สรุปชัด 3 เหตุหลักทำรันเวย์ร้าว ชงส่ง ?สพรั่ง? จัดการ - ?สุรยุทธ์?ค้านปิดสุวรรณภูมิ ( ข่าวทั่วไป )

ได้ข้อสรุปรันเวย์-แท็กซี่เวย์สุวรรณภูมิร้าวแล้ว ชุดสอบเชื่อมาจาก 3 เหตุหลัก น้ำไหลเข้าชั้นใต้ดิน-อุปกรณ์ห่วย-เร่งก่อสร้าง ชงข้อมูลให้ทอท.-สพรั่ง ดำเนินการ เผยจุดปัญหาใหญ่มี 2 จุด “ทัชดาวน์-จุดเครื่องบินลงกับจุดเทคออฟ-จุดเครื่องทะยานขึ้นฟ้า” ชี้ เปิดซ่อมไปให้บริการไปไร้ปัญหา นายกฯสุรยุทธ์ ย้ำ สุวรรณภูมิจำเป็นต้องเปิดให้บริการแม้จะต้องซ่อมบางส่วน 14 ก.พ. ชี้ขาด อลงกรณ์เอาข้อมูลจัดอันดับสนามบินโชว์ สุวรรณภูมิรั้งท้ายแพ้ชางอี-สิงคโปร์ขาดลอย คตส.งัดมาตรา 37 ฟันบรรณพจน์-หญิงอ้อ ฐานจงใจเลี่ยงภาษี ส่วนชุดไต่สวนหุ้นชิน เตรียมจับโกหกตระกูลชินวัตร เนวิน จ่อคิวโดนสอบกรณีปลูกยางพาราในบุรีรัมย์ คุณหญิงจารุวรรณ เปิดทางรัฐเอางานคตส.ไปแถลงเป็นผลงานของรัฐได้ ปชป.เตรียมเปิดสมุดปกดำเล่ม 2 แฉการทุจริตของรัฐบาลชุดที่แล้ว

ความคืบหน้าเกี่ยวกับการแก้ปัญหา   ต่าง ๆ ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ และการปรับปรุงสนามบินดอนเมืองให้พร้อมใช้ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) นั้น เมื่อวันที่ 10 ก.พ. ที่สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้า ในการแก้ปัญหาและซ่อมแซมสนามบินสุวรรณภูมิว่า เท่าที่ทาง รมว.คมนาคมแจ้งให้ตนทราบ จะมีการประชุมในวันที่ 12 ก.พ.นี้ ซึ่งคงจะได้ผลสรุปภายในวันที่ 14 ก.พ. ส่วนการปิดสนามบินสุวรรณภูมิเพื่อซ่อมแซมนั้น ต้องรอการตรวจสอบให้แน่ชัดว่าเราจะทำอะไร แค่ไหน อย่างไร ซึ่งคงต้องรอการตรวจสอบที่ชัดเจน เพราะเป็นเรื่องทางเทคนิค ส่วนจะมีความจำเป็นต้องปิดสนามบินหรือไม่นั้นก็ต้องดูที่ข้อมูลว่าเสียหายมากน้อยเพียงใด
 
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะชี้แจงต่างชาติอย่างไร เพื่อไม่ให้ความเชื่อถือที่มีต่อประเทศลดลง นายก รัฐมนตรี กล่าวว่า เราก็พยายามอย่างที่สุดที่จะไม่ให้ความน่าเชื่อถือของสนามบินเสียหายไป ซึ่งการพยายามอย่างที่สุดตามความเห็นของตนก็คือเราไม่ควรจะปิดสนามบิน แต่ต้องมีวิธีการที่จะหาทางแก้ไข และซ่อมแซมให้ได้ โดยต้องสามารถเปิดใช้งานได้ด้วยในระหว่างการซ่อมแซม ส่วนจะต้องซ่อมแซมมากแค่ไหนอย่างไร ต้องรอคณะกรรมการตรวจสอบชี้แจง
 
ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า คณะกรรมการกลางตรวจสอบสาเหตุรอยร้าวแท็กซี่เวย์และรันเวย์ของสนามบินสุวรรณภูมิ ที่มีนายต่อตระกูล ยมนาค เป็นประธาน ได้ประชุมหาข้อสรุปกันตั้งแต่เวลา 17.00 น. ของวันที่ 9 ก.พ. จนถึงกลางดึกประมาณตี 2 รวมระยะเวลาประมาณ 9 ชั่วโมง ซึ่งสามารถสรุปความเสียหายที่เกิดขึ้นได้มาจาก 3 สาเหตุ คือ 1. น้ำไหลเข้ามาบริเวณชั้นใต้พื้นดินบริเวณแท็กซี่เวย์และรันเวย์ และไม่รู้ว่าไหลเข้ามาได้อย่างไร แต่เท่าที่ทราบพื้นที่ที่เป็นรันเวย์เคยเป็นบ่อเลี้ยงปลา 2,000 บ่อมาก่อนแต่ก็มีการถมดินและปรับสภาพแล้ว คาดว่าชั้นใต้ดินอุ้มน้ำตลอดเวลา เมื่อเจอแรง กระแทกหรือแรงกดทับหนัก ๆ จะทำให้เกิดเป็นรอยแตกและเป็นหลุมขึ้น
 
2. เกิดจากวัสดุที่ไม่ได้มาตรฐาน โดยเฉพาะวัสดุที่นำมาปูผิวแท็กซี่เวย์แอสฟัลต์ติกมีความบกพร่องของส่วนผสม ทำให้ความแข็งแรงและสภาพพื้นผิวแท็กซี่เวย์ไม่คงทน และ 3. การเร่งรัดงานก่อสร้างของรัฐบาลชุดที่ผ่านมา เพื่อ ให้สนามบินสุวรรณภูมิเปิดใช้ในวันที่ 28 ก.ย. 49 ทำให้การดูแลมาตรฐานการก่อสร้างจากเดิมที่ได้กำหนดเวลาตายตัวในงานแต่ละประเภทไว้ต้องร่นระยะเวลาให้เร็วขึ้นกว่ากำหนด อย่างไรก็ตามหลังจากที่ได้ข้อสรุปแล้วจะนำผลการตรวจสอบทั้งหมดรายงานให้คณะกรรมการ ทอท. ซึ่งมีพล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร เป็นประธานนำไปปรับปรุงและแก้ไขปัญหาต่อไป
 
สำหรับการตรวจสอบรันเวย์นั้นพบว่า มีปัญหา 2 จุดคือจุดที่เรียกว่าทัชดาวน์ ซึ่งเป็นจุดที่เครื่องบินร่อนลงและสัมผัสสนามบินเป็นครั้งแรก และจุดเทคออฟ ซึ่งเป็นจุดสุดท้ายที่เครื่องบินจะบินขึ้นสู่อากาศ พบว่าสามารถซ่อมแซมพื้นผิวและกลับมาใช้งานได้ตามปกติ เนื่องจากน้ำใต้ดินไม่ได้ส่งผลกระทบต่อพื้นดินด้านล่าง และพื้นผิวคอนกรีตของรันเวย์ เพราะระดับความสูงของผิวรันเวย์อยู่ระดับเฉลี่ย 1.70 เมตร แต่แท็กซี่เวย์มีความสูงอยู่ระดับ 70 ซม. ถึง 1 เมตร ทำให้น้ำใต้ดินทำความเสียหายต่อแท็กซี่เวย์มาก กว่ารันเวย์ ส่วนการซ่อมแซมน่าจะง่ายขึ้นเพราะลมกำลังเปลี่ยนทิศทำให้สามารถสลับพื้นที่ในการใช้งานได้
 
ทั้งนี้ที่ประชุมส่วนใหญ่มีมติเห็นร่วม กันว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมาจาก 3 ประเด็นหลัก แต่การแก้ปัญหาขึ้นอยู่กับ ทอท.ว่าจะแก้ไขอย่างไร เพราะคณะกรรมการฯมีหน้าที่เพียงตรวจสอบ  ซึ่งเชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้นสามารถแก้ไขได้ถ้าไม่นำเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยเห็นว่าปัญหารันเวย์มีน้อยมาก แต่ที่มากสุดคือแท็กซี่เวย์ เพราะจากการนำเครื่องมือตรวจความแข็งของผิววัสดุรันเวย์พบว่าการแตกร้าวของผิวรันเวย์อยู่ระดับ 1,000 ตามสเกลการตรวจวัด แต่ตามปกติแท็กซี่  เวย์ที่ใช้งานความแข็งของพื้นผิวจะต้องอยู่ระดับ 4,000 ซึ่งความเสียหายในระดับดังกล่าวทางด้านวิศวกรรมเรียกว่าวิบัติ อย่างไรก็ตามผลสรุปดังกล่าว พล.อ.สพรั่ง และนายต่อตระกูล จะแถลงอย่างเป็นทางการในวันที่ 12 ก.พ.นี้ เวลา 14.00 น.
 
