แหล่งรวม ธุรกิจ บริษัท ห้างร้าน และ ข้อมูล การท่องเที่ยว ในแถบ อันดามัน
 
เข้าสู่ระบบ G! Builder
เลือกจังหวัด
ข่าวสาร ข่าวทั่วไป ภายในประเทศ

?ดีเอสไอ? แกะภาพได้แล้ว! มือบึ้มกรุง ?ถวัลย์ศักดิ์? นักก่อกวน ( ข่าวทั่วไป )

ภาพประกอบ ข่าวสาร ข่าวทั่วไป : ?ดีเอสไอ? แกะภาพได้แล้ว! มือบึ้มกรุง ?ถวัลย์ศักดิ์? นักก่อกวน
ภาพประกอบจาก หนังสือพิมพ์ข่าวสด

“ดีเอสไอ” ใช้เทคนิคตรวจภาพวงจรปิดได้แล้ว ระบุชัดมือบึ้มกรุง “ถวัลย์ศักดิ์ เจ๊ะนะ” นักเคลื่อนไหวเพื่อเงิน ที่รับทรัพย์จากประเทศเพื่อนบ้านเขามาก่อกวนต่อต้านประเทศตะวันตก ซึ่งมีหมายจับอยู่แล้ว ในคดีความมั่นคง เผยแหล่งกบดานย่านรามคำแหง ขณะที่ “ปุระชัย” เผยที่ประชุม กมธ.การยุติธรรม-ตำรวจ สนช.มีมติให้ นายกฯ และ รมต. มาแจงกระทู้บึ้มกรุงเทพฯ และเดลินิวส์ ระบุเป็นการมุ่งคุกคามสื่อ และทำลายขวัญกำลังใจของประชาชน ซึ่งตำรวจต้องเร่งสางคดีให้กระจ่างโดยเร็ว ด้าน “สนธิ” เตรียม หารือ ดีเอสไอ หลังเดินทางกลับจากภาคใต้ เผยได้รับรายงานการคลี่คลายคดีระเบิดป่วนกรุงจาก ผบ.ตร.แล้ว แต่ยังไม่มีเวลาอ่าน ชี้ “โกวิท” เป็นคนดีตั้งใจทำงาน แต่อาจไม่ถนัดงานสืบสวนสอบสวน ทำให้งานล่าช้า ทางด้าน กองพิสูจน์หลักฐาน รุดตรวจที่หน้าสำนักงาน เดลินิวส์ อย่างละเอียดอีกครั้ง หาแนววิถีกระสุน เพื่อสรุปว่าคนร้ายยิงมาจากไหนกันแน่
 
กรณีเหตุระเบิดป่วนกรุงเมื่อวันสิ้นปี แม้เวลาจะผ่านพ้นมาเดือนเต็ม ๆ แล้ว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่สามารถดำเนินคดีกับใครได้ จนกระทั่งมีเหตุยิงลูกระเบิดถล่ม นสพ.เดลินิวส์ขึ้นอีก ยิ่งสร้างความปั่นป่วนให้กับรัฐบาลและ คมช.อย่างยิ่ง ที่พยายามจะหาคนออกมารับผิด ชอบต่อเหตุการณ์ โดยทุกคนต่างพุ่งเป้ามาที่  พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร. ที่มีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยของประชาชน ล่าสุด พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ก็ยอมรับออกมาแล้วว่า ถ้าคดีไม่คืบ ก็อาจจะมีการประเมินผลการทำงานของ ผบ.ตร. โดยจะไม่คำนึงถึงรุ่นอย่างเด็ดขาด
 
