ตำรวจท่องเที่ยวโชว์ฟอร์มจับแก๊งโจรเปรู อาละวาดลักทรัพย์ในสนามบินสุวรรณภูมิ เหยื่อรายล่าสุดนักการทูตญี่ปุ่นโดนขโมยกระเป๋าระหว่างแลกเงินที่เคาน์เตอร์แบงก์ เข้าแจ้งความ ตร.พบจากภาพวงจรปิดของแบงก์ 3 โจรเปรูเป็นคนลงมือ แถมยังย่ามใจมาเตรียมก่อเหตุอีกเลยโดนรวบคาสนามบิน สอบพบเข้าๆออกๆประเทศหลายครั้ง ประสานสถานทูตเปรูตรวจสอบประวัติ สงสัยก่อเหตุลักษณะเดียวกันมาแล้วหลายประเทศ
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 13 ม.ค. พ.ต.อ.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ พ.ต.อ.มนู เมฆหมอก พ.ต.อ.วิชัย เจริญผ่อง รองผบก.ทท. พ.ต.ท.สถิตย์ พรมอุทัย รองผกก.ทท. และหัวหน้าชุดปฏิบัติการตํารวจท่องเที่ยว ประจําท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ร่วมกันจับกุมแก๊งคนร้ายชาวต่างประเทศ 3 คน ก่อเหตุลักทรัพย์ในสนามบิน
สำหรับผู้ต้องหาทั้งหมดประกอบด้วย นายเมเฮีย ลาสทรา ฮาอูล อายุ 52 ปี นายการ์เซีย ดีอาช วิคเตอร์ ฮูโก้ อายุ 31 ปี และนายเอดเวิด คอนเทราส อาโลน อายุ 38 ปี ทั้งหมดสัญชาติเปรู พร้อมของกลางที่ยึดได้จากห้องพัก ?วัฒนาแมนชั่น? และ ?ราชารีสอร์ท? ย่านห้วยขวาง ประกอบด้วยกระเป๋าสะพาย ยี่ห้อพราด้า สีน้ำตาล 1 ใบ หนังสือเดินทางประเทศญี่ปุ่น 1 เล่ม บัตรโดยสารสายการบินกาตาร์แอร์เวย์ 1 ฉบับ ทั้งหมดเป็นของผู้เสียหาย และเสื้อโปโล สีขาว หมวก กางเกงซึ่งเป็นของผู้ต้องหาที่สวมใส่วันก่อเหตุ 1 ชุด จึงยึดไว้เป็นหลักฐานและนําตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.ต.ราชาเทวะ จ.สมุทรปราการ ดําเนินคดีข้อหาร่วมกันลักทรัพย์และรับของโจร
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 ม.ค. เวลา 12.40 น. นายโคซูฮีโร่ ฮิตาชิ นักการทูตประเทศญี่ปุ่นประจํากรุงกาตาร์ เข้าแจ้งความกับตํารวจท่องเที่ยวประจําสนามบินสุวรรณภูมิ ว่าถูกคนร้ายลักทรัพย์ขโมยกระเป๋าสะพาย ขณะยืนแลกเงินในธนาคารแห่งหนึ่งในสนามบินชั้น 4 อาคารผู้โดยสารขาออก
หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ประสานขอดูกล้องวงจรปิดของธนาคารดังกล่าว จึงพบผู้ต้องหาทั้ง 3 รายกำลังก่อเหตุ จนกระทั่งวันที่ 12 ม.ค. เวลาประมาณ 23.00 น. พบผู้ต้องหาทั้งหมดกำลังเดินปะปนมากับนักท่องเที่ยวชาวเกาหลี และเตรียมจะลงมือก่อเหตุอีก จึงเข้าจับกุม
จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 3 รับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุลักทรัพย์นายโคซูฮีโร่ และนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นมาหลายราย โดยทํางานเป็นทีม อาศัยช่วงที่เหยื่อกำลังวุ่นวายกับการแลกเงินลงมือ ส่วนวิธีการเข้าไทยนั้นมาในฐานะนักท่องเที่ยวมาจากทางภาคใต้ แล้วออกนอกประเทศทางด่านปอยเปต เข้าๆออกๆมาแล้วหลายครั้ง เจ้าหน้าที่ได้ประสานไปยังสถานทูตเปรู ให้ตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาทั้ง 3 รายนี้ คาดว่าน่าจะก่อเหตุลักทรัพย์ลักษณะนี้มาหลายประเทศ พร้อมกับแจ้งสถานทูตห้ามบุคคลเหล่านี้เข้าประเทศไทยอีกต่อไป
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์