?ทักษิณ? ลั่นพร้อมรับผิดสุวรรณภูมิ วอนขออย่ากลั่น ( ข่าวทั่วไป )

โยน’สพรั่ง’จัดการปัญหาคิงเพาเวอร์
ปัญหาสุวรรณภูมิ ทักษิณบอกต่อนพดล พร้อมรับผิดชอบแต่ห้ามกลั่นแกล้งกัน ตีนกันอย่านำไปโยงเป็นประเด็นการเมืองส่วนปัญหาคิงเพาเวอร์ รมว.คมนาคม โยนสพรั่งเป็นคนจัดการ กมธ.ฯ ยัน สัญญาคิงเพาเวอร์มีปัญหา ใช้พื้นที่เกินจริง แถมเอาเงิน 2 พันล้านบาทมายัดให้ก่อน จี้ทอท.แจงเงินอยู่ไหน เผย ปัญหาในสุวรรณภูมิโผล่อีกหลายจุด บรรณวิทย์ ย้ำเอาผิดบริษัทรับเหมาขั้นแรก ระบุหลักฐานสาวถึงตัวอดีตนายกฯ เพียบ ส่วนหม่อมอุ๋ย แจงให้ความร่วมมือกับ คตส. แล้ว แม้ว-หญิงอ้อ ยันสู้คดีซื้อที่ดินย่านรัชดาฯ ถึงที่สุด นพดล อัด คตส. อย่าปล่อยข่าวชี้นำ ย้ำ อดีตนายกฯ ทักษิณ อยากมาสู้คดีด้วยตัวเอง ด้านปัญหาหวยนัดถกกันอีกรอบเตรียมชี้ 2 ฐานความผิด นายกฯ ย้ำหน่วยงานรัฐต้องร่วมมือกับ คตส. คุณหญิงทิพาวดี แฉ 78 โครงการของรัฐในปีงบประมาณ 51 เสี่ยงต่อการทุจริต ส่งผู้ตรวจราชการดูรายละเอียดแล้ว  

ทักษิณแจงปัญหาสุวรรณภูมิ
 ปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับสนามบินสุวรรณ ภูมิที่เริ่มทวีความรุนแรงและหลากหลายมากยิ่งขึ้น นั้น เมื่อวันที่ 30 ม.ค ที่โรงแรมโซฟิเทล เซ็นทรัล ลาดพร้าว นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและครอบครัว ชินวัตร แถลงว่า เวลานี้มีความพยายาม จะโยงปัญหาในสนามบินสุวรรณภูมิว่าเกิดจากการทุจริต ให้เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลเก่าและอดีตนายกฯ ซึ่งจากการพูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ฝากให้ตนชี้แจงว่า สนามบินสุวรรณภูมิเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย เมื่อเกิดข้อบกพร่องอยู่บ้างก็ต้องซ่อมแซมแก้ไข ใครรับผิดชอบในส่วนใดก็ต้องว่าไปตามนั้น

อย่าโยงปมการเมือง
 นายนพดล กล่าวต่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะสนับสนุนการตรวจสอบอย่างเต็มที่ เพื่อหา   ผู้รับผิดชอบไม่ว่าผลตรวจสอบจะพบว่ามีคนในรัฐบาลที่ผ่านมาเกี่ยวข้องก็ต้องว่าไปตามนั้น ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย แต่ขอให้ว่าไปตามจริงอย่ากลั่นแกล้ง พ.ต.ท.ทักษิณเป็นห่วงการใช้สนามบินสุวรรณภูมิมาเป็นเรื่องการเมืองเพราะจะเป็นผลเสียมากกว่าผลดี ทำลายภาพลักษณ์ของประเทศ พ.ต.ท.ทักษิณต้องการให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าใจในประเด็นนี้ อย่างไรก็ตาม ที่ตนออกมาพูดไม่ได้หมายความว่าอดีตนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลที่ผ่านมาจะไม่รับผิดชอบกรณีสนามบินสุวรรณภูมิ แต่อยากให้แยกแยะพิจารณาตามส่วนหน้าที่ความรับผิดชอบเพราะสนามบินได้สร้างมาหลายรัฐบาล
 
