู่ในบ้านพักจนกว่าจะผ่านคืนนี้ไป และหากใครที่ออกจากบ้าน ก็ให้พกบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อง่ายต่อการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตาม ยังได้ออกประกาศทางสถานีวิทยุทุกแห่งใน 12 อำเภอ จังหวัดปัตตานี เพื่อขอความร่วมมืออีกด้วย
ที่ จ.ยะลา ในเวลาใกล้เคียงกัน จุดแรกคนร้ายลอบวางระเบิดบริเวณสี่แยกบ้าน มลายูบางกอก เขตเทศบาลนครยะลา เป็นเหตุให้นายมะเย็ง ดีญาติ อายุ 61 ปี และน.ส.ฟารีดะ สาและ อายุ 19 ปี ซึ่งขี่รถ จยย.ผ่านมาถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บ ขณะเดียวกันได้เกิดเหตุระเบิดติดต่อกันขึ้นอีกหลายจุดคือบริเวณหน้า ร.ร.บ้านพงยือไร ต.บันนังสาเรง ร้านมายเวย์คาราโอเกะ ถนนรวมมิตร ห้องอาหารสวนแก้วคาราโอเกะ ถนนจงรักษ์ 3 ร้านสีดาคาราโอเกะ ถนนเทศบาล 4 โรงแรมศรียะลา ถนนไชยจรัส ปั๊มน้ำมันเอสโซ่ หน้า ร.ร.คณะราษฎรบำรุง ปั๊มน้ำมันเอสโซ่ หน้าสถานีดับเพลิงเทศบาลนครยะลา ปั๊มน้ำมันเชลล์หน้า ร.ร.คณะราษฎรบำรุง ศูนย์การค้าโคลีเซียมชั้น 2 สี่แยกถนนสิโรรส ตัดถนนพุทธภูมิวิถี ปั๊มสหขนส่งจำกัด ถนนเทศบาล 4 โรงแรมมายเฮ้าส์ ถนนรัฐคำนึง ธนาคารกรุงเทพ สาขายะลา ถนนพิพิธภักดี ธนาคารกสิกรไทย สาขายะลา ถนนปราจิณ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ถนนยะลา และหน้าโรงแรมเทพวิมาน ถนนศรีบำรุง เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บรวม 22 ราย
สำหรับผู้บาดเจ็บทราบชื่อคือนายพัฒนพงษ์ งามเนตรพงษ์ อายุ 26 ปี ขาซ้ายขาด นางณัฎานุมาศ แสงผึ้ง อายุ 22 ปี นายเอกรัฐ ทวยเดช อายุ 35 ปี นายสุทัศน์ ทุนเพิ่ม อายุ 23 ปี น.ส.เมย์ แสง อายุ 24 ปี น.ส.นิเมาะ หะยีกาเดร์ อายุ 30 ปี นางวีรยา อนันตะ อายุ 41 ปี น.ส.จารุวรรณ จันทรรังสี อายุ 25 ปี น.ส.ฮามีนะ แมเราะ อายุ 23 ปี นายธนาวุฒิ ทิพย์มณฑา อายุ 37 ปี น.ส.ทัศนีย์ จุฬาการ อายุ 32 ปี นายมาโนชญ์ บุตรมงคล อายุ 29 ปี
น.ส.ยุพิน คำเรืองฤทธิ์ อายุ 20 ปี น.ส.ปิยรัตน์ วิบูลย์พันธ์ อายุ 15 ปี น.ส.แอเสาะ เจ๊ะหะ อายุ 24 ปี น.ส. กฤดาพร จันทร์เลิศ อายุ 26 ปี นายศรัณยู กาญจโนภาส อายุ 22 ปี นางเอยูวัน เล อายุ 18 ปี นางอุดม วิธาสี อายุ 54 ปี และนางมณีวรรณ กุลจินต์ อายุ 39 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัยแม่กอเหนี่ยว และกู้ภัยแม่ทับทิม ลำเลียงส่ง รพ.ศูนย์ยะลา
ในจำนวนผู้บาดเจ็บที่อาการสาหัส คือนายพัฒนพงษ์ขาซ้ายขาด นางณัฎานุมาศมีบาดแผลที่หน้าท้อง นายเอกรัฐ ถูกสะเก็ดระเบิดที่หน้าท้อง นพ.วัฒนา วัฒนายากร ผอ.รพ.ศูนย์ยะลา ได้ระดมทีมแพทย์และพยาบาลมาช่วยเหลือผู้บาดเจ็บที่ถูกลำเลียงส่ง รพ.ตลอดเวลา
ต่อมา พล.ต.ต.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผบก.ภ.จ.ยะลา พ.ต.อ.นราศักดิ์ เชียงสุข รอง ผบก. พ.ต.อ.ชัยทัต อินทนูจิตร รอง ผบก. พ.ต.อ.ภูมิเพ็ชร พิพัฒน์เพ็ชรภูมิ ผกก.สภ.อ.เมืองยะลา ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจแยกย้ายกันไปตรวจสถานที่เกิดเหตุ พบว่าจุดระเบิดในมายเวย์คาราโอเกะอยู่ในห้องวีไอพี ก่อนเกิดเหตุมีลูกค้าวัยรุ่น 3 คนเข้ามาใช้บริการแล้วเร่งรีบออกไป เมื่อมีลูกค้ารายใหม่เข้ามาจึงเกิดระเบิดขึ้น