ขณะที่ รมต.ประจำสำนักนายกฯ รุด มอบดอกไม้ให้กำลังใจ “เดลินิวส์” ในนามของรัฐบาล พร้อมเปิดเผยว่ามีข่าวมานานแล้วที่จะมีการจัดการ นสพ. 3 ฉบับคือ เดลินิวส์-ไทยโพสต์-ผู้จัดการ พร้อมกำลังใจจากทั่วทุกวงการ แห่ให้กำลังใจเพียบ ด้าน ผบช.น. สั่งวางกำลังล้อมคอกสื่อในพื้นที่ เพิ่มมาตรการ รปภ.เข้ม ส่วน “กฤษฎา” ประชุมเครียดนักสืบ ปรับแผนสืบเชิงลึก ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

“สนธิ” ได้รายงานจาก “โกวิท”
 ความคืบหน้า ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อเช้าวันที่ 1 ก.พ. พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ   ผบ.ตร. ได้นำเอกสารเกี่ยวกับคดีระเบิดกรุงเทพฯ มารายงานว่า เอกสารที่ พล.ต.อ.โกวิท นำมาให้เป็นเล่มใหญ่หนา 5 นิ้ว ตนเห็นแล้ว แต่ยังไม่มีเวลาอ่าน จึงยกเอกสารให้ผู้ช่วยเลขาธิการ คมช. ไปดูแทน โดยเน้นย้ำให้สรุปข้อมูลแล้วแจ้งให้ตนทราบอีกครั้ง ส่วนความคืบหน้าจะออกมาในลักษณะใด จะให้ผู้ช่วยชี้แจง

ให้ดีเอสไอไปดูใหม่ทั้งหมด
 ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีให้ ดีเอสไอเข้าร่วมคลี่คลายคดี พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ในแง่กฎหมาย รัฐบาลจะยกคดีให้ดีเอสไอ ก็ต้องให้เอาทั้งของเก่าและของใหม่ไปศึกษา และอยากศึกษาหรือดูภาพถ่ายของกล้องวงจรปิด ซึ่งน่าจะมีประโยชน์มากกว่า ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ระยะเวลาล่าช้านาน 1 เดือนแล้ว พล.อ.สนธิ กล่าวว่า อยู่ที่ตำรวจว่ามีข้อมูลมากน้อยแค่ไหน ส่วนกระทบต่อภาพลักษณ์ของ คมช. หรือไม่นั้น ทุกเรื่องถ้าโยนให้ คมช.หมดก็แย่ เพราะเราแบ่งงานกันทำ บางอย่างก็มีจำกัด แต่เราก็เข้าไปช่วยดูแลอยู่แล้ว
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้สามารถตัดผู้ต้องสงสัยในคดีที่เป็นทหารออกไปได้แล้วใช่หรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ตนไม่ยืนยันขนาดนั้น ขึ้นอยู่กับตำรวจจะพิจารณาว่าจะเล็งเป้าไปที่ไหน แต่ถ้าเกี่ยวกับทหารในกองทัพ ส่วนใหญ่เป็นครูที่สอนเกี่ยวกับวัตถุระเบิด ส่วนการสอบวินัยของกองทัพ ตนสั่งการไปแล้ว
 
ประธาน คมช. ยังกล่าวว่า จะนัดหารือกับดีเอสไออีกครั้ง หลังเดินทางกลับจากภาคใต้ เพราะที่ผ่านมาไม่มีเวลาว่าง และในอนาคตอยากให้โครงสร้างดีเอสไอ มีรูปแบบที่มีความเป็นอิสระจากตำรวจ เพื่อให้เกิดความสมดุลในการทำงาน

พฐ.รุดตรวจหาวิถีกระสุน
 ส่วนที่ สำนักงาน นสพ.เดลินิวส์ เช้าวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน นำโดย พ.ต.อ.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข นวท. (สบ 4) พ.ต.ท.อนุราช จิตศีล กลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ ได้เดินทางมาตรวจที่เกิดเหตุอีกครั้ง โดยเก็บเศษสะเก็ดระเบิดจากหลุมที่กระสุนตกอย่างละเอียด รวมทั้งตรวจหาแนววิถีกระสุน ว่ามีการยิงมาจากจุดใดกันแน่ โดยใช้เวลาตรวจกันอย่างละเอียดเป็นเวลาหลายชั่วโมง นอกจากนั้นยังออกไปที่ซอยวิภาวดี 52 เพื่อตรวจหาวิถีกระสุนถึงความเป็นไปได้หรือไม่ ที่คนร้ายจะใช้เป็นจุดซุ่มยิงระเบิดเข้ามาในสำนักงาน นสพ.เดลินิวส์