แหล่งข่าวจากบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การที่ลมเปลี่ยนทิศและทำให้การขึ้น-ลงของเครื่องบินจะต้องปรับเปลี่ยนด้วยนั้นยังไม่สามารถบอกได้ว่าการขึ้น-ลงของเครื่องบินในขณะนี้จะต้องเปลี่ยนใช้รันเวย์ไหน เพราะต้องดูข้อมูลจาก ทอท. ด้วย ตามปกติจะใช้รันเวย์ทิศตะวันออกสำหรับการขึ้นของเครื่องบิน และรันเวย์ทิศตะวันตกใช้สำหรับการลงของเครื่องบิน ยกเว้นว่าในช่วงเวลานั้นปริมาณการจราจรทางอากาศมาก อาจใช้รันเวย์ทิศตะวันออกเป็นที่ลงของเครื่องบิน อย่างไรก็ตามขณะนี้การจราจรทางอากาศอยู่ประมาณ 800 เที่ยวต่อวัน และช่วงตรุษจีนเพิ่มเป็น 870 เที่ยวต่อวัน ส่วนการปิดรันเวย์ 1 รันเวย์ ใช้งานเพียง 1 รันเวย์ทำได้ แต่ต้องจัดการปริมาณเครื่องบินขึ้น-ลงให้ดี
 
นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ปัญหาสนามบินสุวรรณภูมิ  ขอให้เร่งแก้ไขเพราะสถานการณ์เริ่มเลวร้าย เนื่องจากผลสำรวจของสกายแทร็ค (Sky Trax) ที่เป็นสถาบันจัดอันดับท่าอากาศยานทั่วโลก เมื่อต้นเดือน ก.พ.นี้ ได้สำรวจสนามบินนานาชาติในเอเชีย 6 แห่ง พบว่าสนามบินสุวรรณภูมิอยู่อันดับที่ 6 ได้ 2 ดาว โดยมีสนามบินชางอี ของสิงคโปร์ ได้อันดับ 1 ได้ 5 ดาว ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เรา สูญเสียความเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาค ถือเป็นความอัปยศของระบอบทักษิณ ที่มีการทุจริตคอร์รัปชันมากมาย การจัดการกลุ่มทุจริตต้องดำเนินการทุกส่วนต้องดำเนินคดีทางอาญาและแพ่งเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดขึ้นด้วย
 
นายสฤต สันติเมทนีดล รองหัวหน้าพรรคพลังแผ่นดินไท กล่าวว่า การให้ความเห็นเกี่ยวกับสนามบินสุวรรณภูมิต้องมีความระมัดระวังเพราะทำให้ต่างชาติสับสน
 
ส่วนการทำงานของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการคตส. และกรรมการ ป.ป.ช. เปิดเผยว่า ในระหว่างที่ ป.ป.ช. เข้าพบนายกรัฐมนตรีนั้น นายกฯได้สอบถามถึงอุปสรรคการทำงานและระบุว่าพร้อมให้ความช่วยเหลือในทุก ๆ ด้าน รัฐบาลยินดีให้ความร่วมมือ ซึ่งในส่วนของ ป.ป.ช. คิดว่าการแก้ปัญหาดังกล่าวน่าจะเพียงพอ ไม่ต้องมีการออกเป็นมติ ครม. เพราะเอกสารที่ ป.ป.ช. ขอไปตามหน่วยงานต่าง ๆ จะได้รับความร่วมมือ แต่ถ้าจะให้ตอบแทน คตส. คงยาก เนื่องจาก คตส.มีเวลาจำกัด เมื่อขอไปก็อยากจะได้เอกสารเลย
 
คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการ   สตง. และกรรมการ คตส. กล่าวถึงกรณีที่เคยเสนอให้รัฐบาลนำผลงานการตรวจสอบการทุจริตโครงการต่าง ๆ ของ คตส. มาประชาสัมพันธ์  ให้ประชาชนทราบว่า เคยหารือกับทางรัฐบาลมาครั้งเดียวแต่ยังไม่ลงในรายละเอียดว่าจะออก โทรทัศน์ เพื่อรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานของ คตส. ให้ประชาชนทราบ เพราะเราถือว่างานตรวจสอบทุจริตก็เป็นผลงานที่รัฐบาลสามารถนำมาใช้ได้เพราะเป็น 1 ใน 4 มูลเหตุของการปฏิรูปครั้งนี้ ส่วนการที่รัฐบาลตั้งคณะกรรมการประชาสัมพันธ์ในภาวะวิกฤติและการประชาสัมพันธ์เชิงรุก (วอร์รูม) เพื่อประชาสัมพันธ์ผลงานรัฐบาลและทำความเข้าใจต่อ สาธารณชนทั้งภาวะปกติและไม่ปกติกับสื่อในและต่างประเทศนั้น เป็นคนละส่วนกัน แต่ก็ขึ้น อยู่ว่าทางรัฐจะเอาผลงานของเราไปใช้หรือไม่
 