เมื่อถามว่าการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เร่งรัดการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิให้แล้วเสร็จโดยเร็วอาจจะทำให้เกิดข้อผิดพลาดได้หรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า ตนไม่เชื่อว่าอดีตนายกฯ จะไปเร่งรัดในสิ่งที่ไม่เหมาะสมกับการก่อสร้างโดยไม่คำนึงถึงหลักทางวิศวกรรม เมื่อถามย้ำว่าในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณก็เคยได้รับรายงานปัญหารันเวย์ร้าว แต่ได้มีการปฏิเสธจนกระทั่งมีนักข่าวของสำนักพิมพ์แห่งหนึ่งถูกไล่ออก นายนพดล ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม โดยอ้างว่าจะกลายเป็นเรื่องที่จะต้องอธิบายกันยาว

เตรียมพร้อมสนามบินดอนเมือง
 ที่สนามบินดอนเมือง เวลา 13.30 น.   ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.อ.พินิจ สาหร่ายทอง ผอ. ท่าอากาศยานกรุงเทพ (ดอนเมือง) บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด หรือ ทอท. ได้นำคณะสื่อมวลชนตรวจสอบอาคาร 1 ระหว่างประเทศ และ พื้นที่ร้านค้าเชิงพาณิชย์ในสนามบินดอนเมือง เพื่อดูความพร้อมของพื้นที่อาคารผู้โดยสารฯ ก่อน ที่จะให้สายการบินในประเทศที่ไม่ต่อเที่ยวบินย้ายกลับมาที่สนามบินดอนเมือง โดยนายพินิจ กล่าวว่า หากการประชุม ครม. ในวันที่ 6 ก.พ.นี้ มีมติให้กลับมาใช้สนามบินดอนเมือง ทอท. จะต้องซ่อมแซมรันเวย์ด้านทิศตะวันตก เนื่องจากพื้นเป็นลูกคลื่นและถึงเวลาซ่อมแซม คาดใช้งบประมาณ 16 ล้านบาท และใช้ระยะเวลา 30 วัน โดยคาดว่าการให้บริการจะรวดเร็วกว่าที่สนามบินสุวรรณภูมิ

แจงรายจ่าย-ยอดคนใช้บริการ
 ร.อ.พินิจ กล่าวต่อว่า ทอท. จะใช้อาคาร 1 (ระหว่างประเทศ) เปิดเคาน์เตอร์เช็กอิน 8 เคาน์เตอร์ แบ่งเป็นด้านทิศเหนือ 4 เคาน์เตอร์ ใช้เช็กอินเครื่องบินเช่าเหมาลำ เครื่องบินส่วนตัวที่มาจากต่างประเทศ ส่วนเคาน์เตอร์ทิศใต้ 4 เคาน์เตอร์ให้บริการเช็กอินเที่ยวบินในประเทศ ในเบื้องต้นตั้งเป้าผู้ใช้บริการประมาณ 5 ล้านคน คาดว่า ทอท. จะมีค่าใช้จ่ายในสนามบินดอนเมือง ประมาณ 33 ล้านบาทต่อเดือน จะมีการจ้าง   เจ้าหน้าที่มาดูแลสนามบินอีก 23 คน จ้างแม่บ้าน และ รปภ. ประมาณ 151 คน จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 30 ล้านบาทต่อเดือน ค่าไฟฟ้า ประปา ประมาณ 30 ล้านบาทต่อเดือน และค่าเสื่อมอาคารประมาณ 100 ล้านบาทต่อเดือน ส่วน เรื่องระบบขนส่งก็จะมีการนำแท็กซี่ รถโดยสารแอร์พอร์ตเอ็กซ์เพรส และรถลีมูซีน