ทางด้าน พล.ต.ต.แสงชัย สุวัฒนภักดี ผบก.พฐ. กล่าวว่ากองพิสูจน์หลักฐานรับผิดชอบในเรื่องวิถีกระสุนว่ามาจากด้านไหน จึงส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจหาอีกครั้ง และได้รับรายงานว่าขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่า คนร้ายยิงมาจากด้านบนทางด่วนโทลล์เวย์หรือด้านล่าง จะต้องขอดูภาพถ่ายจากดาวเทียมอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากที่ได้มายังไม่สมบูรณ์ ต้องขอเวลาอีกสักระยะหนึ่งก็จะทราบ และชี้ชัดได้ถึงวิถีกระสุนว่ามาจากด้านไหนแน่ เพราะทราบว่าระยะยิงเอ็ม 79 อยู่ในระยะ 30-400 เมตร

“ปุระชัย” จี้รัฐบาลแจง กมธ.
 ส่วนที่รัฐสภา ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ประธานคณะกรรมาธิการการยุติธรรม การตำรวจ และสิทธิมนุษยชน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แถลงภายหลังการประชุมพร้อมด้วย นางประภา เหตระกูล ศรีนวลนัด โฆษกคณะกรรมาธิการฯ ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาเหตุการณ์ยิงเครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 ที่สำนักงานหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ หลังจากที่ สนช.ได้ยื่นกระทู้ถามสด เมื่อวันที่ 31 ม.ค. แต่ พล.อ.สุร ยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องติดภารกิจ ไม่ได้มาชี้แจงต่อที่ประชุม ดังนั้นที่ประชุมจึงได้หารือกัน และมีมติประสานไปยังวิป สนช.ขอให้รัฐบาลมาชี้แจงกระทู้ดังกล่าว ในการประชุม สนช.วันที่ 7 ก.พ. เพราะเรื่องนี้มีความสำคัญมาก เพราะเหตุเกิดใจกลางประเทศ กระทบกับสื่อมวลชนและขวัญกำลังใจของประชาชนมาก

ชี้ตำรวจต้องเร่งหาตัวคนร้าย
 ร.ต.อ.ปุระชัย กล่าวว่า เบื้องต้นคณะกรรมาธิการฯ มองว่าเป็นการข่มขู่คุกคาม ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องสอบสวนหาตัวผู้กระทำการ หรือผู้บงการมาดำเนินคดีให้ได้ ซึ่งกรรมาธิการฯต้องการทราบความคืบหน้าในการตรวจสอบติดตาม เพราะขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า เจ้าหน้าที่ต้องทุ่มเทอย่างจริงจัง ผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุการณ์ระเบิดหลายจุดก่อนหน้าที่ไม่คืบหน้าจะต้องมีการปรับเปลี่ยน ผบ.ตร.หรือไม่ ร.ต.อ.ปุระชัย กล่าวว่า เราเป็นฝ่ายนิติบัญญัติคงจะไม่ก้าวล่วง เป็นอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ที่ต้องไล่ความรับผิดชอบตามลำดับชั้น ทั้งนี้ จะไม่สอบถามครอบคลุมไปถึงเหตุการณ์ระเบิดใน กท. รวมทั้งประเด็นการจะปรับ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ พ้นตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) หรือไม่ เพราะเป็นคนละประเด็น โดยเฉพาะเรื่องการปรับโครงสร้างตำรวจ และตัวบุคคลจะมีอนุกรรมาธิการศึกษาในเรื่องนี้

