ตกอับ เครียดจัด-ไร้งานแสดง ใช้ผ้าขนหนูผูกคอสยองในห้องนํ้าของที่พักแฟน พระเอก “คิม แร วอน”ช็อก งดทัวร์ไทยต่อกลับด่วนดารานักร้องเกาหลีฆ่าตัวตายด้วยการแขวนคออีกแล้ว นับเป็นรายที่สองในรอบสองเดือนที่ผ่านมา โดยรายล่าสุดนี้ “จุง ดา-บิน” นางเอกสาวตัดสินใจผูกคอตายที่อพาร์ทเมนท์ที่พักของแฟนหนุ่มทางใต้ของกรุงโซล สาเหตุน่าจะมาจากความเครียดเพราะไม่มีผลงานการแสดงออกสู่สายตาประชาชนในช่วงนี้เลย นอกจากนั้นยังกล่าวเป็นนัยในเว็บไซต์ของเธอเองว่า อาจจะต้องตายเพราะความเครียดนี้ก็ได้ ด้าน “คิม แร วอน” พระเอกหนุ่มซึ่งเคยร่วมแสดงในซีรีส์เรื่อง “รักเหมียว ๆ ขอเกี่ยวหัวใจ” และบินมาพักผ่อนที่เมืองไทยพอดี เผยตกใจมากและจะรีบ กลับไปร่วมงานศพด้วย
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 10 ก.พ.ว่า เกิดเหตุนางเอกสาวชาวเกาหลีฆ่าตัวตายด้วยการแขวนคออีกแล้ว หลังจากที่เมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมาก็มีนักร้องสาวชื่อดังปลิดชีพตัวเองด้วยวิธีการเดียวกันนี้ นับเป็นการสูญเสียดารานักร้องเกาหลีถึง 2 รายติดกันแล้วในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดกระแสวิตกว่าจะเกิดพฤติกรรมเลียนแบบฆ่าตัวตายในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งมีอัตราการฆ่าตัวตายสูงที่สุดในกลุ่มประเทศสมาชิกองค์การ เพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (โออีซีดี) ซึ่งเกาหลีใต้เป็นสมาชิกอยู่ด้วย
จากการเปิดเผยของตำรวจกรุงโซลระบุว่า “จุง ดา-บิน” (Jeong Da-Bin) นางเอกสาววัย 27 ปี พบกลายเป็นศพอยู่ในห้องน้ำใน อพาร์ตเมนต์ที่พักของแฟนหนุ่มของเธอ ในย่านตอนใต้ของกรุงโซล ซึ่งผู้ที่พบศพคนแรกของดาราสาวก็คือแฟนหนุ่มของเธอนั่นเอง ซึ่งทราบแต่ชื่อสกุลว่า “ลี” สภาพศพมีผ้าขนหนูพันรอบ คอ พร้อมกับให้การเพิ่มเติมด้วยว่า นางเอกสาวอาจจะเกิดอาการเครียดเพราะในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานั้น ไม่มีงานแสดงเข้ามาเลย เธอมาหาเขาที่อพาร์ตเมนต์เมื่อคืนที่ผ่านมา ในสภาพเมามาย แต่ก็ไม่มีอะไรจนกระทั่งตนเข้านอนตามปกติ และตื่นขึ้นมาในตอนเช้า ก็พบว่าแฟนสาว ของตนนั้นแขวนคอตายอยู่ในห้องน้ำแล้ว
รายงานข่าวระบุด้วยว่า จุง ดา-บิน เริ่มเข้าสู่วงการในฐานะนักแสดงสาวทางโทรทัศน์ในปี 2543 ประสบความสำเร็จได้รับรางวัลด้านการแสดงทั้งในบทตลกหรือดราม่าในช่วงปี 2545-47 แต่ก็ไม่มีงานแสดงเข้ามาอีกเลยหลังจากที่ผลงานของเธอออกฉายทางโทรทัศน์ครั้งล่าสุดในเดือน ก.ย. 2549 เธอได้เขียนข้อความ ลงในเว็บไซต์ของเธอเอง ซึ่งบอกเป็นนัยถึงสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นกับตัวเธอเองว่า เธอจะโกรธมากกับเรื่องที่ไม่มีเหตุผลและอาจจะตายเพราะความเครียดนี้ก็ได้ พระเจ้าคงจะกำลังรอคอยตนอยู่