ผอ.ท่าอากาศยานฯ เผยอีกว่า สำหรับการเปิดให้เอกชนเข้ามาประมูลเช่าร้านค้าจะต้องประกาศล่วงหน้า 7 วัน และจะให้แล้วเสร็จ  ภายใน 30 วัน โดยจะดำเนินการอย่างโปร่งใส ส่วนกรณีที่การบินไทยขอใช้อาคารผู้โดยสารในประเทศแทนการใช้อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ นั้น ทอท. ยังไม่ได้มีหนังสือตอบกลับไปที่การบินไทย เพราะยังไม่ทราบตารางการบินของการบินไทยที่ชัดเจน และถ้าให้การบินไทยไปใช้อาคารผู้โดยสารในประเทศจะทำให้ ทอท. มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เนื่องจากในปัจจุบันพื้นที่อาคารระหว่างประเทศใช้สำหรับเครื่องบินเช่าเหมาลำ และเครื่องบินส่วนตัวจากต่างประเทศ แต่ถ้าการบินไทยใช้รวมกับเที่ยวบินต่างประเทศ ทอท. จะประหยัดค่าใช้จ่าย

ชงสพรั่งจัดการคิงเพาเวอร์
 พล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ รมว.คมนาคม กล่าวว่า การย้ายสนามบินต้องคำนึงถึงความปลอดภัย หากย้ายทันช่วงสงกรานต์ก็ดีเพราะในช่วงนั้นคนใช้บริการเยอะ หากไม่ทันก็ให้ทำตามกำหนดเดิม คือ ให้เสร็จภายใน 45 วัน ซึ่งได้มอบหมายให้กรมการขนส่งทางอากาศไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการแล้ว ส่วน กรณีที่คิงเพาเวอร์ใช้พื้นที่ร้านค้าเชิงพาณิชย์และร้านค้าปลอดภาษี เกินกว่าสัญญาที่ระบุไว้ 5,000 ตร.ม. และพร้อมจ่ายค่าตอบแทนให้กับ ทอท. นั้น ได้สั่งการให้ พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ในฐานะประธานคณะกรรมการ ทอท. เป็นผู้ตัดสินใจว่าจะต้องทำอย่างไร

สุวรรณภูมิมีปัญหาเพิ่มอีก
 ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ  วิสามัญศึกษาและติดตามการแก้ไขปัญหาสนามบิน  สุวรรณภูมิ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มี  พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน เป็นประธาน โดยมี คณะอนุกรรมาธิการแต่ละคณะที่ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบมารายงานความคืบหน้า โดย พล.อ.อ.ธเรศ   ปุณณะศรี ประธานคณะอนุกรรมาธิการศึกษาและแก้ไขปัญหาการรักษาความสะอาด  และสภาพแวดล้อมภายในสนามบินสุวรรณภูมิ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่พบประตูหนีไฟอัตโนมัติใช้งานไม่ได้หลายจุด และทุกบานประตูใช้โลหะซึ่งหากเกิดเพลิงไหม้จะทำให้มีความร้อนสูง เป็นอันตราย ส่วนห้องสูบบุหรี่เครื่องฟอกอากาศและเครื่องดูดอากาศก็ไม่ทำงาน รวมทั้งระบบทำความเย็นก็มีปัญหาด้วย

โยน ทอท. แจงเงิน 2 พันล้าน
 พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ ประธาน คณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาสัญญาการดำเนินงานคิงเพาเวอร์ กล่าวว่า กรณีเงิน 2,000 ล้านบาท ที่คิงเพาเวอร์ให้ ทอท. นั้น เป็นเงินที่บริษัทคิงเพาเวอร์จ่ายเพิ่มให้กับ ทอท. ล่วงหน้าก่อนที่จะได้รับงานในสนามบิน เพราะบริษัทอาจกลัวว่าจะไม่ได้งานหรือไม่นั้นก็ไม่ทราบ แต่จากเอกสารหลักฐานก็ทำให้คิดเป็นอื่นไม่ได้ ในเรื่องนี้ ทอท. จะต้องออกมาชี้แจงว่าเงิน 2,000 ล้านบาท อยู่ที่ใด และเมื่อตรวจสอบสัญญาก็พบว่ามีการใช้พื้นที่เกินกำหนด