ส่วนที่โรงแรมเทพวิมาน คนร้ายได้นำถุงพลาสติกไปวางไว้ใกล้ประตูเหล็กยืดหน้าโรงแรม ต่อมานายประเสริฐชัย ลียาชัย เจ้าของโรงแรมมาพบเปิดถุงดูพบว่า ภายในมีสายไฟฟ้าและกล่องเหล็กจึงได้แจ้งชุดศรชัยไปเก็บกู้ได้สำเร็จ ส่วนจุดอื่นๆ ที่ไม่สามารถกู้ได้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูงยิงทำลายจนเกิดระเบิด ส่วนที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงศรีอยุธยา และกสิกรไทย เมื่อไปเก็บกู้พบว่าเป็นระเบิดปลอม
ต่อมาเวลาไล่เลี่ยกัน กลุ่มคนร้ายใช้รถ จยย.เป็นพาหนะ ขี่ไปหน้าจุดตรวจ นปพ.ยะลา บ้านนิบงบารู หมู่ 4 ต.สะเตงนอก ใช้อาวุธปืนยิงใส่ก่อนโยนระเบิดสังหารเข้าไปหน้าป้อมแต่ไม่มีผู้ได้รับอันตราย ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยิงตอบโต้ แต่คนร้ายหนีรอดไปได้
ด้าน จ.นราธิวาส กลุ่มโจรได้ลอบวางระเบิดถล่มหลายจุดในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก เท่าที่ได้รับรายงานจุดแรก ร้านบอมเบย์คาราโอเกะ เลขที่ 12 ถนนประชาวิวัฒน์ซอย 4 คนร้ายวางใต้โซฟาในห้องวีไอพี ได้รับความเสียหาย จุดที่ 2 ร้านเหรียญทองคาราโอเกะ ระเบิดบริเวณหลังร้าน จุดที่ 3 ร้านจีจี้คาราโอเกะ ตลาดขี้แพะ ถนนลูกเสืออนุสรณ์ จุดที่ 4 บริเวณด้านหลังโรงแรมมาริน่า ซอยสวัสดี จุดที่ 5 ศาลาที่พักผู้โดยสารบริเวณหัวโค้งบ้านน้ำตก เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ชื่อนายอุบดุลเลาะ มะเล อายุ 25 ปี บ้านเลขที่ 185 หมู่ 10 ต.มาโมง อ.สุคิริน จ.นราธิวาส แต่อีกรายยังไม่ทราบชื่อ ส่วนผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวและเด็กเสิร์ฟในร้าน มีจำนวน 21 คน นำส่ง รพ.สุไหงโก-ลก
ขณะเดียวกันใน อ.เมืองนราธิวาส คนร้ายได้ลอบวางระเบิดบริเวณประตูทางเข้าร้านคาราโอเกะไม่มีชื่อ บ้านโคกเคียน เบื้องต้นยังไม่ทราบความเสียหาย
ส่วนที่ อ.บาเจาะ คนร้ายได้บุกเผาโรงเรียน บ้านปะลุกาสาเมาะ หมู่ 2 ต.ปะลุกาสาเมาะ กับยิงจุดตรวจตำรวจบ้านปะลุกาสาเมาะ และเผายางรถยนต์บ้านส้มป่อย หมู่ 4 ต.กาเลาะมาตี ยังไม่ทราบความสูญเสียเช่นกัน ที่ อ.รือเสาะ คนร้ายได้ลอบเผาโรงเรียน 3 แห่ง คือ โรงเรียนบ้านละหาร โรงเรียนบ้านสะโลบูกิ๊ตยือแล และโรงเรียนบ้านตายา นอกจากนี้ ยังเผาโกดังเก็บของ ของนางสมทรง พีระวงศ์พานิช เลขที่ 284 หมู่ 1 ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ เบื้องต้นยังไม่ทราบความเสียหาย
รายงานแจ้งว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่า ระเบิดที่คนร้ายนำมาใช้ก่อเหตุเป็นระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในกระป๋องเบียร์แต่มีความรุนแรง หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ได้กระจายกำลังคุมเข้มรักษาความปลอดภัยทั่วตัวเมืองเพื่อป้องกันเหตุร้ายอย่างเต็มที่
ขณะเดียวกันที่ จ.สงขลา คนร้ายลอบวางเรือใบบนถนนสายสะบ้าย้อย-ห้วยปลิง อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ทำให้รถยนต์แล่นทับเสียหลายคัน เวลาเดียวกันคนร้ายลอบวางเรือใบและเผายางรถยนต์บนถนนสายเอเชียที่ 43 พื้นที่บ้านบ่อเตย ต.เทพา ในส่วนของพื้นที่ อ.หาดใหญ่ ที่หน่วยงานภาครัฐและเอกชนร่วมกันจัดงานเทศกาลตรุษจีนที่บริเวณมูลนิธิมิตรภาพสามัคคี (ท่งเซียเซี่ยงตึ้ง) หาดใหญ่ และบริเวณโรงเรียนศรีนคร พ.ต.อ.โพธ สวยสุวรรณ ผกก. สั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มความเข้มในการตรวจวัตถุและบุคคลต้องสงสัยอย่างละเอียดรวมทั้งมีการตั้งด่านตรวจรถต้องสงสัย และรถยนต์จากพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มุ่งหน้าเข้าเมืองหาดใหญ่เป็นกรณีพิเศษ
