แชทเสียว ภาพสะท้อนของสังคมทราม ( ข่าวทั่วไป )

ภาพจากหนังสือพิมพ์ มติชน

<b>?สหรัฐฯ? 9 คน ยัน ?อิตาลี? 10คน 1-1 กรรมการชาวอุรุกวัยใจเด็ดแจก 3 ใบแดง ทำครึ่งแรกระส่ำ ?จิลาร์ดิโน่? โขกนำ ก่อน ?ซาคคาร์โด? เตะสกัดผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเอง ?รอสซี่? นอกเกมศอก ?แม็คไบรด์? ถึงเลือด ลูกยิง ?เดล? สิ้นฤทธิ์เจอ ?เคลเลอร์? โคตรเซฟ</b>

ฟุตบอลโลก 2006 ประจำวันเสาร์ที่ 17 มิ.ย. ในคู่ที่ 3 เวลา 02.00 น. ที่สนามฟริทซ์ วัลเตอร์ สเตเดี้ยม เมืองไกเซอร์สเลาเทิร์น ประเทศเยอรมัน เป็นการแข่งขันของทีมในกลุ่ม E รอบแรกนัดที่สอง ระหว่าง อิตาลี กับ สหรัฐอเมริกา

ครึ่งแรก นาทีที่ 22 อิตาลี ได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจากจังหวะเปิดฟรีคิกของ คริสเตียน ซาคคาร์โด้ ที่ตักเข้าไปในเขตโทษ และเป็น <b>อัลแบร์โต จิลาร์ดิโน่ </b>ที่พุ่งตอปิโดโหม่งที่เสาแรก ส่งบอลเข้าประตูไปที่เสาสอง ให้อิตาลี นำ<b> 1-0</b>

แต่แล้วนาทีที่ 27 อิตาลี ก็พลาดท่า เมื่อมาเสียประตูจากจังหวะเปิดฟรีคิกบริเวณกราบขวาของสหรัฐฯ แต่เป็น <b>คริสเตียน ซาคคาร์โด้</b> ที่พยายามเตะสกัดเคลียร์อยู่ที่เสาสอง แต่บอลไม่เชื่องเท้า กลับแฉลบเปลี่ยนทางย้อนเข้าประตูตัวเองไปอย่างไม่คาดคิด เป็นประตูตีเสมอ<b> 1-1</b>

เพียงนาทีถัดมา นาทีที่ 28 ขุนพลอัสซูรี่ ต้องเหลือผู้เล่น 10 คน จากจังหวะขึ้นเบียดสกัดของ <b>ดานิเอเล่ เด รอสซี่</b> ที่เจตนาฟันศอกใส่ ไบรอัน แม็คไบรด์ ของสหรัฐฯ จนเลือดอาบหน้า จอร์จ ลาร์ริออนน่า ผู้ตัดสินชาวอุรุกวัยไม่รอช้าควักใบแดงไล่ รอสซี่ ออกจากสนามไป

นาทีที่ 35 อิตาลี แก้เกมโดยส่ง เจนนาโร่ กัสตูโซ่ ลงมาแทน ฟรานเชสโก ต็อตติ

นาทีที่ 42 พาโบล มาสโทรเอนี่ ของสหรัฐฯมีจังหวะสับไกลหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งข้ามคานไปแค่คืบอย่างได้ลุ้น

แต่เพียง 3 นาทีให้หลัง นาทีที่ 45 ก่อนหมดครึ่งแรก <b>มาสโทรเอนี่</b> เสียบสกัดชนิดเปิดปุ่มสตั๊ดเข้าอย่างจังที่แข้ง อังเดร เปียโล จนล้มลง ผู้ตัดสินตัดสินใจเด็ดขาดชูใบแดงไล่ มาสโทรเอนี่ ออกจากสนามเป็นคนที่สองของเกม ทำให้ทั้งสองทีมมีผู้เล่น 10 คน เท่ากัน