“ชาญชัย” เผยได้ภาพคนร้าย
 ทางด้าน นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ รมว. ยุติธรรม เปิดเผยว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้นำเทปที่บันทึกจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดในสถานที่เกิดเหตุแห่งหนึ่งมาตรวจสอบ และพบว่ามีกลุ่มผู้ต้องสงสัย 3 ราย ซึ่งเป็นชาย 2 ราย และหญิง 1 ราย โดยในจำนวน 3 ราย มีเพียงชาย 1 ราย เท่านั้น ที่เจ้าหน้าที่ใช้เทคนิคการดึงภาพขึ้นมาและทำภาพเชิงซ้อน จนได้ภาพใบหน้าที่ชัดเจนมากขึ้น หลังจากนั้น นำภาพสเกตช์ไปตรวจสอบและเปรียบเทียบกับแฟ้มประวัติอาชญากร พบว่าผู้ต้องสงสัยเป็นพลเรือนที่มีประวัติต้องคดีอาญา ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างหลบหนีหมายจับ ส่วนผู้ต้องสงสัยอีก 2 ราย กำลังส่งไปทำเทคนิคเพิ่มเติมยังต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม เทปโทรทัศน์วงจรปิดที่ดีเอสไอนำมาแกะภาพผู้ต้องสงสัยเป็นเทปม้วนเดียวที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมี

ระบุชัด “ถวัลย์ศักดิ์ เจ๊ะนะ”
 ที่กองปราบปราม วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงาน หลังจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ออกมาระบุว่าได้นำเทปบันทึกภาพจาก กล้องวงจรปิดมาวิเคราะห์หาตัวผู้ต้องสงสัย จนพอจะทราบกลุ่มผู้ต้องหาแล้วนั้น เรื่องดังกล่าวมีรายงานข่าวว่าจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ผ่านมา ได้มีการนำภาพจากกล้องวงจรปิดของฝ่ายรักษาความปลอดภัยในห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์ ซึ่งพบว่ามีการได้บันทึกภาพกลุ่มผู้ต้องสงสัยกลุ่มหนึ่ง โดยในภาพดังกล่าวพบตัวผู้ต้องสงสัยเดินหนีบกระป๋องมันฝรั่งยี่ห้อเดียวกันกับกระป๋องมันฝรั่งที่บรรจุระเบิด ซึ่งเป็นหลักฐานจากที่เกิดเหตุ โดยภาพดังกล่าวถูกบันทึกได้ในช่วงเวลาก่อนเวลา 18.00 น. ของวันที่ 31 ธันวาคม แต่จากนั้น ภาพวงจรปิดมองไม่เห็นภาพในขณะที่บุคคลดังกล่าวนำกระป๋องที่บรรจุระเบิดใส่ลงไปในถังขยะ
 
นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังรายงานอีกว่า ภาพวงจรปิดดังกล่าวยังได้บันทึกภาพของกลุ่มชายฉกรรจ์ที่ร่วมอยู่ในกลุ่มผู้ต้องสงสัยนั้นได้อีก 1 คน ซึ่งหลังจากที่ชุดสืบสวนได้ส่งภาพดังกล่าวไปตรวจสอบกับ สปก.ส่วนหน้า พบว่าตามรูปพรรณสัณฐานของชายคนดังกล่าว มีใบหน้าและรูปร่างคล้ายกันกับ นายถวัลย์ศักดิ์ เจ๊ะนะ ผู้ต้องหารายหนึ่ง ที่พบในทะเบียนประวัติอาชญากร มีหมายจับคดีความมั่นคงของ สภ.อ.เบตง จังหวัดยะลา อีกด้วย