ทางด้าน พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ โฆษกกองทัพบก ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดพร้อมกันในหลายจุดในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. คนร้ายลอบวางระเบิดสถานีจ่ายไฟฟ้าย่อย จ.ยะลา 2 จุด ซึ่งเป็นเจตนาที่จะทำให้ไฟฟ้าดับเพื่อก่อกวนเท่านั้น ยังไม่ถึงขั้นก่อเหตุการณ์ขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังนำกล่องบรรจุระเบิดไปวางไว้ที่ร้านคาราโอเกะฟรายเวย์ กลางเมือง จ.ยะลา โดยใช้โทรศัพท์มือถือเป็นสัญญาณ นอกจากนี้ยังเกิดเหตุระเบิดในพื้นที่ จ.ปัตตานี อีก 2 จุด คือที่สถานีจ่ายไฟฟ้าที่กุโบะ และยิงป้อมตำรวจสายตรวจที่ อ.หนองจิก ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทหารที่ทำงานในการลาดตระเวนอยู่ในทางบกและทางอากาศ เข้าไปควบคุมดูแลพื้นที่ และไล่ติดตามคนร้าย พร้อมกับประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนไม่ให้ตื่นตกใจ
พ.อ.อัครกล่าวว่า กองทัพภาคที่ 4 เตรียมพร้อมดูแลสถานการณ์ในพื้นที่อย่างเต็มที่ โดยดูแลทั้งทางบก และทางอากาศ นอกจากนี้ ยังมีการจัดกำลังดูแลพื้นที่ตามจุดต่างๆให้มีความสมบูรณ์เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความพยายามของผู้ก่อความไม่สงบ โดยใช้วัยรุ่นที่ขี่มอเตอร์ไซค์เป็นแก๊ง ไม่ใช่กำลังติดกำลังอาวุธเข้ามาอย่างชัดเจน เพียงแต่แอบลำเลียงระเบิดเข้ามาวาง และนัดเวลากัน โดยใช้โทรศัพท์มือถือเป็นสัญญาณในการจุดชนวนระเบิด ซึ่งแรงศักยภาพที่เกิดขึ้นยังสามารถก่อเหตุให้เป็นข่าวดังไปทั่วโลก
เมื่อถามว่า มีมาตรการอะไรที่เข้มข้นมากกว่านี้หรือไม่ พ.อ.อัครกล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นพื้นที่ชุมนุมเมือง เราไม่สามารถใช้มาตรการควบคุมอย่างเข้มข้นได้ เพราะจะไปกระทบกระเทือนประชาชนผู้บริสุทธิ์ กองทัพเราควบคุมแบบปานกลางทำให้กลุ่มก่อความไม่สงบในคราบของประชาชน โดยเฉพาะแอบอยู่ในกลุ่มวัยรุ่นและแทรกเข้ามาก่อเหตุ เมื่อถามว่า ได้มีการจัดกำลังเพิ่มเติมเข้าไปดูแลความปลอดภัยเหตุการณ์อีกหรือไม่ พ.อ.อัคร กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้เพิ่มเติม เพียงตรวจตราดูให้เรียบร้อยเพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจ
“กลุ่มก่อความไม่สงบจะใช้วัยรุ่นที่เคลื่อนไหวอยู่ในปัจจุบันในการขนย้ายวัตถุระเบิดมาก่อเหตุ ซึ่งกำลังเจ้าหน้าที่ก็พยายามตรวจตราดูแลอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่กลุ่มก่อความไม่สงบได้มีการนัดหมายเอาวัตถุระเบิดและมาวาง เวลาเดินทางก็จะใช้เส้นทางอื่นเพื่อให้รอดหูรอดตาเจ้าหน้าที่ไปก่อเหตุ ทั้งนี้ กำลังที่ดูแลอยู่ในขณะนี้เท่าเดิม เพียงแต่วิธีการปฏิบัติถี่ขึ้น และเพิ่มมาตรการด้านการข่าว และให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น” พ.อ.อัครกล่าว