นายบรรเจิด สิงคะเนติ ประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนโครงการจัดซื้อพันธุ์กล้ายาง 90 ล้านต้น กล่าวว่า ตอนนี้กำลังรอคำคัดค้านตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน โดยในระหว่างนี้อนุกรรมการได้พิจารณาถึงกรณีการนำพันธุ์กล้ายางไปปลูกในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งจะต้องตรวจสอบว่าข้อมูลดังกล่าวมีมูลน่าเชื่อถือหรือไม่ ถ้าพบว่ามี มูลจะพิจารณาอีกครั้งว่าจำเป็นต้องเชิญนายเนวิน ชิดชอบ อดีต รมช.เกษตรฯ เข้าให้ปากคำหรือไม่
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร และพวกรวม 6 คน หลีกเลี่ยงการเสียภาษีการซื้อขายหุ้นบริษัทชินวัตร คอมพิวเตอร์จำกัด กำลังสรุปสำนวนเพื่อเสนอต่อที่ประชุม คตส.ชุดใหญ่ให้พิจารณาส่งอัยการสูงสุดเพื่อส่งฟ้องต่อศาล ต่อไป โดยคดีดังกล่าวถือเป็นคดีอาญา มีความผิดฐานจงใจไม่เสียภาษี ตามมาตรา 37 ของประมวลกฎหมายรัษฎากร ที่ระบุว่าผู้ใด (1) โดยรู้อยู่แล้ว หรือโดยจงใจ แจ้งข้อความเท็จ หรือให้ถ้อยคำเท็จ หรือตอบคำถามด้วยถ้อยคำอันเป็นเท็จ หรือนำพยานหลักฐานเท็จมาแสดง เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากรตามลักษณะนี้ หรือ (2) โดยความเท็จ โดยฉ้อโกงหรืออุบาย หรือโดยวิธีการอื่นใด ทำนองเดียวกัน หลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากรตามลักษณะนี้ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามเดือนถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่สองพันบาท ถึงสองแสนบาท
 
ทั้งนี้ในวันที่ 19 ก.พ.นี้ อนุกรรมการตรวจสอบการซื้อขายหุ้นบริษัทชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จะเชิญนางโสภาวดี เลิศมนัสชัย กรรมการผู้จัดการบริษัทรับฝากหลักทรัพย์ เข้าให้ข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้นบริษัทชินคอร์ป โดยกรรมการ คตส. ต้องการทราบว่า หุ้นที่ได้ทำการรับฝาก มีใครฝากเอาไว้บ้าง และมีการซื้อขายและโอนสิทธิเมื่อใด เพื่อนำมาเทียบเคียงกับการให้ปากคำของนายพานทองแท้ ชินวัตร น.ส.พิณทองทา  ชินวัตร นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ และนางกาญจนาภา หงษ์เหิน เลขานุการส่วนตัวของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ว่า คำให้การของบุคคลที่เกี่ยวข้องตรงกับข้อมูลในศูนย์รับฝากหลักทรัพย์หรือไม่
 
นายอลงกรณ์ พลบุตร กล่าวถึงการออกสมุดปกดำเกี่ยวกับเมนูคอร์รัปชัน ว่า ขณะนี้หนังสือเมนูคอร์รัปชัน ได้พิมพ์เป็นครั้งที่ 3 แล้ว เพราะมีประชาชนสนใจมาก และขณะนี้จะออกเล่ม 2 ช่วงสงกรานต์ โดยจะพูดถึงการดำเนินการในรัฐบาลทักษิณ 4 ด้าน คือ 1. การทุจริตคอร์  รัปชันใน 5 ปี ของรัฐบาลทักษิณ 2. การใช้อำนาจฉ้อฉล การอุ้มฆ่า การครอบงำสื่อมวลชน และการโยกย้ายข้าราชการ 3. นโยบายที่ล้มเหลว และ    4. นโยบายผลาญภาษีประชาชน ทั้งนี้ขอเสนอให้รัฐบาลและองค์กรที่รับผิดชอบสื่อโทรทัศน์ ได้พิจารณาให้ความเป็นธรรมกับอดีตผู้จัดรายการโทรทัศน์ที่ถูกกีดกันและถูกถอดผังรายการในสมัยทักษิณ รวม 7 คน ให้กลับมาทำงานอีกครั้งด้วย.

ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์