แฉคิงเพาเวอร์ผิดสัญญา
  "ในสัญญาใช้คำว่า ไม่ต่ำกว่า 5,000  ตร.ม. แต่คิงเพาเวอร์ กลับใช้พื้นที่สร้างร้านค้าปลอดอากรและคลังสินค้าของตัวเองสูงถึง 11,820 ตร.ม. ส่วนสัญญาโครงการจัดกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ที่บริษัทคิงเพาเวอร์ ได้รับอนุมัติ คือ 20,000  ตร.ม. แต่การใช้พื้นที่จริงกลับสูงถึง 37,600 ตร.ม. และยังพบว่ามีการใช้พื้นที่เพิ่มเติมเพื่อทำ city garden อีก 25,827.67 ตร.ม. นอกจากนี้ยังพบว่ามีการแก้ไขแบบจากเดิมเป็นทางเลื่อน แต่ปรับเป็นร้านค้าทั้งหมด ซึ่งเป็นเรื่องที่ ทอท. ต้องตอบให้ได้ เพราะสิ่งเหล่านี้คือสุสานความชั่วร้ายที่กินกันอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่การวางรูปแบบ การเขียนสัญญาและการตั้งบริษัทที่ปรึกษา" พล.อ. ปฐมพงษ์ กล่าว

เอาผิดบ.รับเหมา-จี้ถึงอดีตนายกฯ
 พล.ร.อ.บรรณวิทย์ กล่าวว่า การย้ายสนามบินเป็นไปตามมติที่ประชุม ทอท. เนื่องจากสนามบินสุวรรณภูมิยังไม่มีการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ทำให้เกิดปัญหาระหว่างผู้โดยสารภายในประเทศและผู้โดยสารระหว่างประเทศ การที่รัฐบาล ชุดที่แล้วอ้างว่าการไม่สร้างอาคารภายในประเทศทำ ให้ลดค่าใช้จ่ายได้นั้นเป็นการพูดความจริงไม่หมด  นอกจากนี้ยังมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับนายอลง  กรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ด้วย ในส่วนของเรื่องการประมูลรถเข็นกระเป๋า พีซีแอร์ 400 เฮิรตซ์ และการประมูลเช่ารถลีมูซีน ซึ่งทำให้รัฐเสียประโยชน์ ทั้งนี้กำลังเข้าไปรื้อดูสัญญาทั้งหมด เพื่อจะเอาผิดกับบริษัทรับเหมา ซึ่งตรงนี้จะมีผลที่สุดในการลากเอาตัวคนผิดมาลงโทษ เท่าที่ดูข้อมูลการทุจริตในทุกโครงการล้วนสาวไปถึงตัวอดีตนายกฯ ทั้งหมด

เชื่อคนผิดถูกลงโทษแน่
 เมื่อถามว่าภาพลักษณ์ในสายตาต่างชาติที่เสียไปจะแก้ไขอย่างไร พล.ร.อ.บรรณวิทย์ ตอบว่า "ขอเปรียบสนามบินสุวรรณภูมิเหมือนเด็กที่เกิดมาพิกลพิการ แต่คนที่ทำให้เด็กคนนี้เกิดมากลับไปเสวยสุขอยู่ต่างประเทศ เราเข้ามาตรงนี้ก็เพื่อจะติดตามเอาตัวคนผิดมาลงโทษ และ แก้ไขปรับปรุงให้สนามบินเป็นที่ยอมรับของนานา ชาติ ยอมรับว่าข่าวที่ออกไปมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ เราต้องแก้ไขเพื่อให้สุวรรณภูมิสามารถแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านได้ ผมอยู่ในฐานะที่สั่งงานได้โดยตรง ทำให้ลดขั้นตอนในการสั่งการลงได้มาก ซึ่งผมเชื่อว่าจะสามารถเอาตัวคนผิดมาลงโทษได้ ภายในระยะเวลา 3 เดือน ที่คณะกรรมา ธิการวิสามัญฯ ได้รับมอบหมายมาจาก สนช."