หากการชันสูตรยืนยันได้ว่า จุง ดา-บิน เสียชีวิตเพราะฆ่าตัวตาย ก็นับเป็นรายที่สองแล้วสำหรับดารานักร้องคนดังของเกาหลีในช่วงไม่ถึง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา “ยูนี่” นักร้องสาวเพลงป๊อปชื่อดัง พบกลายเป็นศพแขวนคอฆ่าตัวตายอยู่ที่บ้านพักของเธอเองในเมืองอินชอน การเสียชีวิตของเธอสร้างความตกตะลึงให้กับแฟนเพลงอย่างมาก เพราะต่างกำลังรอคอยผลงานในอัลบั้มชุดที่ 3 ของเธออยู่
สำนักงานสถิติแห่งชาติของเกาหลี ระบุด้วยว่า เกาหลีใต้มีอัตราการฆ่าตัวตายสูงที่สุดในกลุ่มสมาชิกโออีซีดี โดยมีตัวเลขอยู่ที่ 24.7 คน ในชาวเกาหลีใต้ 100,000 คน ตัดสินใจฆ่าตัวตาย ทั้งนี้เป็นตัวเลขในปี 2548 ส่วนรองลงมาเป็น ฮังการี ตัวเลขอยู่ที่ 22.6 คน ในทุก ๆ 100,000 คน และ อันดับสาม ญี่ปุ่น 20.3 คน
สำหรับประวัติโดยย่อของ จุง ดา-บิน เกิดเมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2523 เป็นนักแสดงที่มีบุคลิกน่ารักและมีความเป็นกันเองกับคนทั่วไป เธอไม่ใช่คนสวยแต่มีความสามารถทางด้านการแสดง ด้วยบุคลิกสบาย ๆ และเป็นกันเอง ทำ ให้ได้รับบทส่วนใหญ่ในแนวคอมเมดี้ ซึ่งก็ทำให้เธอกลายเป็นดาราขวัญใจของใครต่อใคร ผลงานการแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกของเธอคือ The Legend of Gingko และซีรีส์ทางโทรทัศน์เรื่อง Taeyangun Gadukhe, The Full Sun แต่ที่สร้างชื่อให้เธอก็คือ New Nonstop 2 และ He Was Cool
ส่วนที่สยามเซ็นเตอร์ สถานที่จัดงาน วาเลนไทน์ ไบลด์ เดทส์ ซึ่งมีนายคิม แร วอน พระเอกชื่อดังจากเกาหลีมาร่วมงาน ได้ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีการเสียชีวิตของดาราสาวชื่อดังชาวเกาหลี ว่า รู้สึกตกใจมากเพิ่งทราบข่าว ตนกับผู้ตายเคยร่วมงานในงานละครเรื่อง “รักเหมียว ๆ ขอเกี่ยว หัวใจ” โดยในวันที่ 11 ก.พ. นี้จะเดินทางกลับประเทศเกาหลีเพื่อไปร่วมงาน ทำให้ไม่สามารถไปท่องเที่ยวพักผ่อนตามสถานที่ต่าง ๆ ในประเทศ ไทยได้ตามกำหนดการเดิม แต่ตนจะหาโอกาสมาประเทศไทยอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกด้วยว่า พระเอกหนุ่ม “คิม แร วอน” ให้สัมภาษณ์ต่อไปว่า การเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยในครั้งนี้เพราะทราบว่าปีนี้เป็นปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นอกจากนั้น ตนยังชอบเมืองไทยมาก เพราะมีเพื่อนสนิทอยู่ที่เมืองไทย ชอบอาหารไทยมากโดยเฉพาะต้มยำกุ้ง เมื่อได้มาเห็นการต้อนรับของแฟน ๆ ชาวไทยก็ยิ่งอบอุ่นและดีใจ แม้จะมีเวลาไม่มากนัก แต่ตนก็ตั้งใจว่าจะมาเที่ยวเมืองไทยอีกครั้งซึ่งอาจจะเป็นเดือน เม.ย. ที่จะถึงนี้.
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์