<b>จบครึ่งแรก อิตาลี เสมอ สหรัฐฯ 1-1</b>

เริ่มครึ่งหลังได้เพียง 2 นาที นาทีที่ 47 สถานการณ์ความเสียเปรียบกลับตกเป็นของสหรัฐฯ เมื่อ<b> เอ็ดดี้ โป๊ป</b> ผู้เล่นสหรัฐฯ เข้าเสียบสกัดเกี่ยวเอา จิลาร์ดิโน่ ล้มคว่ำ ผู้ตัดสินควักใบเหลือง ซึ่งเป็นใบที่ 2 เป็นใบแดงไล่ เอ็ดดี้ โป๊ป ออกจากสนามเป็นคนที่ 3 ของเกมนี้ ทำให้สหรัฐฯ เหลือผู้เล่นในสนามเพียง 9 คน

นาทีที่ 52 คาร์ลอส โบคาเน็กก้า แผงหลังของสหรัฐฯ พยายามขึ้นโหม่งสกัดลูกฟรีคิกของอิตาลี แต่ผิดเหลี่ยมบอลลอยไปชนคานกระดอนออกมา เกือบเป็นการทำเข้าประตูตัวเอง

นาทีที่ 54 อิตาลี ส่ง อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ ลงมาเสริมทัพแทน คริสเตียน ซาคคาร์โด้

นาทีที่ 63 แลนดอน โดโนวาน ของสหรัฐฯ พาบอลจากครึ่งสนาม ก่อนจ่ายไปทางซ้ายให้ ไบรอัน แม็คไบรด์ ซัดด้วยซ้าย แต่ไม่ตรงกรอบ บอลพุ่งออกเสาแรกไปอย่างได้เสียว

จากนั้นกองเชียร์สหรัฐฯ ก็ดีใจกันเก้อ เมื่อ ดามาร์คุส บีสเลย์ ยิงบริเวณมุมกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อน แม็คไบรด์ ที่ยืนในตำแหน่งล้ำหน้าจะยกขาหลบเปิดทางให้บอลพุ่งเสียบตาข่าย แต่ผู้ตัดสินเป่าให้เป็นลูกล้ำหน้าชนิดที่ทำให้กองเชียร์เซ็งไปตาม ๆ กัน

นาทีที่ 58 จิอันลูก้า ซามบรอตต้า โชว์ลีลาฝีเท้าด้วยการกระชากบอลจากซ้ายตัดเข้ากลาง ก่อนยิงเต็มข้อบริเวณเส้นกรอบเขตโทษ แต่บอลหลุดออกเสาสองไป

นาทีที่ 73 โอกาสทำประตูของอิตาลีมาอีกครั้ง เมื่อ ซิโมเน่ แปร์รอตต้า ตักบอลขึ้นหน้าไปหน้าประตู เดล ปิเอโร่ สบโอกาสยิงด้วยซ้ายระยะเผาขน แต่ เคซี่ย์ เคลเลอร์ นายทวารสหรัฐฯ กระโดดตัวลอยซูเปอร์เซฟปัดออกไปได้อย่างหวุดหวิด

นาทีที่ 79 เดล ปิเอโร่ มีโอาสยิงอีกครั้งระยะ 35 หลา เคลเลอร์ ก็พุ่งซูเปอร์เซฟอย่างสวยงามปัดออกหลังไป ป้องกันประตูไว้ได้อีกครั้ง

ในช่วง 10 นาทีสุดท้าย เกมส่วนใหญ่ตกเป็นของอิตาลี ที่ลำเลียงบอลขึ้นไปป้วนเปี้ยนในแดนของสหรัฐฯ แต่ก็ยิงเพิ่มกันไม่ได้ จบเกมทั้งคู่เสมอกันไป 1-1 ทำให้อิตาลี เก็บเพิ่มเป็น 4 คะแนน ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม E ขณะที่ สหรัฐฯ มีแค่ 1 คะแนน ซึ่งทุกทีมในกลุ่มนี้ยังมีโอกาสเข้ารอบ โดยจะต้องไปลุ้นผลกันในนัดสุดท้าย.

ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์