หม่อมอุ๋ยย้ำร่วมมือคตส.แล้ว
 ส่วนความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการทำงานของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) นั้น ที่ทำเนียบรัฐบาล ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง กล่าวว่า กรณี คตส. หารือกับ คมช. และเลขาธิการนายกรัฐมนตรี แล้วมีการมองกันว่าเป็นการพุ่งเป้ามาหาตนนั้นไม่ใช่ คตส. ไม่ได้รุกตนเพราะในส่วนที่รับผิดชอบมีการร้องทุกข์แล้ว เมื่อถามว่า พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และประธาน คมช. ระบุด้วยว่าหากกระทรวงใดไม่ร่วมมือกับ คตส. รมว.จะต้องรับผิดชอบ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวว่า บังเอิญเราร่วมมือหมด คตส. ส่งเรื่องมาถึงวันแรกก็ทำเลยสถิติมีอยู่ตั้งแต่วันแรกแล้ว
 
นายประสิทธิ์ โฆวิไลกูล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวในเรื่องเดียวกันนี้ว่า ความจริงแล้วการมอบหมายหรือการออกเป็นมติครม. ก็คงไม่ต่างกัน เพียงแต่ถ้าได้ผ่านเป็นมติครม. ก็จะถือว่าได้ผ่านการระดมความเห็นของรัฐมนตรีเพื่อให้เป็นทางการมากขึ้น และเชื่อว่าทั้ง 3 กระทรวงที่ถูกกล่าวถึงจะให้ความร่วมมือ เมื่อถามว่า คตส. ระบุว่า 3 กระทรวงคือกระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงคมนาคม ยังไม่ยอมให้ความร่วมมือ แต่ในทางปฏิบัติเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติอาจจะยังทำไปไม่ถึงขั้นตอน ไม่ใช่การไม่ให้ความร่วมมือ ส่วนการแก้กฎหมาย ป.ป.ช. นั้น ก็มีการหารือกันอยู่ หากมีการเสนอมาก็จะพิจารณาต่อไป

แม้ว-หญิงอ้อสู้คดีซื้อที่รัชดาฯ
 ที่โรงแรมโซฟิเทล เซ็นทรัล ลาดพร้าว นายนพดล แถลงถึงปัญหาการจัดซื้อที่ดินย่าน    รัชดาฯ ของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยาอดีตนายกรัฐมนตรี ว่า คุณหญิงพจมาน และ พ.ต.ท. ทักษิณ ยินดีและเต็มใจที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง ยืนยันว่าการประมูลซื้อที่ดินโปร่งใสจะเห็นว่าไม่มีการใช้ชื่อปลอมหรือนอมินี ก่อนซื้อทางกองทุนพื้นฟูฯ ยังได้ทำหนังสือสอบถามไปยัง ป.ป.ช. กฤษฎีกาและอัยการสูงสุด ซึ่งได้รับคำแนะนำว่าทำได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีอำนาจกำกับดูแลกองทุนฟื้นฟูฯ ดังนั้น การต่อสู้ในชั้นศาลจะอยู่ที่ประเด็นนี้เป็นหลัก ตนฝากว่าการตีความมาตรา 100 อย่าทำแบบเอาสีข้างเข้าถู จะไปตีความแบบครอบจักรวาลไม่ได้

ปรามคตส.อย่าให้ข่าวชี้นำ
 นายนพดล กล่าวต่อว่า กรณีที่นายนาม ยิ้มแย้ม ประธาน คตส. ระบุว่าที่ดินดังกล่าวเหมือนการปล้นมาตนได้ฟังแล้วตกใจเพราะท่านเป็นถึงอดีตผู้พิพากษาแต่มีการอคติใส่ร้าย จะเรียกว่าปล้นไม่ได้ ดินอยู่ในเมืองไม่ใช่ป่าสงวน แต่คงจะสู้ คตส. ไม่ได้ก็ต้องขอความเป็นธรรมและระมัดระวังการให้ข่าว อย่าชี้นำ ไม่อยากให้มีการด่วน แต่เราจะไปคาดหวังกับความยุติธรรมคงลำบาก ตนไม่อยากเดาว่าเบื้องหลังคืออะไร แต่เราจะต่อสู้จนถึงที่สุด นอกจากนี้อยากขอความยุติธรรมจากสื่อให้กับคุณหญิงพจมานและอดีตนายกรัฐมนตรี อยากให้มีการเสนอข่าวทั้งสองทาง อย่างตรงไปตรงมา มิฉะนั้นจะมีข่าวของ คตส. แต่ฝ่ายเดียว
 
"สำหรับการตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน ของ คตส. ทีมทนายความจะขอดูรายละเอียด รายชื่อตัวบุคคลที่เข้ามาทำหน้าที่ หากพบว่ามีบุคคลที่เป็นขาประจำ ทางเราก็จะยื่นคัดค้านรายชื่อ เบื้องต้นคาดว่าจะยื่นคัดค้าน 1-2 คน ซึ่งยังไม่ขอเปิดเผย เราไม่ได้เป็นการตีรวนแต่เป็นการยื่นคัดค้านตามระเบียบของ คตส. ยอมรับตอนนี้ผมทำงานลำบาก วันนี้ก็มีทหารมาเฝ้าติดตาม ซึ่งทราบว่าเป็นนายทหารยศระดับนายพันสั่งมา ตอนนี้จึงต้องสลับใช้รถสองคัน ผมอยากขอความ เป็นธรรมเพราะผมทำหน้าที่ตามวิชาชีพตรงไปตรงมา" นายนพดล กล่าว

อดีตนายกฯ อยากมาสู้คดีเอง
 สำหรับการเดินทางกลับมาต่อสู้คดีของ  พ.ต.ท.ทักษิณ นายนพดล กล่าวว่า จากการพูด คุย ท่านอยากจะกลับมาต่อสู้ด้วยตัวเอง แต่ถ้ามีการแจ้งข้อกล่าวหาในตอนนี้ การเดินทางกลับจะต้องพิจารณาในประเด็นที่เกี่ยวกับความมั่นคงและความสบายใจของรัฐบาล แต่เมื่อใดคดีขึ้นสู่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง พ.ต.ท. ทักษิณ ก็พร้อมกลับมาต่อสู้คดีอย่างแน่นอน ส่วนการเสนอให้ราชการร่วมมือกับ คตส. เป็นเรื่องดีแล้ว
 
นายพนัส สิมะเสถียร ประธานคณะกรรมการกฤษฎีกาคณะพิเศษ ซึ่งพิจารณาร่าง พ.ร.บ. สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า หลังจากกระทรวงการคลังทำหนังสือสอบถามความคิดเห็นก็มีการตั้งคณะกรรมการชุดพิเศษขึ้นมาพิจารณา ซึ่งคืบหน้าไปมาก โดยจะมีการประชุม อีก 1-2 ครั้ง ก็จะสามารถสรุปได้ ส่วนกระแสข่าวว่ากฎหมายดังกล่าวให้คุณแก่รัฐบาลชุดที่แล้วก็เป็นเพียงข่าว ตนไม่ทราบและไม่กดดัน

คกก.กฤษฎีกาถกก.ม.หวย
 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการประชุมของคณะกรรมการฯในวันที่ 1 ก.พ.นี้ จะพิจารณา เรื่องกฎหมายดังกล่าวจะเป็นการนิรโทษกรรมแก่รัฐบาลชุดที่แล้วหรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมามีความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไปซึ่งยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ ส่วนความคืบหน้าการสอบสวนโครงการออกสลากพิเศษเลขท้าย 2-3 ตัว ของ คตส. ที่มีนายอดุม เฟื่องฟุ้ง เป็นประธานนั้นใกล้สรุปผลแล้ว เหลือเพียงเชิญนายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานบอร์ดสำนักงานสลากกินแบ่ง และนายวัลลภ พลอยทับทิม ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มาชี้แจงในวันที่ 1 ก.พ.นี้ ซึ่งหลังจากนั้นจะสรุปผลเพื่อชี้มูลความผิดต่อไป