เป็นกลุ่มที่รับเงินมาก่อกวน
 รายงานข่าวแจ้งด้วยว่าจากการตรวจสอบประวัติคนร้ายรายนี้ พบว่าอยู่ในขบวนการพีวายเอ็นเอสเอส (PYNSS) ซึ่งเป็นกลุ่มก่อความไม่สงบที่ได้รับเงินสนับสนุนจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อให้เข้าเคลื่อนไหวก่อกวนผลประโยชน์ของชาติตะวันตก แต่ขบวนการดังกล่าวนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มที่ต้องการแบ่งแยกดินแดนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากไม่พบว่ามีการก่อเหตุในลักษณะเชิงอุดมการณ์ แต่เป็นแค่การรับจ้างเพื่อรับเงินสนับสนุนเท่านั้น นอกจากนั้น นายถวัลย์ศักดิ์ ยังรู้จักมักคุ้นเป็นอย่างดีกับ 1 ใน 18 คน ที่ถูกตำรวจ-ทหารเชิญตัวมาสอบก่อนหน้านี้ด้วย
 
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า พบกลุ่มผู้ต้องสงสัยที่อยู่ในข่ายต้องสงสัยอีกกลุ่ม ซึ่งมีความสามารถและอาจทำงานระเบิดครั้งนี้ได้ โดยมีรายงานจากการสืบสวนพบว่า กลุ่มนี้ได้เข้ามากบดานอยู่ในกรุงเทพฯ ที่ย่านรามคำแหง โดยทราบด้วยว่าแกนนำของกลุ่มนี้คือนายไฟซอล หะยีสะมาแอ มือทำระเบิด ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีก่อความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีหมายจับติดตัวเป็นจำนวนมาก

สภาการนสพ.ประณามคนร้าย
ที่ห้องประชุมสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ มีการประชุมคณะกรรมการสภาการหนังสือพิมพ์ฯ สมัยที่ 5 ครั้งที่ 1/2550 มีนาย สุวัฒน์ ทองธนากุล รองประธานสภาการหนังสือพิมพ์ฯ คนที่ 1 เป็นประธาน ในช่วงท้ายที่ประชุมได้หารือถึงเหตุยิงระเบิดใส่สำนักงานหนังสือ พิมพ์เดลินิวส์ เมื่อเร็ว ๆ นี้ และมีมติร่วมกันว่า สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ขอสนับสนุนขอเรียกร้องตามแถลงการณ์ของสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เมื่อวันจันทร์ที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา ประณามผู้ลงมือกระทำการดังกล่าว ไม่ว่าจะด้วยวัตถุประสงค์ใดก็ตาม เพราะถือเป็นการกระทำที่กระทบกระเทือนต่อสิทธิเสรีภาพการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนและขอเร่งรัดหน่วยงานผู้รับผิดชอบได้ติดตามหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้โดยเร็ว

“โกวิท” อาจจะทำงานไม่ถนัด
 ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และ ประธาน คมช. กล่าว ถึงกระแสข่าวการปลด พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร.ว่า ตนไม่มีอำนาจในการพิจารณาตำแหน่งของ ผบ.ตร. การตัดสินใจอยู่ที่นายกรัฐมนตรีเพียง ผู้เดียว ทั้งนี้ตนมองว่า พล.ต.อ.โกวิท เป็นคนดี ตั้งใจทำงาน เพียงแต่อาจไม่ถนัดงานสืบสวน สอบสวน ส่งผลให้การทำงานด้านคดีระเบิดใน กท. เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. ที่ผ่านมา มีความล่าช้า
 
“ผมรู้สึกเห็นใจ ผบ.ตร. เนื่องจากท่านเป็นคนดี มีความตั้งใจในการทำงานสูง เพราะท่านเป็นตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) มาก่อน อาจไม่ชำนาญด้านการสืบสวนสอบสวน ทำให้งานล่าช้า ไม่ทันใจต่อกระแสสังคมที่ต้องการเห็นผลสรุปของคดีรวดเร็วกว่านี้” ประธาน คมช.กล่าว.

ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์

Valid XHTML 1.0 Transitional Valid CSS!
ทะเบียนพาณิชย์อีเลคทรอนิคส์ เลขที่ 8373549000215