เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 2 ก.พ. ขณะที่ พ.ต.ท.ณรงค์ชัย ฉายแสง สว.สส.สภ.อ.เมืองสมุทรปราการ กับตำรวจชุดสายสืบอีก 3 คน กำลังเดินไปที่ลานจอดรถโรงพักเตรียมออกไปตรวจพื้นที่ เห็นนายสุรชาติ หรือบอย จูประเสริฐ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66 หมู่ 4 ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ วิ่งโกยอ้าวมาจากถนนศรีสมุทร เข้าประตูด้านข้างโรงพัก อ้อมเข้าลานจอดรถหลังโรงพัก โดยมีนายจำเริญ ทองศรี อายุ 36 ปี วิ่งกระหืดกระหอบไล่ตามมาติดๆ ตะโกนให้ช่วยจับกุม จึงเข้าล็อกตัวนายสุรชาติ เพื่อสอบถามถึงเบื้องหน้าเบื้องหลัง
จากนั้นนายจำเริญ ทองศรี ได้แจ้งว่า ตนเป็นเจ้าของแผงรับเลี่ยมและขายพระเครื่อง “เล็กเลี่ยมพระ” ตั้งอยู่ในตลาดพระเครื่องข้างวัดพิชัยสงคราม ถนนศรีสมุทร ต.ปากน้ำ ห่างโรงพัก 200 เมตร ส่วนนายสุรชาติเป็นคนร้ายฉกเขี้ยวหมูป่าของตน พร้อมชี้ให้ดูเขี้ยวหมูป่าในมือของนายสุรชาติเป็นหลักฐานมัดตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจค้นกระเป๋าสะพายของนายสุรชาติ พบพระเครื่องอีกกว่า 20 องค์ โดยนายสุรชาติอ้างว่าเป็นพระเครื่องตนที่พกติดตัวมาด้วย
สอบสวนนายจำเริญ ผู้เสียหาย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขณะให้บริการลูกค้า 2 คน ที่มาเลือกเช่าพระเครื่องในร้าน นายสุรชาติได้เข้ามาขอดูเขี้ยวหมูป่า ซึ่งเป็นเครื่องรางชนิดหนึ่งที่วางโชว์อยู่ในตู้โชว์ จึงหยิบส่งให้ดูพร้อมแจ้งราคา 2,000 บาท จากนั้นได้หันกลับไปดูแลลูกค้าที่กำลังเลือกพระในร้าน ทันใดนั้นนายสุรชาติก็วิ่งหนีออกจากร้านไปตามถนนศรีสมุทร พร้อมเขี้ยวหมูป่าในมือ จึงไล่กวดตามมากระทั่งถึงประตูข้างโรงพัก นายสุรชาติก็รีบเลี้ยวเข้าโรงพัก จึงตะโกนขอความช่วยเหลือ กระทั่งตำรวจล็อกตัวไว้ได้ทันควัน
ส่วนนายสุรชาติ โจรบื้อให้การว่า ชื่นชอบพระเครื่องเป็นชีวิตจิตใจ เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาได้มาเดินดูพระเครื่องที่แผงพระข้างวัดพิชัยสงคราม เห็นเขี้ยวหมูป่าวางขายในแผงของนายจำเริญ ตนอยากได้มากจึงวางแผนขโมย โดยทำทีขอดูแล้วฉกหนีไปต่อหน้าต่อตานายจำเริญ เพราะมั่นใจว่าวิ่งเร็ว นายจำเริญคงวิ่งตามไม่ทัน ส่วนที่ วิ่งหนีเข้าโรงพัก เพราะคิดว่าเป็นคอนโดมิเนียมหรืออพาร์ตเมนต์ เนื่องจากเห็นรถจอดเยอะแยะ ทำให้พลาดท่าถูกตำรวจจับกุมอย่างง่ายดาย จึงคุมตัวนายสุรชาติพร้อมของกลางส่ง ร.ต.ท.ดำรงศักดิ์ จันทร์ดี ร้อยเวร สภ.อ.เมืองสมุทรปราการ ดำเนินคดีในข้อหาวิ่งราวทรัพย์
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์