สำหรับความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น วันที่ 10 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานจากนครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลียว่า หลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณไปพักผ่อนตีกอล์ฟที่เมืองเมลเบิร์นแล้วได้เดินทางต่อมายังซิดนีย์ในช่วงเย็นวันเสาร์ที่ 10 ก.พ. โดยได้เข้าพักที่โรงแรมโฟร์ ซีซัน ย่านเซอคูล่า เควย์ ซึ่งเป็นย่านกลางใจเมืองและแหล่งช็อปปิ้งที่อยู่ใกล้ๆกับโอเปร่า เฮ้าส์ โดยมีกลุ่มคนไทยในซิดนีย์ประมาณ 20 คน มาคอยต้อนรับและมอบช่อดอกไม้รวมทั้งของที่ระลึกให้กำลังใจบริเวณล็อบบี้โรงแรม ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ทักทายกับกลุ่มคนไทยด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมทั้งพูดคุยตอบคำถามที่ส่วนใหญ่เป็นประเด็นเกี่ยวข้องกับสถานการณ์การเมืองไทยว่า ที่ผ่านมาหวังดีและทำงานให้กับบ้านเมืองมาโดยตลอด แต่ถึงเวลานี้ที่เมืองไทยกลับทำเหมือนกับว่าตนเป็นโจร พยายามไล่บี้กันทุกอย่าง แม้กระทั่งเรื่องการยุบพรรคก็มีใบสั่งตั้งธงให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคไทยรักไทย ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้มีการฉีกรัฐธรรมนูญฉบับเก่าทิ้ง แต่พอจะเล่นงานกันกลับจะให้ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งมาจากรัฐธรรมนูญที่เพิ่งจะฉีกไปมายุบพรรค อย่างไร ก็ตาม เชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญมีความยุติธรรมพอและคงพิจารณาเรื่องดังกล่าวไปตามพยานหลักฐานอย่างเหมาะสม
ฟุ้งจะกลับไทยเมื่อไหร่ก็ได้
พ.ต.ท.ทักษิณยังกล่าวถึงการเดินทางกลับประเทศ ไทยด้วยว่า ยังไม่ใช่ตอนนี้ และก็ไม่มีกฎหมายข้อไหนห้ามไม่ให้กลับประเทศไทย แต่ขอใช้ชีวิตเป็นนักท่องเที่ยวไปก่อน สบายดีอยู่แล้ว
“ตอนนี้ผมจะเที่ยวไปเรื่อยๆก่อน เรื่องกลับเมืองไทยก็ไม่มีกฎหมายอะไรห้าม เพียงแต่ถ้าผมกลับเข้าไป ตอนนี้มันอันตราย เขาจะเล่นงานอะไรผมอีกก็ไม่รู้ ขนาดผมเป็นอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ อดีตนายกฯ ไม่มีใครหรอกที่เขาจะถอนพาสปอร์ตทางการทูตเขายังทำได้เลย วันนี้บ้านเมืองเราทั้งกฎหมาย มารยาท ประเพณี มันไม่เหลือแล้ว”
ปากดีเหน็บรัฐบาล “ฉันกันเละ”
อดีตนายกรัฐมนตรียังตอบคำถามถึงกรณีการขายหุ้นบริษัทชินวัตรด้วยว่า การขายหุ้นที่หลายคนบอกว่ารับไม่ได้นั้น อยากถามว่ามันผิดตรงไหน ในเมื่อทำทุกอย่างถูกต้องผ่านตลาดหลักทรัพย์ ลองไปดูได้เลยที่ผ่านมากฎเกณฑ์มันก็เป็นแบบนี้ ไปตรวจสอบดูได้เลยทั้งคุณสนธิ ลิ้มทองกุล คุณสุทธิชัย หยุ่น หรือแม้กระทั่งทางหนังสือพิมพ์มติชนเองก็ขายหุ้นแล้วไม่เสียภาษีกันทั้งนั้น ไม่เห็นมีใครไปว่าอะไร แต่มาถึงคราวตนกลับมีปัญหา ความยุติธรรมมันไม่มี ก่อนหน้านี้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองบางคนก็คอยยุยงให้สื่อโจมตี คอยยุยงเล่นท่าโน้นท่านี้ แต่ก็ไม่เป็นไรวันนี้ใครไม่เข้าใจ สักวันเขาก็ต้องเข้าใจ “และที่รัฐบาลนี้ชอบอ้างว่าเข้ามาด้วยนโยบายการสร้างความสมานฉันท์นั้น จริงๆแล้วน่าจะเป็นการเข้ามาฉันมากกว่า และคงฉันกันเละเสียด้วย”
โวซินแสทัก “2 ปีจะกลับมาใหญ่”
พ.ต.ท.ทักษิณยังได้กล่าวถึงการเดินสายไปยังประเทศต่างๆในช่วงที่ผ่านมาด้วยว่า ชีวิตตอนนี้นอกจากจะเป็นคนตกงานแล้ว ยังกลายเป็นนักท่องเที่ยวอาชีพ เป็นช่วงของเมียอุปถัมภ์ เกาะเมียกิน มาออสเตรเลียคราวนี้ก็อยากจะซื้อบ้าน กำลังให้คนดูดูให้อยู่ เมื่อถามว่า หลังจากท่องเที่ยวแล้วคิดจะกลับไปเป็นนายกฯอีกหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณตอบว่า “เรื่องนี้ก็น่าแปลกก่อนหน้านี้ตอนที่ไปเที่ยวฮ่องกงกำลังนั่งทานอาหาร จู่ๆก็มีซินแสที่ไม่รู้จักกันเข้ามาทัก บอกว่าอีก 2 ปีจะได้กลับมาเป็นใหญ่อีกครั้ง สำหรับเรื่องการเป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทย ตอนนี้ยังเป็นอยู่และไม่คิดลาออกไปไหน เนื่องจากเป็นคนก่อตั้งพรรคมากับมือ จะลาออกจากสมาชิกพรรคที่ตัวเองเป็นคนก่อตั้งขึ้นมาก็คงแปลกๆ
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์