แหล่งรวม ธุรกิจ บริษัท ห้างร้าน และ ข้อมูล การท่องเที่ยว ในแถบ อันดามัน
 
เข้าสู่ระบบ G! Builder
เลือกจังหวัด
ข่าวสาร ข่าวทั่วไป ภายในประเทศ

ลูกอ้าง พ่ออัมพฤกษ์ทิ้งตั้งแต่เด็ก เลยไม่มีความผูกพันธ์ ( ข่าวทั่วไป )

ภาพประกอบ ข่าวสาร ข่าวทั่วไป : ลูกอ้าง พ่ออัมพฤกษ์ทิ้งตั้งแต่เด็ก เลยไม่มีความผูกพันธ์

รองผู้ว่าฯปทุมฯ รุดเยี่ยมชายชราถูกลูกหลอกมาทิ้งวัด อึ้งชีวิตเหมือนนิยาย เตือนเยาวชน วันวาเลนไทน์ ควรมอบความรักให้บุพการี ย้ำวิถีชีวิตสังคมไทยอดีต จะไม่มีแนวคิดปล่อยพ่อแม่ทิ้งวัด ด้านลูกอ้างถูกพ่อบังเกิดเกล้าทิ้งตั้งแต่เด็ก เลยไม่มีความผูกพันธ์

ความคืบหน้ากรณีชายชราร่างกายพิการเป็นอัมพฤกษ์ ถูกนำมาทิ้งวัดคุณหญิงส้มจีน ม.14 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เป็นที่น่าเวทนากับผู้พบเห็น ทำให้ต้องส่งไปรักษาอาการที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ รังสิต เพื่อรักษาอาการบาดแผลจากนั้นชายดังกล่าวได้เผยชีวิตที่เหมือนนิยายว่า ถูกลูกชายหลอกมาทิ้งในวัด หลังจากยกมรดกเป็นที่ดิน 30 ไร่ให้ไปหมด ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 13 กพ.ที่หอผู้ป่วยศัลยกรรมชาย ชั้น 3 อาคารดุลโส ภาคย์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ ม.ล.ปนัดดา ดิษกุล รองผู้ว่าฯปทุมธานี พ.ต.อ.สุรศักดิ์ ขุนณรงค์ ผกก.สภ.อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พร้อมคณะเดินทางเข้าเยี่ยมอาการนายชูใจหรือนายชูชัย จันทร์ผาสุข อายุ 55 ปี ที่นอนพักรักษาตัวอยู่ โดยม.ล.ปนัดดา ได้สอบถามความเป็นมา และสอบถามถึงอาการเจ็บป่วย โดยย้ำให้แพทย์และพยาบาล ร่วมทั้งเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ ช่วยดูแลเต็มที่

ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า จากการพูดคุยกับนายชูชัย ทำให้รู้สึกหดหู่ใจและไม่คิดว่าชีวิตชายผู้นี้จะเหมือนดั่งในละคร อยากบอกว่า วิถีชีวิตสังคมไทยนั้น จะไม่มีนิสัยแบบนี้ คือลูกนำบุพการีไปทิ้ง ปัจจุบันคนทั่วไปมักคิดถึงแต่วันวาเลนไทน์ โดยตีความหมายในเรื่องความรักเพียงกว้างๆ แต่ลืมคิดถึงความรักของพ่อและแม่ รักบุพการี ซึ่งลูกทุกคนต้องตอบสนองพระเดชพระคุณของบุพการี และการกระทำแบบนี้ เยาวชนไทยไม่ควรเอามาเป็นตัวอย่าง เพราะเป็นการประพฤติที่ไม่ถูกต้อง

“ทุกวันนี้สังคมไทยน่ากลัวมาก โดยเฉพาะเยาวชน เนื่องจากมักไปเน้นถึงความฟุ้งเฟ้อ ฟุ่มเฟือย เป็นหลักสำคัญ โดยที่ไม่เคารพผู้ใหญ่ ไม่เคารพบุพการี ดังนั้นจึงอยากขอให้เยาวชนทั่งประเทศทุกคน ได้เข้ามาช่วยกันในการยึดคุณธรรมและความดี ต่อบุพการี ซึ่งการการประพฤติตัวหรือปฎิบัติกับผู้ที่เป็นพ่อและแม่แบบนี้ สังคมไทยทั่วประเทศเขาจะไม่ทำกัน”

ส่วนชูชัยหรือนายชูใจ กล่าวว่า หลังจากถูกนำตัวมาทิ้งที่วัดก็ไม่อยากไปอยู่กับลูกชายที่บ้านอีกเพราะทราบดีว่าเขาไม่ห่วงใย ดังนั้นจึงอยากที่จะไปอยู่กับญาติหรือหลานๆ ที่ จ.พระนครศรีอยุธยาจะดีกว่า เพราะที่นั่นจะทำให้ลุงมีความสุขมาก