พ.อ.อัครกล่าวอีกว่า ขณะนี้ พล.ท.วิโรจน์ บัวจรูญ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในทัพภาคที่ 4 (กอ.รมน.ภาค 4) ทำหน้าที่บัญชาการอยู่ที่ค่ายสิรินธร จ.ปัตตานี โดยใช้กำลังหลักคือ กองบัญชาการผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร (พตท.43) อย่างไรก็ตาม หน่วยข่าวได้รายงานว่า กลุ่มคนร้ายพยายามที่จะก่อเหตุ ทางกองทัพภาคที่ 4 จึงได้แจ้งเตือนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ติดตามดูแลสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพียงแต่ ไม่ทราบว่ากลุ่มคนร้ายจะก่อเหตุตรงจุดไหนบ้าง ซึ่งในเย็นวันนี้ก็มีการเสริมกำลังเข้าไปตรวจเข้มมากกว่าทุกวัน
ต่อมาเวลา 21.15 น. พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ โฆษกกองทัพบก เผยล่าสุดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดในพื้นที่ ที่ จ.ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา มีทั้งสิ้นจำนวน 23 จุด คือยะลา 14 จุด ปัตตานี 2 จุด และนราธิวาส 5 จุด สงขลา 2 จุด สำหรับประชาชนที่บาดเจ็บและเสียชีวิต ที่ รพ.ยะลา บาดเจ็บ 22 ราย ที่ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 20 ราย รวมมีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บสาหัส 2 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อย 42 ราย สถานที่เกิดเหตุระเบิดส่วนใหญ่จะเป็นร้านคาราโอเกะ โรงแรม เสาไฟฟ้า หม้อแปลงไฟฟ้า และโรงไฟฟ้า
ด้าน พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) กล่าวถึงเหตุการณ์ระเบิดในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ว่า ได้สั่งการให้ส่งกำลังทหารไปสนับสนุนและตรวจสอบในพื้นที่อย่างเข้มงวด เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ในเขตเมืองเป็นความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะนี้ส่งกำลังทหารเข้าไปเสริมการปฏิบัติการแล้ว นอกจากนี้ได้สั่งการให้แม่ทัพภาคที่ 4 รวบรวมรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการใช้กำลัง สถานการณ์ระเบิดซึ่งปกติพื้นที่ที่วางไว้ส่วนใหญ่ไปปฏิบัติกันตามชนบท แต่คราวนี้มาเล่นในเขตเมือง อย่างไรก็ตาม หลังเหตุการณ์แม่ทัพภาค 4 ในฐานะ ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 จะเป็นผู้รายงานและรวบรวมยอดผู้เสียชีวิต บาดเจ็บทั้งหมดในวันที่ 19 ก.พ. ซึ่งกองทัพบกและ กอ.รมน. จะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ
ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุการณ์ระเบิดในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้รายงานให้ พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้รับทราบถึงสถานการณ์ และนายกฯยังได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งมอบหมายให้ กอ.รมน. เป็นผู้รับผิดชอบสั่งการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ และความเสียหายที่เกิดขึ้นยังไม่สามารถระบุได้ ต้องรอการประเมินและตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง อย่างไรก็ตาม ต้องขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่อย่าได้ตื่นตระหนกขอให้อยู่ในที่พัก ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบตามจุดต่างๆที่มีการวางระเบิดและพื้นที่ต้องสงสัยอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ นายกฯยังไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษ รวมทั้งยังไม่ได้มีการเรียกประชุมหน่วยด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์