เผยประเด็นชี้มูลความผิด
 สำหรับประเด็นที่อนุกรรมการตรวจสอบจะสรุปผลชี้มูลความผิดจะมี 2 เรื่อง คือ 1.ในประเด็นข้อกฎหมาย ซึ่งเรื่องนี้แนวทางหลักของการเอาผิดคือการที่ ครม. ในรัฐบาลชุดที่แล้ว ร่วม กันออกมติ ครม. ทำโครงการหวยบนดิน โดยผิดต่อ พ.ร.บ.สำนักงานฯ น้ำหนักการชี้มูลประเด็น ดังกล่าวจะมีการอ้างอิงคำวินิจฉัยของคณะกรรมการ กฤษฎีกาคณะพิเศษที่มีความเห็นว่ามติ ครม. ที่ออกหวยบนดินผิดต่อ พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และ 2. คือการนำเงินรายได้หวยบนดิน ซึ่งเป็นเงินนอกงบประมาณไปใช้โดยไม่ถูกต้อง
 
นายอุดม กล่าวว่า ในวันที่ 1 ก.พ. นายศุภรัตน์และนายวัลลภ ได้ตอบรับมาแล้ว หลังจากนั้นก็จะนำข้อมูลมาสรุปต่อไป ส่วนกรณีนายนพดล ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน จะต่อสู้คดีซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษกถึงศาลฎีกา เป็นเรื่องตามขั้นตอนของกฎหมาย พยานหลักฐานทุกอย่างชัดเจนในการตั้งอนุกรรมการไต่สวนและหากพูดไปตอนนี้อาจมีผู้ไม่ประสงค์ดีมาเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงในสำนวนจนทำให้การสอบสวนเสียหายได้

นายกฯสั่งครม.ให้ข้อมูลคตส.
 ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุม ครม. พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งให้ครม.ทราบถึงผลการหารือร่วมกับ คตส. และ คมช. ให้หน่วยงานรัฐร่วมมือกับ คตส. ด้วย เพราะการให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลก็ไม่ได้เป็นเรื่องยากลำบากอะไร และ ถือเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ความร่วมมือระหว่าง คตส. กับรัฐบาลเป็นไปอย่างราบรื่น โดยเราจะขอให้ คตส. ส่งข้อมูลมาที่รัฐบาลว่าต้องการข้อมูลอะไรบ้าง ทั้งนี้ ครม. ยังเห็นชอบให้ส่งหลักฐานเกี่ยวกับเรื่องการให้เงินกู้เพื่อซื้อเครื่องจักรและพัฒนาประเทศแก่รัฐบาลพม่า ซึ่ง ครม. ได้มีการประชุมปรึกษาเมื่อวันที่ 18 พ.ค. 47 และวันที่ 8 มิ.ย. 47 รวม 2 ครั้ง วงเงิน 4,000 ล้านบาท พร้อมทั้งรายงานการประชุมเพื่อประกอบการดำเนินการตรวจสอบให้กับ คตส. ด้วย
 
ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมครม. ว่า ในการประชุม ครม. พล.อ.สุรยุทธ์ ได้หยิบยกผลการหารือระหว่าง คตส. กับ คมช. มาแจ้งให้ ครม. ทราบ โดยระบุว่า ทาง คตส. ขอความร่วมมือในเรื่องการส่งข้อมูล ซึ่งรัฐบาลก็พร้อมอยู่แล้ว และจะได้มีการประสานกับ คตส. ต่อไป เรื่องรายละเอียดต่าง ๆ เหล่านี้ไม่มีปัญหาอะไร รัฐมนตรีแต่ละกระทรวงก็รับทราบแนวทางของรัฐบาลอยู่แล้ว ในเรื่องการให้ความร่วมมือในการปราบปรามคอร์รัปชัน