ด้านนางมณทิพย์ ปฎิทัศน์ หัวหน้าหอผู้ป่วยศัลยกรรมชายสามัญ เปิดเผยว่า อาการของคนไข้ในขณะนี้ ถือว่าดีขึ้นมากแล้ว มีอาการติดเชื้อบริเวณแผลที่หลังเท้าซ้าย ซึ่งแพทย์และพยาบาลก็ดูแลอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ตามปกติคนไข้มีบัตรทองอยู่แล้ว ทำให้เรื่องค่ารักษาพยาบาล ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะมีสิทธิรักษาอยู่แล้ว คนไข้รายนี้เข้ามาตั้งแต่เมื่อวานช่วงเย็น ซึ่งเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลนั้น ก็สอบประวัติแล้ว พบว่าชื่อที่แจ้งในครั้งแรกนั้นผิด ที่จริงชื่อของลุงคือนายชูชัย ไม่ใช่นายชูใจ ปกติถ้าเป็นคนไข้ที่ใช้สิทธินอกพื้นที่ ถ้าอาการไม่หนักหรือไม่ฉุกเฉิน ทางโรงพยาบาลก็จะใช้วีประสานไปยังโรงพยาบาลที่คนไข้มีสิทธิ์ และจะย้ายคนไข้ไปรักษาอาการต่อไป แต่กรณีนี้เราได้ตรวจสอบแล้ว และก็ให้อยู่รักษาที่นี่ต่อไป แม้จะไม่ฉุกเฉินก็ตาม และจากนี้ไปจะให้ผู้ป่วยไปอยู่ที่ไหนนั้น ก็คงต้องรอติดต่อลูกๆของเขาก่อนว่า จะทำอย่างไรกันต่อไป

ส่วนกรณีที่นายชูใจหรือนายชูชัย จันทร์ผาสุข ระบุ ถูกนายวิชาญ จันทร์ผาสุข ผู้เป็นลูกชายหลอก ว่า จะพามาพบนายพิชิต ซึ่งเป็นลูกชายคนโต ที่มาทำงานในกรุงเทพ จากนั้นก็นำขึ้นรถกระบะแล้วมาปล่อยทิ้งไว้หน้าวัดคุณหญิงส้มจีนนั้น ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อนายวิชาญทางโทรศัพท์ ซึ่งนายวิชาญให้การปฏิเสธว่า ไม่ได้นำพ่อไปทิ้งแต่อย่างใด โดยกล่าวเพียงว่านายชูชัย เป็นบิดาแท้ๆของตนจริง โดยเลิกรากับมารดาตน ตั้งแต่ตนยังเล็กๆอยู่ จากนั้นก็หายหน้าหายตาไปนาน

นายวิชาญ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา บิดาไม่เคยมาเลี้ยงดูตนและมารดา แต่เดือนตุลาคม 2549 พ่อตนได้มาหาตนที่บ้าน แต่กลัวว่าญาติพี่น้องทางมารดาของตนจะรังเกียจ เนื่องจากเลิกร้างกันไปนาน ตนจึงเหมารถกระบะให้นำพ่อไปส่งที่สถานีรถไฟสี่คิ้ว จ.นครราชสีมา เพื่อให้เดินทางกลับบ้านญาติๆจ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งก็เป็นเวลาหลายเดือนแล้ว ก็เพิ่งมาทราบอีกครั้งจากทางสื่อมวลชนว่าพ่อไปอยู่วัด ขอยืนยันว่าไม่ได้นำไปทิ้งตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด ส่วนที่จะไปเยี่ยมพ่อที่โรงพยาบาลหรือไม่นั้น ตนขอคิดดูก่อน

ด้านนายเจี๊ยบ(สงวนชื่อ-นามสกุล) ชาวจ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งหลานชายนายชูชัย กล่าวว่า น้าชายตนป่วยเป็นอัมพฤกษ์หลายปีแล้ว โดยตนเป็นผู้ดูแลตลอด กระทั่งเมื่อประมาณ 1 ปีเศษที่ผ่านมา นายชูชัย บ่นคิดถึงนายวิชาญผู้เป็นลูกชาย และขอเดินทางไปหาลูกชายที่จังหวัดนครราชสีมา ตนจึงส่งขึ้นรถไฟให้ไปหาลูก แต่เมื่อไปถึงที่นั่นกลับถูกลูกชายของตัวเองส่งขึ้นรถไฟกลับมาอีก เป็นอย่างนี้หลายครั้งจนตนต้องแจ้งให้นายอำเภอสี่คิ้ว กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้รับทราบถึงพฤติกรรมที่ทอดทิ้งพ่อบังเกิดเกล้า และตามที่เป็นข่าวว่า นายชูชัย ถูกลูกนำมาทิ้งไว้ที่วัดนั้น ตนเองเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง

นายเจี๊ยบ กล่าวอีกว่า ส่วนที่มีการระบุว่า จะให้นายชูชัยมาอยู่กับตนเองนั้น ก็อาจเป็นไปได้ แต่ตนยังมีภาระที่ต้องเลี้ยงดูแม่ของตน ซึ่งเป็นพี่สาวของนายชูชัย ซึ่งตอนนี้ก็ป่วยเป็นโรคเบาหวาน ถ้าให้ตนรับภาระ ดูแลนายชูชัยไปพร้อมๆกัน เกรงว่าตนจะรับภาระไม่ไหว เพราะทุกวันต้องทำงานหนัก เพื่อนำเงินมาเลี้ยงดูครอบครัว และแม่ของตนเองอยู่แล้ว

ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์

Valid XHTML 1.0 Transitional Valid CSS!
ทะเบียนพาณิชย์อีเลคทรอนิคส์ เลขที่ 8373549000215