แฉ 78 โครงการรัฐเสี่ยงทุจริต
 คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ รมต. ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงแผนการตรวจราชการแบบบูรณาการเพื่อมุ่งผลสัมฤทธิ์ตาม นโยบายของรัฐบาลประจำปี 2550 ที่ ครม. ให้ความเห็นชอบว่า แผนดังกล่าวเป็นการบูรณาการข้อมูลและระบบการทำงานเพื่อให้สอดคล้องกันในองค์กร พร้อมเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ทั้งนี้เบื้องต้นพบว่ามี 78 โครงการของส่วนราชการที่มีความเสี่ยงต่อการทุจริต และใช้งบประมาณสูง ซึ่งเกี่ยวข้องกับหลายส่วนราชการ ซึ่ง ครม. เห็นควรให้ผู้ตรวจราชการวางแผน  ร่วมกันในการตรวจโครงการเหล่านี้ตั้งแต่เริ่มจัดทำงบประมาณ โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปีงบประมาณ 2551 เป็นต้นไป ทั้งนี้จะมีการรายงานผลทุก ๆ 3 เดือน และกำหนดคุณสมบัติของผู้ตรวจราชการด้วย

หนุนแก้ก.ม.เอาผิดนักการเมือง
 นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช.  กล่าวถึงการแก้กฎหมายว่า คณะทำงานด้านกฎหมายของ ป.ป.ช. กำลังพิจารณาแก้ไข   พ.ร.บ. ป.ป.ช. ทั้งระบบอยู่ ซึ่งได้เชิญคณะกรรมการกฤษฎีกา และกระทรวงยุติธรรม เข้า  มาร่วมในการพิจารณาแก้ไขด้วย คาดว่าจะเริ่มประชุมได้ในสัปดาห์หน้า ซึ่งมาตรา 66-68 ก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะมีการแก้ไข เพื่อเปิดช่องให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้ามาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อนักการเมืองที่ทุจริตได้ หรือ ป.ป.ช. ตั้ง   เรื่องขึ้นมาเอง โดยไม่ต้องรอให้ผู้เสียหายโดยตรงเข้ามาร้องเรียนเหมือนที่ผ่านมา เพราะทำให้กระบวนการเอาผิดนักการเมืองยาก การแก้ไข กฎหมายดังกล่าวคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือน ก.พ.นี้

ป.ป.ช.จ่อฟันอดีตผกก.สืบ 6
 นายวิชา ในฐานะประธานอนุกรรมการ ไต่สวน พ.ต.อ.ฤทธิรงค์ เทพจันดา อดีต ผกก.สส. น.6 ข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ไม่จับกุมกลุ่มผู้ชุมนุมที่ทำร้ายร่างกายประชาชนที่ตะโกนขับไล่  พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้า คณะอนุกรรมการฯ จะสรุปสำนวนการไต่สวนเรื่องนี้ส่งให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลได้ ภายหลังจากที่คณะอนุกรรมการได้ข้อมูลการใช้โทรศัพท์ในวันเวลาที่เกิดเหตุของ พ.ต.อ. ฤทธิรงค์ ซึ่งเป็นหลักฐานชิ้นสุดท้ายที่คณะอนุกรรมการจะพิจารณาประกอบสำนวน
 
น.ส.สมลักษณ์ จัดกระบวนพล กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนการขึ้นค่าตอบแทนสามองค์กรอิสระ กล่าว ว่า ในวันที่ 7 ก.พ.นี้ คณะอนุกรรมการฯ จะเรียก นายนพดล เฮงเจริญ อดีตเลขาธิการศาลรัฐธรรมนูญ และวันที่ 14 ก.พ. จะเรียก พล.ต.ต.เอกชัย วารุณประภา อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการ เลือกตั้ง (กกต.) มาให้ปากคำกรณีการออก ระเบียบขึ้นค่าตอบแทนของหน่วยงานตนเองในขณะนั้น ซึ่งคณะอนุกรรมการฯ จะพิจารณาถึงเจตนาและกฎหมายที่รองรับการออกระเบียบขึ้นค่าตอบแทนดังกล่าวว่าเป็นอย่างไร.

ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์